เรียกว่า กลายเป็นรถที่ได้รับความสนใจจากหลายคนอย่างมาก สำหรับ เจ้ารถยนต์ Honda CR-V รุ่นใหม่ ที่ออกมาเอาใจสาวกคนมีครอบครัวกันในปีนี้ การกลับมาของรถยนต์ครอสโอเวอร์ในปีนี้ ได้รับความสนใจอย่างมาก ด้วยการฟื้นของตลาด และชื่อชั้นที่โดดเด่นจากรุ่นสู่รุ่น

Honda  CR-V 2023

การเปิดตัว Honda CR-V 2023 ในงานมอเตอร์โชว์ ไม่เพียงพกความโดดเด่นเท่านั้น รถรุ่นนี้ยังนำเสนอจุดสำคัญต่างๆมากมาย แต่วันนี้สำหรับใครที่สนใจ เราจะมาชำแหละรุ่นย่อย Honda CR-V ทั้งหมด ว่ารุ่นไหนคุ้มค่า น่าคบหา และตอบโจทย์ที่สุด

รุ่น E

รุ่นเริ่มต้น ของรถยนต์อเนกประสงค์คันนี้ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 1.5 เทอร์โบชาร์จ ทำกำลังขับสูงสุด 190 แรงม้า ให้แรงบิดสูงถึง 240 นิวตันเมตร ตอบสนองในการงาน สำหรับสายครอบครัว พกเกียร์ออโต้แบบ CVT ช่วยเพิ่มความประหยัดน้ำมันมากขึ้น และมีเพียงรุ่นขับเคลื่อล้อหน้า

Honda  CR-V 1.5 Turbo

ในรุ่นเริ่มต้นนี้ มาพร้อมล้ออัลลอย ขอบ 18 นิ้ว ตัวล้อทำสีเงิน สไตล์เดียวกับ CR-V รุ่นก่อน ส่วนตัวรถเน้นสภาพพร้อมใช้งาน อาทิ ชายกันชนล่างที่มาในแบบชิ้นงานดิบพลาสติกดำด้าน เรื่องความชอบคงต้องแล้วแต่คนมอง เพราะบางมุมก็อาจจะดูไม่หรูหรามากนัก แต่ก็ดูพร้อมลุยพร้อมเจอเศษหินดินฝุ่นมากกว่า

  • ทางด้าน ตัวรถจะมีออพชั่นที่ไม่เหมือนตัวอื่นๆหลาย อย่างดังนี้
  • หน้าจอเรือนไมล์ขนาด 7 นิ้ว
  • ไม่มีระบบ Paddle Shift
  • ไม่มีไฟหน้าสูง-ต่ำอัตโนมัติ
  • ไม่มี พาโนรามิกรูฟ
  • ไม่มีไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร
  • ไม่มี Honda Connect
  • ไม่มีปลายท่อไอเสียแสตนเลส
  • ไม่ได้กล้อง 360 องศา

เรียกว่าเป็นรุ่นประหยัดเน้นใช้งานของแท้ จะพูดแบบนั้น ก็ว่าได้ แต่ก็เหมาะสำหรับคนที่ไม่ได้ต้องการออพชันล้นหลามอะไรนัก

แต่ในส่วนระบบความปลอดภัย Honda Sensing มีมาให้ครบเซท ไม่ขาดตกบกพร่อง เมื่อเทียบกับเอสยูวีรุ่นอื่นๆ นับเป็นจุดเด่นสำคัญของเข้า CR-V ใหม่ ที่มาแบบจัดเต็ม

ราคา 1,419,000 บาท


รุ่น ES 4WD


พอมารุ่น ES 4WD จากที่จับข้อมูลที่ได้จากฮอนด้า ก็คือว่า สิ่งที่ถูกตัดไปเหี้ยน ในรุ่น E ที่เรากล่าวไปข้างต้นนั้น จะถูกเติมเข้ามาทั้งหมด ซึ่งเราคงไม่ต้องบรรยายซ้ำว่ามีอะไรบ้าง

Honda  CR-V 1.5 Turbo

ส่วนในห้องโดยสารปรับมาเป็นหน้าจอขนาด 10.2 นิ้ว ให้ความใหญ่โตชัดเจน

แต่ไม่เพียงเท่านั้น ในรุ่นนี้ คุณยังมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Real Time AWD ให้ติดปลายนวมมาด้วย เสริมความมั่นใจในการขับขี่มากขึ้นให้กับลูกค้า

นอกนั้นก็หมือนกันราวกับแกะ มีเพียง กระจังหน้าที่เปลี่ยน ซึ่งคุณพอจะสังเกตได้อยู่บ้างจากภายนอก

Honda  CR-V 1.5 Turbo
Honda  CR-V 1.5 Turbo

ดังนั้น จุดสำคัญ รุ่นนี้คือเติมออพชั่นที่หายไปในตัวเริ่มต้น และ เพิ่มขับสี่เข้ามานั่นเอง หรือ กล่าวได้ว่า เป็นตัวออพชั่นเต็มตามมาตรฐานที่ควรมีในปัจจุบัน

ราคา 1,599,000 บาท

รุ่น EL 4WD (7 ที่นั่ง)

จากรุ่น ES ก็จะเป็นคิวของรุ่น EL กันบ้าง ตัวนี้ จุดหลักแทบจะพูดว่ามีอย่างเดียวเลย คือ การเพิ่มพื้นที่ห้องโดยสารเป็น 7 ที่นั่ง ในรูปแบบ ของ 5+2 ที่นั่ง ทำให้ คุณสามารถจุผู้โดยสารมากถึง 7 คน ในคราวเดียวถ้าจำเป็น

ซึ่งรูปแบบ 7 ที่นั่งนี้ไม่มีให้เลือกในรุ่นอื่น จึงอาจจะพูดว่า นี่เป็นความสามารถพิเศษเฉพาะตัว ที่มีมาให้รถรุ่นนี้รุ่นเดียว

ส่วนรายละเอียดอื่น เรียกว่าไม่แตกต่างจากตัว ES เลย

ราคา 1,649,000 บาท

รุ่น e:HEV ES

จากเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ ถ้าต้องการออะไร ที่เหนือกว่านั้น รุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด คือคำตอบสำหรับคุณ ทางฮอนด้า เริ่มต้นแนะนำรุ่นไฮบริดด้วยรุ่นนี้ โดยราคาของมันนั้น ถูกกว่ารุ่น ES เครื่องเทอร์โบชาร์จ อยู่ 1 หมื่นบาทถ้วนเท่านั้น และนั่นอาจชักชวนให้ใครสนใจในตัวมันมากขึ้น

Honda  CR-V e:HEV
Honda  CR-V e:HEV

รุ่น ES e:hev ตอบสนองต่อคนที่อยากได้พลังขับ และความประหยัด

เครื่องยนต์ไฮบริดของ Honda CR-V 2023 มาพร้อมเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร และระบบมอเตอร์ไฟฟ้า มีความสามารถพลังขับรวมสูงสุด 207 แรงม้า ขณะที่แรงบิดสูงสุดก็อยู่ที่ 335 นิวตันเมตร (แต่เป็นเลขจากมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว) ประหยัดน้ำมันสูงสุด 20.8 ก.ม./ลิตร ซึ่งเป็นตัวเลขจากการทดสอบในรุ่น ES ที่ประหยัดที่สุดในรุ่น

จุดต่างจาก ตัวเทอร์โบ คือรถรุ่นนี้ มาพร้อมระบบขับเคลื่อนล้อหน้าเท่านั้น แต่สาวกฮอนด้าส่วนใหญ่ ก็เป็นคนไม่ได้ลุยอะไรมาก เว้นแต่อาจอยากจะได้ เผื่อมีไว้ใช้ ดีกว่าจะใช้แล้วไม่มี

  • ในเรื่องฟังชั่นที่เพิ่มมา มีดังนี้
  • เซอนเซฮร์กะระยะหน้า-หลัง
  • เพิ่มโหมดสปอร์ตเข้ามา
  • ระบบฟอกอากาศภายในรถ
  • ชุดปะยางชั่วคราว
  • เพิ่ม Deceleration Pedal มาแทนที่ Paddle Shift

เพิ่มสีใหม่ น้ำเงิน Canyon river Blue Metallic

อย่างไรก็ดี แม้ว่าข้าวของ อาจจะไม่ได้เพิ่มหรือปรับปรุงไปมาก แต่ในแง่การขับขี่จากที่ทดลองขับเมื่อเร็วๆนี้ ค่อนข้าง ชัดเจนว่า ทางฮอนด้า มีการปรับปรุงช่วงล่างระหว่าง รถทั้ง 2 รุ่น คือ เทอร์โบ และ ไฮบริด ให้แตกต่างกัน

รุ่นเทอร์โบ สำหรับบการขับใช้งานธรรมดาทั่วๆไป จะมีความนุ่มนวลมากกว่า และ เซทตัวให้มั่นใจเมื่อใช้ความเร็ว ส่วนทางไฮบริดจะออกแนว แน่นเฟิร์มตั้งแต่แรก มาฟีลลิ่งเดียว กับ รถยุโรป

สิ่งเดียวที่หายไปในรุ่นนี้คือ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ทำให้ มันดูจะด้อยกว่า Turbo ES แต่ทางกลับกัน คุณได้ความประหยัด เข้ามาเพิ่มเติมในการใช้งาน

ราคา 1,589,000 บาท

Honda CR-V รุ่น e:hev RS

รุ่น e:HEV RS เป็นรุ่นที่เน้นความสปอร์ตพรีเมี่ยม จนทำให้ มันดูเหมือนรถจากค่ายยุโรป

ทางด้านรุนท็อปไลน์อัพ ทางฮอนด้าได้จัดเต็มความสปอร์ต อย่างครบเครื่อง รุ่นนี้ ถ้าในอเมริกา จะเรียกว่า Sport Touring ถือเป็นครั้งแรกที่ CR-V มีรุ่น RS มาให้ เราๆ เลือกคบ

ในครั้งนี้ ทางฮอนด้า ยกระดับรถรุ่นนี้ให้เหนือกว่า เริ่มจาก

  • ล้ออัลลอยขอบ 19 นิ้ว
  • ยาง มิชลิน ติดรถ (รุ่นอื่น เป็น Toyo Tire)
  • ให้ไฟตัดหมอกหลัง
  • ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ สามารถหลบไฟ เพื่อนร่วมทางได้
  • ให้ระบบ Honda Smart Key
  • ระบบปรับอากาศ แยกอิสระ i-dualzone
  • ระบบนำทางในตัว
  • เครื่องเสียงพรีเมี่ยม Bose พร้อม ลำโพง 12 ตำแหน่ง
  • ระบบ Head Up Display ที่กระจกบังลมหน้า
  • เพิ่มทางเลือก สี แดง Ignite Red

ในภาพรวม เจ้ารุ่น RS ก็คือรุ่น สปอร์ต เน้นภาพลักษณ์ ให้ความพรีเมี่ยม ตอบลูกค้าที่ต้องการ ความสวยหล่อ และยังคงประสิทธิภาพเอาไว้

อย่างไรก็ดี ระหว่างรุ่น RS และ รุ่น ES นอกจากการตบแต่งแล้ว เรื่องสมรรถนะ มีเพียงอย่างเดียวที่แตกต่าง คือ ระบบ ขับเคลื่อนสี่ล้อ และ ล้อ 19 ช่วยให้ยางสัมผัสพื้นดีขึ้น แก้มเตี้ยลง อาจจะเป็นจุดสำคัญ อีกด้านที่มองข้ามไม่ได้

ราคา 1,729,000 บาท

สรุป Honda CR-V 2023 รุ่นไหนคุ้มค่า น่าคบหา

หลังจาก ผ่านทุกร่นย่อย จะพูดว่ารุ่นไหนน่าคบ … ดี … เพราะ หนนี้ ฮอนด้า มีครบทุกไลน์อัพที่เราอยากได้ ตามทุกความต้องการลูกค้า

ถ้าคุณไม่ได้ ยี่หระกับคำว่า 7 ที่นั่ง ดูเหมือนว่า รุ่น ES e:HEV จะน่าสนใจที่สุด ด้วย เครื่องไฮบริดและความประหยัดสุดขีด เหมาะสมกับความเป็นรถครอบครัว ตามแบบฉบับที่ควรจะเป็น

แม้ว่ารุ่นนี้จะขาด ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ แต่จากสภาพการณืใช้งานรถครอบครัวส่วนใหญ่ไม่ได้ไปลุยสักเท่าไร ส่วนเวลาฝนตก ก็ไม่มีใครบุ่มบ่ามขับห่าม ขนาดนั้น ดังนั้น การใช้รถที่มีเพียงระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ก็จัดว่าเหลือๆ สำหรับลูกค้าสายครอบครัวทั่วๆไปแล้ว

รุ่นคุ้มลองลงมา คือ E Turbo ซึ่งเรามองคล้ายกับ ES e:HEV ว่าบางที รถครอบครัว ก็ไม่ได้ต้องอะไรมากไปกว่า การมีพอให้พื้นที่ใช้สอยโดยสาร ขับสบาย ไม่ยุ่งยากวุ่นวาย ในการใช้งาน ราคาของมันหนีจากซีวิคตัวไฮบริดอีกนิดหน่อย ก็ได้ รถที่พร้อมใช้งาน

แต่ถ้าอยากได้ครบๆ หน่อย ก็ต้องก้าวขึ้น มา ES Turbo ซึ่งมีฟังชั่นครบกว่า และยังได้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ซึ่งมันเป็นรุ่นที่เราแนะนำให้ซื้อมากที่สุด สำหรับตัวเทอร์โบ โดยยกโจทย์เรื่องคุ้มค่าออกไป เพราะฟังชั่นที่ได้มาเพิ่มจาก ตัว E จัดว่าคุ้มและครบครันอยู่พอสมควร

ในส่วนรุ่น RS กับ EL 7 ที่นั่ง เราตัดสิน ว่ามันมีความเหมือนกัน ในแง่ความต้องการส่วนบุคคล เพราะ

EL 7 ที่นั่ง เพิ่มอย่างเดียว คือ เบาะแถว 3 ซึ่งบางคนอาจจะมองว่าไม่จำเป็น แต่ถ้าบ้านคุณครอบครับใหญ่ ไปยกครัวบ่อยๆ ก็นับว่าสนใจ แต่ถ้าจะเอานั่ง 7 จริงจัง ผมว่าไปเจ้า CX-8 อาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

เช่นกัน RS เป็นรุ่นที่เน้นความสปอร์ตตอบลูกค้า ออพชั่นที่เพิ่มขึ้นมาเป็นออพชั่นพรีเมี่ยม เราเชื่อว่าหลายท่าานอาจจะอยากได้ แต่ไม่ต้องการ ก็เซฟเงินได้มากโข อยู่ ตรงนี้ก็ต้องลองพิจารณากันดู

ในภาพรวม Honda CR-V 2023 ใหม่ เป็นรถที่เกิดมาเอาใจสาวกคนไทย ที่ต้องการรถยนต์อเนกประสงค์เรือนร่างสปอร์ต ขับสนุก รุ่นที่คุ้มสุดดีที่สุด ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคน

สิ่งที่เราพูดเป็นเพียงคำแนะนำ ในฐานะคนที่คลุกคลีกับรถมายาวนาน แต่การตัดสินใจซื้อนั้น เป็นเรื่องของแต่ละคน ที่มีความต้องการ ไม่เหมือนกัน

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่