นอกจากบรรดาของเหลว ในรถยนต์ข้างกายที่เราต้องเปลี่ยนเป็นประจำแล้ว ระบบกลไกต่างๆ ที่มีของเหลว เป็นตัวหล่อลื่น หรือบ้างอาจต้องการความสะอาดของระบบ ทางทีมวิศวกรจะติดตั้งพวกกรองเอาไว้แทบทั้งหมด และพวกมันมีความจำเป็นต้องเปลี่ยน เมื่อใช้รถไปเป็นระยะเวลานานๆ

กรองต่างๆ ในรถยนต์ มีความสำคัญและหน้าที่เหมือนกัน พวกมันเน้นในการดักฝุ่น หรือสิ่งสกปรก เพื่อให้ประสิทธิภาพระบบกลไกทำงานได้ดีลดข้อบกพร่องในระหว่างการทำงาน แต่น้อยคนจำรู้ว่า อะไรเปลี่ยนเมื่อไรบ้าง …

กรองน้ำมันเครื่องยนต์

กรองน้ำมันเครื่องยนต์ มีหน้าที่ดักเขม่าที่ติดมากับน้ำมันเครื่อง อันมาจากฝุ่นผงจากการเผาไหม้ โดยส่วนใหญ่แล้วกรองน้ำมันเครื่องยนต์จะมีระยะเปลี่ยนตั้งแต่ 8,000-15,000 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับรอบการถ่ายน้ำมันเครื่องยนต์ของรถแต่ละคัน 

กรองน้ำมันเครื่องยนต์ สมควรจะเปลี่ยนทุกครั้งที่คุณถ่ายน้ำมันเครื่องยนต์ เนื่องจากมีราคาค่อนข้างถูก กรองน้ำมันเครื่องทั่วมีราคาประมาณ 200-300 บาท ต่ออัน และถ้านับว่ามันช่วยรักษาสภาพเครื่องยนต์ในระยะยาวก็ถือว่าคุ้มค่าที่จะเปลี่ยนทุกครั้งที่ถ่ายน้ำมันเครื่อง

 

กรองอากาศ

กรองอากาศ เป็นชุดกรองที่ใช้ในการดักจับเขม่าหรือฝุ่นผงที่เครื่องยนต์ดูดติดมาในระหว่างทำงาน ชุดกรองอากาศ ส่วนใหญ่แล้วจะมีระยะทางการเปลี่ยนทุก 40,000 กิโลเมตร แต่เอาเข้าจริง ระยะทางที่ต้องเปล่ยนกรองอากาศของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน รถบางคันอาจไม่ได้ขับผ่านที่มีฝุ่นเยอะ เช่นขับต่างจังหวัด แต่ไม่ได้สมบุกสมบัน ก็เลยใช้วิธีตรวจสอบสภาพกรองอากาศว่ายังไหวไหม โดยดูจากคราบดำๆ ของกรองอากาศ

 ถ้าดำมากก็เปลี่ยนไปเลย เนื่องจากกรองอากาศมีผลต่อประสิทธิภาพของอากาศที่ไหลเวียนเข้าสู่เครื่องยนต์ หากอากาศกรองตันจะทำให้อากาศเข้าน้อย และสิ้นเปลืองน้ำมันโดยใช่เหตุ

 

กรองเบนซิน / กรองโซล่า

ทั้งกรองเบนซิน และกรองโซล่า มีความเหมือนกัน ในแง่การทำงาน มันเป็นกรองดักขี้ผงที่ปะปนมากับเชื้อเพลิง หรือภาษาอังกฟษจะเรียกว่า “กรองเชื้อเพลิง” (Fuel Filter)  เพียงแค่บ้านเรามาเรียกแยกกันตามเชื้อเพลิงที่รถคันนั้นๆ ใช้

กรองเชื้อเพลิง ส่วนใหญ่จะมีอายุการใช้งานสูงสุดประมาณ 50,000-60,000 กิโลเมตร แตกต่างกันไปบ้างตามคำแนะนำของแต่ละผู้ผลิต รวมถึงลักษณะการใช้งานรถของแต่ละคน 

โดยข้อสังเกตกรณีกรองเชื้อเพลิงตัน คือรถมีอาการเร่งสะดุดเครื่องยนต์อาจเดินเบาไม่เรียบ ถ้าร้ายและแสบสุดคือรถสตาร์ทไม่ติดเลย เปลี่ยนแบตก็ไม่ใช่ ทำอย่างไรก็หาไม่เจอ แทบจะล้านเปอร์เซ็นต์ฟันธงว่ากรองเบนซินตัน เพราะน้ำมันมาไม่ทั่วถึง บางคนทะเล่อใช้โดยไม่รู้สรุปหัวฉีดตายตามไปด้วยเรื่องใหญ่ขนานแท้เลยคราวนี้

 

กรองแอร์

กรองแอร์ คือชุดแผ่นกรองอากาศที่ไหลเวียนเข้าตู้คอยย์เย็นภายในรถ เพื่อขจัดเอาฝุ่นผงสกปรกออกก่อนเข้าตู่แอร์ ทำให้ตู้แอร์ไม่มีคราบสกปรก และสะอาดอยู่ตลอดเวลาที่เราใช้งาน

ตามคำแนะนำในศูนย์บริการรถยนต์ กรองแอร์ควรเปลี่ยนทุก 1 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร เพื่อสุขภาพที่ดีของคนในรถในการโดยสาร โดยส่วนใหญ่แล้วการเปลี่ยนกรองแอร์จะทำร่วมกับการล้างตู้แอร์แบบไม่ถอดตู้ เพื่อให้อากาศในรถเย็นสบาย และสะอาดในระหว่างการเดินทางครับ

กรองเกียร์  

กรองเกียร์ เป็นชุดกรองเขม่าผงในน้ำมันเกียร์ โดยมากจะติดตั้งไว้ในห้องเกียร์ ซึ่งการจะเปลี่ยนกรองเกียร์ จำเป็นต้องแกะอ่างน้ำมันเกียร์ออกมา จึงจะสามารถเปลี่ยนได้

ตามปกติแล้ว กรองเกียร์ในปัจจุบัน แทบจะไม่มคำแนะนำโดยตรงจากผู้ผลิตให้เปลี่ยน เนื่องจากส่วนใหญ่ชุดเยร์และน้ำมันเกียร์ในปัจจุบัน แทบจะเป็นการทำงานแบบ   Life Time   หรือใช้งานได้จนถึงหมดอายุการใชงานของรถ ( 7 ปีโดยประมาณ)

แต่ในอดีตกรองเกียร์ถูกแนะนำให้เปลี่ยนทุกๆ  40,000 กิโลเมตร โดยอาศัยรอบการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ ในการตรวจสอบภายในระบบเกียร์ไปพร้อมกัน ซึ่งการตรวจสอบโดยมากจะต้องถอดอ่างน้ำมันเกียร์ออกด้วย ซึ่งเป็นโอกาสอันดี ทำให้เข้าถึงชุดกรองเกียร์

จริงๆ ตัวกรองเกียร์ราคาไม่กี่บาท แต่ที่ส่วนใหญ่เปลี่ยนกรองเกียร์จะมีค่าใช้จ่ายสูง เนื่องจาก ต้องซื้อประเก็นอ่างน้ำมันเกียร์ด้วย แถมน้ำมันเกียร์แต่ละครั้งก็ลากเลือดเอาการอยู่ใช่ย่อย แต่ดีว่าเปลี่ยนแล้วสบายใจ ใช้ได้ยาว ถ้าคิดว่าคุ้มไหม ก็ต้องตอบว่าคุ้มที่จะเปลี่ยน  เนื่องจากเกียร์เราดูแลน้อยกว่าเครื่องยนต์เสียอีก ทั้งที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน

 

กรองแก๊ส (เฉพาะรถใช้แก๊ส)

สำหรับใครที่มาสายดมแก๊ส ระบบแก๊สก็มีชุดกรองเหมือนกัน โดยในระบบจะมีกรอง 2 ลูกติดตั้งเอาไว้ เพื่อดักจับฝั่นสกปรกในระบบ

ตัวแรกเป็นกรองที่อยู่ในหม้อต้มแก๊ส สมควรจะเปลี่ยนทุกๆ 20,000-25,000 กิโลเมตร หรือประมาณว่าเปลี่ยนมันทุกปีตัวกรองจะเป็นกรองเล็กๆ อยู่ในหม้อต้มแก๊ส ก่อนจ่ายไปยังหัวฉีดด้านหน้า

   

ส่วนตัวที่ 2 จะเป็นกรองที่อยู่ก่อนเข้าหัวฉีด กรองตัวนี้แนะนำให้เปลี่ยนทุกๆ  40,000-50,000 กิโลเมตร   หรือทุกๆ 2 ปี โดยประมาณ

ค่าใช้จ่ายกรองทั้ง 2 ก็ไม่แพงมาก หากเป็นไปได้ก็เปลี่ยนเพื่อให้ระบบทำงานได้ตามสะดวก ไม่มีมีสะดุดระหว่างการขับขี่  

 

เป็นอย่างไรบ้างกับบรรดากรองต่างๆ ในรถยนต์ที่เราใช้ชิ้นส่วนเล็กๆ อย่างกรอง มักจะถูกมองข้ามโดยคิดว่ามันไม่สำคัญเท่าไรนัก ทั้งที่ความจริงกรองนั้นมีความสำคัญอย่างมากในการทำหน้าที่ดักจับของเสียออกจากระบบต่างๆ ทำให้มีความสะอาด และใช้งานได้ยาวนานมากขึ้น

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่