เชื่อว่า ทุกวันนี้เราหลายคนต่างเริ่มรู้สึกว่า ประกันภัยรถยนต์มีประโยชน์มากขึ้น พวกมันอาจไม่ใช่สินค้าที่มีผลต่อรถโดยตรง หากช่วยลดความเสี่ยงที่จะต้องชดใช้ค่าเสียหายในกรณีที่เราเกิดอุบัติเหตุไม่ว่าจะเราชนเขา หรือเขาชนเรา และแม้จะจ่ายเงินค่าประกันมากมายทุกปี แต่เราหลายคนอาจไม่เคยทราบการเรียกร้องสิทธิ หรือ สิทธิที่พึงได้รับจากประกันภัยเลยด้วยซ้ำ 

 

1.ประกันภัยต่อความเสียหายตัวรถ

ประกันภัยต่อความเสียหายตัวรถ เป็นการรับผิดชอบตามสิทธิขั้นพื้นฐานของประกันภัยภาคสมัครใจ โดยบริษัทประกันภัยจะรับผิดชอบต่อความเสียหายตัวรถยนต์เมื่อเราเกิดอุบัติเหตุ และมีหน้าที่จัดหา และซ่อมแซมรถยนต์เราและหรือรวมถึงของคู่กรณีให้กลับมาอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานดังเดิม

ความรับผิดชอบดังกล่าวจะครอบคลุมมากเพียงใด ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจทำประกันภัยของเรา โดย

ประกันภัยชั้น 1 ครอบคลุม ทั้งรถเราและรถของคู่กรณี

ประกันภัยชั้น 2 +/3+  (ประเภท5) ครอบคลุมทั้งเราและรถของคู่กรณี   (แต่ต้องเกิดจากอุบัติเหตุเท่านั้น)

ประกันภัยชั้น 3 รับผิดชอบเฉพาะรถของคู่กรณี รถเรารับผิดชอบซ่อมเอง

 

2.ความรับผิดชอบต่อทรัพย์สิน

การรับผิดชอบต่อทรัพย์สิน เป็นการรับผิดชอบขั้นพื้นฐานที่มีในประกันภัยภาคสมัครใจทุกประเภท ที่เราทำ โดยคำว่า “ทรัพย์สิน” ของประกันภัยนั้น หมายถึงสิ่งของต่างๆ ทั้งในรถยนต์ของเรา และรถคู่กรณี หรือ ส่วนควบ ส่วนประกอบตัวรถ

โดยในชั้น 3 หรือประเภท 3 การชดใช้ค่าเสียหายต่อคู่กรณี ในกรณีที่เราขับรถไปชนรถคนอื่น หรือคัน ด้วยการชดใช้ค่าเสียหายจากทรัพย์สินเป็นสำคัญ 

ในกรณีชั้น 1 การรับผิดชอบทรัพย์สิน จะเกิดขึ้น เมื่อทรัพย์สินเกิดชำรุดหรือเสียหายจากการเกิดอุบัติเหตุ คุณทั้งในฐานะคู่กรณีและหรือผู้เอาประกันสามารถเรียกร้องต่อบริษัทประกันภัยได้ หากพิสูจน์ได้ว่า ทรัพย์สินของคุณเกิดพังเสียหาย ชำรุดจากการเกิอุบัติเหตุ

แต่การชดใช้ค่าเสียหายจะไม่ชดใช้ให้เต็มจำนวนมูลค่า เนื่องจากจะมีการหักค่าเสื่อมของการใช้ของชิ้นนั้นๆ โดยดูตามระยะเวลที่เคยครอบครอง (แต่น้อยคนจำทราบข้อนี้)

accident-thai (2)

3.การรับผิดชอบต่อร่างกาย

เมื่อเกิดอุบัติเหตุ หลายครั้งนอกจากความเสียหายต่อทรัพย์สิน การบาดจ็บทางร่างกาย ยังอาจะเกิดขึ้น ทั้งกับเราและคู่กรณี

การรับผิดชอบต่อร่างกาย เป็นสิทธิพื้นฐานของประกันภัยทุกบริษัท โดยทั้งเราในฐานะคู่กรณี หรือ ผู้เอาประกันภัย  มีสิทธิได้รับการรักษาพยาบาลจนกลับมาใช้ชีวิตได้ดังเดิม ซึ่งการรับผิดชอบนั้น ไม่ได้มีขอบข่ายการจำกัดเพียงผู้ขับขี่รถยนต์คันนั้นๆ เท่านั้น แต่ยังรับผิดชอบครอบคลุมกับผู้โดยสารภายในรถ ทั้งของเราและผู้เอาประกันภัย  

ในกรณีที่คุณได้รับบาดเจ็บหรือต้องรักษาพยาบาล ไม่ว่าจะเป็นผู้เอาประกันภัย หรือคู่กรณี สามารถเรียกร้องสิทธิค่ารักษาบาลได้ แม้ว่าอาการบาดเจ็บนั้นอาจจะไม่ได้เกิดในวันที่เกิดอุบัติเหตุก็ตาม แต่เกิดขึ้นในวันถัดมา เช่นมีอาการต้องสงสัยว่ามาจากอุบัติเหตุ

คุณสามารถเข้าพบแพทย์ รักษาตัวแล้วขอใบรับรองรวมถึงนำใบเสร็จมาเบิกประกันได้เลย

 

4.ค่าประกันตัวผู้ขับขี่

ในบางกรณี ผู้ขับขี่อาจถูกเจ้าหน้าที่ตั้งข้อหาในทางคดีอาญา เนื่องมาจากการขับรถจนเกิดอุบัติเหตุในกรณีดังกล่าว คุณสามารถเรียกร้องสิทธิจากประกันภัยได้ให้ช่วยคุ้มครองคุณ ด้วยการร้องสิทธิขอประกันตัวผู้ขับขี่ ซึ่งมีความคุ้มครองในการประกันภัยภาคสมัครใจทุกประเภท 

5.การรับผิดชอบต่อรถของผู้เอาประกัน 

ประกันประเภท 1 และ 2/3+ เป็นประกันภัยที่ครอบคลุมรับผิดชอบต่อรถยนต์ของเรา รับผิดขอบต่อความเสียหายที่เกิดกับตัวรถ ส่วนควบ (ที่ได้แจ้งไว้กับทางบริษัท)   โดยจะรับผิดชอบไม่เกินร้อยละ 80 มูลค่าทุนประกันที่เราได้เลือกไว้ ตอนขอเอาประกันภัย  

หากเกินกว่ามูลค่าที่ทางบริษัทกำหนด หรือเกินร้อยละ 80 จากความเสียหายในอุบัติเหตุครั้งนั้น ทางบริษัท ประกันจะตีเป็นมูลค่าความเสียหายเต็มจำนวน หรือ  Total Lost   และ คืนทุนประกันให้กับผู้เอาประกันภัย เพื่อไปดำเนินการต่อตามสมควร

ในกรณีรถหาย หรือ ไฟไหม้ ทางประกันจะตีเป็นมูลค่าความเสียหายเต็มจำนวนดังกล่าว และชดใช้ให้ผู้เอาประกันภัยทันที

 

การซื้อประกันภัยสมควรจะต้องทราบอย่างละเอียดถี่ถ้วน ถึงข้อบังคับต่างๆ ที่เหมาะสม ไว้วันหน้าถ้ามีโอกาส ทีมงาน   Ridebuster   เราจะมาเล่าถึงเรื่องราวประกันภัยอีกนะครับ

ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com



แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่