หลังจากที่ร้างการขายรถแอดเวนเจอร์ทัวร์ริ่งรุ่นเรือธงของตนเองไปเนิ่นนาน ในที่สุด Triumph ก็พร้อมที่นำมันกลับมารุกตลาดนี้อีกครั้ง สำหรับ All-New Triumph Tiger 1200 ที่มีราคาเริ่มต้น 972,000 บาท

All-New Triumph Tiger 1200 ราคา 972,000 บาท รุ่นล่าสุด ถูกเผยโฉมเป็นครั้งแรกเมื่อปลายปี 2021 ที่ผ่านมา โดยมันถือเป็นการปรับโฉมแบบ Model-Change เมื่อเทียบกับตัวรถโฉมก่อนหน้า ที่ค่อยๆปรับปรุงรายละเอียดทางเทคนิคเพียงเล็กๆน้อยๆเท่านั้นจากตัว Tiger 1200 รุ่นแรก เมื่อปี 2012 (ซึ่งใช้ชื่อ Tiger Explorer มาแต่แรก แล้วค่อยเปลี่ยนเป็น Tiger 1200 ในปี 2017 เมื่อมีการปรับโฉมแบบ Big Minor-Change)

ดังนั้นเจ้าเสือใหญ่รุ่นนี้ จึงมาพร้อมกับเครื่องยนต์ลูกใหม่ ที่แม้จะยังคงเป็นบล็อค 3 สูบเรียงเช่นเดิม แถมยังมีความจุเล็กลงกว่าเดิม จาก 1,215cc เหลือ 1,160cc แต่มันกลับให้พลังกำลังได้มากขึ้นเป็น 148 PS ที่ 9,000 รอบ/นาที กับแรงบิดสูงสุดอีก 130 นิวตันเมตร ที่ 7,000 รอบ/นาที จากเดิม 139 แรงม้า กับ 122 นิวตันเมตร ซึ่งจะเห็นได้ว่าเครื่องยนต์รุ่นใหม่นั้นมีประสิทธิภาพขึ้นมากเลยทีเดียว

โดยส่วนสำคัญที่ทำให้เครื่องยนต์ลูกใหม่ มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นกว่าเดิมมากนั้น ก็เป็นเพราะเพลาข้อเหวี่ยงแบบ T-Plane ซึ่งแม้จะทำให้การจุดระเบิดไม่สม่ำเสมอ แต่ก็แลกมาซึ่งการเรียกกำลังที่ดุดันมากขึ้น และด้วยหม้อน้ำแบบแยกส่วน ที่ใหญ่ขึ้น จึงทำให้เครื่องยนต์สามารถเค้นกำลังได้อย่างมีสเถียรภาพขึ้นมาก

และเนื่องจากที่ผ่านมา Triumph Tiger 1200 มักถูกค่อนขอดมาโดยตลอดเรื่องน้ำหนักตัวที่เทอะทะจนทำให้ลุยลำบาก ทาง Triumph จึงค่อนข้างเน้นหนักในเรื่องของการไล่น้ำหนักส่วนเกินออกจากรถไปให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตั้งแต่การปรับปรุงเพลาขับให้มีน้ำหนักเบาลงถึง 1.5 กิโลกรัม, สวิงอาร์มหลังใหม่แบบ Tri-Link ที่อาจจะดูขาดสเน่ห์ไปเมื่อเทียบกับสวิงอาร์มแขนเดี่ยวแบบเดิม และดูมีชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องเยบอะกว่า แต่ปรากฏว่าน้ำหนักของมันดันเบาลงกว่าเดิมถึง 5.4 กิโลกรัม

ไม่เพียงเท่านั้น ชุดเฟรมของมันเองยังถูกปรับปรุงใหม่ โดยแม้เมนเฟรมจะยังคงเป็นแบบโครงเหล็กถัก แต่ซับเฟรมเปลี่ยนใหม่ ให้เป็นแบบแยกส่วนจากเมนเฟรม และทำขึ้นจากวัสดุอลูมิเนียม ซึ่งแม้ทางค่ายจะไม่ได้เปิดเผยว่ามันช่วยให้น้ำหนักรถเบาลงกว่าเดิมอีกเท่าใด แต่หากรวมกับชิ้นส่วนอื่นๆที่ถูกไล่เบาไป เจ้า Tiger 1200 รุ่นใหม่นี้ ก็มีน้ำหนักที่เบาลงกว่ารุ่นพี่สุทธิที่ 25 กิโลกรัม จนอยู่ในระดับที่สามารถสู้กับคู่แข่งในเรื่องนี้ได้อย่างสมน้ำสมเนื้อสักที

และนอกจากงานตกแต่งหน้าตาภายนอก ที่แทบไม่หนีไปจากรุ่นรองอย่าง Tiger 900 นอกไปจากความบึกบึนที่มากกว่า เจ้า Tiger 1200 ยังถูกแบ่งรุ่นย่อยไว้ 5 แบบ ไม่ต่างกัน เริ่มจากรุ่นเน้นวิ่งถนนดำ GT ซึ่งจะได้ชุดล้ออัลลอยด์หน้า 19 นิ้ว หลัง 18 นิ้ว และระบบอิเล็กทรอนิกส์เท่าที่จำเป็นอีกเล็กน้อย ตามด้วยรุ่น GT Pro ที่คล้ายกับรุ่นก่อนหน้า แต่มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยและลูกเล่นบางรายการที่มากกว่า และยังมีรุ่น GT Explorer ที่ได้ถังน้ำมันขนาด 30 ลิตร แทนถัง 20 ลิตร แถมยังมีระบบฮีทเตอร์ที่ปลอกแฮนด์กับเบาะนั่ง เพื่อการเดินทางไกลที่สะดวกสบายกว่า

ส่วนรุ่นเน้นวิ่งทางฝุ่น ก็จะประกอบไปด้วย Rally Pro และ Rally Explorer ซึ่งจะมีความแตกต่างในเชิงรายละเอียดระหว่างกันไม่ต่างจากรุ่น GT แต่ถ้าหากให้เทียบกับรุ่นเน้นวิ่งถนนดำ มันก็จะมาพร้อมกับชุดระบบกันสะเทือนที่มีช่วงยุบเยอะกว่า และความสูงที่มากกว่า รวมถึงโหมดการขับขี่ Off-Road Pro ที่พร้อมสำหรับการบุกตะลุยมากกว่า

เบื้องต้น 2023 Triumph Tiger 1200 ที่เปิดตัวและวางจำหน่ายในประเทศไทย จะมีเฉพาะตระกูล Rally เท่านั้น และจะถูกตั้งราคาวางจำหน่ายไว้ที่

  • 2023 Triumph Tiger 1200 Rally Pro : 972,000 บาท
  • 2023 Triumph Tiger 1200 Rally Explorer : 1,039,000 บาท

*ในส่วน Tiger 1200 รุ่นธรรมดา และรุ่น GT กับ GT Pro ยังไม่มีกำหนดการนำมาจัดจำหน่ายในประเทศไทย

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่