ข่าวคราวความเคลื่อนไหวเรื่องการทำ “กระบะไฮบริด” จาก Toyota อาจไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ในการอัพเดทข้อมูลล่าสุด ดูเหมือนว่ามันอาจมาให้เราได้เห็นไวกว่าที่ใครหลายคนคิด

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เป็นข้อมูลจากสื่อฯออสเตรเลีย Drive.com.au ที่ระบุว่า พวกเขาได้รับข้อมูลจากวงในบริษัท Toyota ที่สนิทกับตนเอง เปิดเผยว่าตอนนี้ทางบริษัทผู้ผลิตยักษ์ใหญ่เจ้าดังกล่าว กำลังพิจารณาแผนการทำรถกระบะรุ่น Hilux (ชื่อสำหรับทำตลาดอย่างเป็นทางการในประเทศออสเตรเลียของ Hilux Revo ในไทย) ที่มาพร้อมขุมกำลัง Hybrid กันอยู่ เพื่อเตรียมรับมือกับคู่แข่ง อย่าง Ford Ranger หรือ Mitsubishi Trition ที่ถูกระบุว่าพวกมันเองก็กำลังจะมีขุมกำลังไฮบริดให้เลือกซื้อในปี 2024 เช่นกัน

โดยทาง Toyota เอง ก็จะประเดิมใช้กับตัวรถรุ่นปัจจุบันกันเลยเช่นกัน เพื่อขายมันให้ทันปี 2024 ไม่ต้องรอไปถึงการเปลี่ยนเจนเนอเรชัน ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงปี 2025 เป็นอย่างเร็ว

ซึ่งอันที่จริง มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ทาง Toyota ไม่เคยเปิดเผยมาก่อน เพราะก่อนหน้านี้ ช่วงปลายปีที่แล้วจนถึงต้นปีนี้ นาย Sean Hanley ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการขายและการตลาดของ Toyota Australia เอง ก็ได้เคยเผยข้อมูลเกี่ยวกับการทำกระบะ Hilux ที่ใช้ขุมกำลังไฟฟ้าไว้บ้างแล้ว แต่ไม่ได้ระบุว่า มันจะเป็นรถไฟฟ้า 100%, รถไฮบริด, หรือรถฟิวเซลล์

“เรากำลังพิจารณาความเป็นไปได้ของทุกระบบขุมกำลัง(ที่เป็นไฟฟ้า)สำหรับ Hilux, แน่นอน ระบบไฮบริดคือทางออกที่ง่ายที่สุดสำหรับเรา, เพราะเราทำมันมาแล้วในรถหลายๆรุ่น(และก็ทำได้ดี), แต่เราก็ไม่ได้มองข้างเทคโนโลยีอื่นที่อาจเหมาะสมกับรถคันนี้มากกว่า” Hanley กล่าว

“เรามีทางเลือกของสิ่งน่าสนใจจริงๆมากมายที่สามารถเกิดขึ้นได้กับ Hilux, เรามีตัวรถต้นแบบขุมกำลังไฟฟ้าที่เรามองไว้แล้ว”

“ดังนั้น ในขณะที่ผมไม่สามารถจะยืนยันหรือปฏิเสธได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับ Hilux, แต่ผมก็จะไม่ตัดโอกาสที่มันจะเปลี่ยนไปสู้การใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าทางใดทางหนึ่ง, เรามองหาวิธีที่จะพัฒนา Hilux เพื่อลูกค้าของเราอยู่เสมอ”

อย่างไรก็ดี จากข้อมูลโดยแหล่งข่าววงในของสื่อฯ Drive.com.au กลับระบุว่า เทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า สำหรับใช้กับ Hilux ที่กำลังถูกพิจารณาอยู่ในขณะนี้ อาจเป็นเพียงแค่เทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนแบบ Mild-Hybrid เท่านั้น ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทาง Toyota ไม่เคยทำมาก่อน

แต่เนื่องจากเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนดังกล่าว ไม่สามารถลดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงได้ดีเท่าที่ควร เหมือนระบบขับเคลื่อนแบบ Full-Hybrid (Parallel Hybrid) จึงทำให้พวกเขายังคงกังวลอยู่ว่า มันคุ้มค่าหรือไม่ที่พวกเขาจะใส่มันเข้ามา แล้วเสี่ยงที่จะโดนลูกค้ามองว่ามันเป็นเพียงแค่การทำเพื่อโฆษณา หรือเกทับคู่แข่งเท่านั้น ไม่ได้ใส่แล้วช่วยได้จริงเท่าที่ควรแต่อย่างใด (ทั้งในเรื่องความประหยัด หรือแม้แต่การเรียกอัตราเร่ง) ทั้งๆที่ตนเองมีภาพลักษณ์ที่ดีในการทำรถไฮบริดมาตลอด

ซึ่งผลสุดท้ายจะเป็นอย่างไร ก็รอการอัพเดทกันต่อไปในเร็วๆนี้ครับ

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่