เวลากล่าวถึงรถซูบารุ หลายคนน่าจะนึกถึงสมรรถนะการขับขี่ ความแรง – ความเร็ว ทั้งที่แบรนด์ดาวลูกไก่ สมัยใหม่ ไม่ได้เป็นเช่นนั้นสักเท่าไรนัก  

ซูบารเองเล็งเห็นว่า งานนี้คงจะดี ถ้ามีโอกาสท้าพิสูจน์ความประหยัดให้ได้เห็นกันจะๆ ว่ารถยนต์ซูบาุร ไม่ได้มีดีแค่สมรรถนะการขับขี่ มันยังประหยัดด้วยในระดับที่น่าพอใจ นั่นจึงเกิดเป็นกิจกรรม   Subaru Forester Eco Run Penang – Bangkok  ท้าทายความประหยัด ในรถยนต์   Subaru Forester  รุ่นใหม่ กัน 

Subaru Forester Eco Run

Subaru Forester Eco Run

แนวทางการขับ  Eco Run   ครั้งนี้ ไม่ได้เหมือนกับการขับประหยัดงานอื่น ที่มุ่งเน้นทำตัวเลข ทางซูบารุ ได้แจ้งเราก่อนเข้าร่วมกิจกรรมนี้ว่า ให้ขับตามความเป็นจริงใช้ โดยเราใช้ความเร็วตามกฎหมายกำหนด ของแต่ละประเทศ สำหรับประเทศไทย เราใช้ความเร็ว 90 ก.ม./ช.ม. ในกรณีเร่งแซง สามารถใช้ความเร็วได้ 100-110 ก.ม./ช.ม. 

การขับประหยัดครั้งนี้ จึงเรียกว่าอยู่บนพื้นฐานของความจริงในการขับขี่ ไม่ได้ ขับช้าเป็นเต่าคลานเพื่อเรียกอัตราประหยัดแต่อย่างใด 

รถที่ใช้ในการขับครั้งนี้ ผมจับฉลากได้  Suabru  Forester 2.0 i-S   การเดินทางตลอด 3 วัน มีคู่หู 3 คน ที่ทั้งคอยเป็นเพื่อร่วมทางแล้วสลับกันขับ

การเดินทางวันแรก ออกเดินทางจากเมืองปีนัง ประเทศมาเลเซีย ตรงดิ่งเข้าสู่ประเทศไทย โดยใช้ทางหลวงระหว่างเมืองเป็นสำคัญ การขับวันนี้ไม่ได้ทดสอบอัตราประหยัด ใช้ความเร็วตามอัธยาศัย แต่ก็ไม่เกินที่ทางมาเลเซียกำหนด 110 ก.ม./ช.ม. 

Subaru Forester Eco Run

ปีนังไม่ได้ไกลจากด่านชายแดนไทย-มาเลเซียมากนัก เราออกเดินทางช่วง 9 โมงเช้า ประเทศมาเลเซีย ( เร็วกว่าบ้านเรา 1 ชั่วโมง) ตกเที่ยงๆ ก็มาถึงข้ามฝั่งชายแดนเข้าประเทศไทย แล้วขับต่อไปยังหาดใหญ่ พักค้าง 1 คืน 

Subaru Forester Eco Run

วันที่สอง ของการเดินทาง วันนี้ เป็นวันวัดอัตราประหยัดจริงจัง ตามที่ตกลงกันเรายึดความเร็วตามกฎหมายกำหนด 90 ก.ม./ช.ม. เร่งแซง 100- 110 ก.ม./ช.ม. 

ออกเดินทางจากหาดใหญ่ ตอนช่วง 8 โมงเช้า โดยประมาณ ใช้ความเร็วมาเรื่อยๆ ในรุปแบบ คาราวานขับตามกันไปเรื่อย   Subaru  Forester   ใหม่ อาจเป็นรถที่เคยเอามาขับทดสอบแล้ว แต่ว่า-ครั้งนี้การขับประหยัดแบบคนธรรมดาใช้งานทั่วไป ถือเป็นครั้งแรก 

ไม่นานเราเห็นตัวเลข 6.5 ลิตร / 100 ก.ม. สร้างความประหลาดใจไม่น้อยกับเครื่องยนต์บ๊อกเซอร์ 2.0 ลิตร ทางด้านคนนั่งขับช้าไปเรื่อยๆ แบบนี้ไม่น่าแปลกใจที่จะไปเข้าเฝ้าพระอินทร์ ความนั่มสบายของรถตอบโจทย์เรื่องการโดยสารดีมาก แม้กระทั่งเวลาขับเร็วยังรู้สึกได้ถึงความนุ่มนวลในการขับขี่ 

Subaru Forester Eco Run

เราใช้เวลาจากหาดใหญ่มาถึงสุราษธานี ประมาณ 5 ชั่วโมงได้  เราพักทานข้าวกันสักครู่ เติมความสดชื่น จากนั้นออกเดินทางต่ออีก 500 กว่ากิโลเมตรที่เหลือไปยังปลายทางวันนี้ ที่หัวหิน 

ขับมาสักพัก การจราจรเริ่มหนาแน่น ความเร็วที่เราใช้ลดลงจากเดิมสักหน่อย เนื่องจากสภาพการจราจร ระหว่างทางเราแวะพักเข้าห้องน้ำ เติมความสดชืนกันตามปกติ แล้วกลับไปขับ   Forester   กันต่อเรื่อยๆ ระหว่างที่ผมขับ ตัวเลขลดลงจนเหลือประมาณ 5.6 ลิตร / 100 กิโลเมตร ถือว่าประหยัด จนเกินความคาดหมาย 

ไม่นานก็ต้องสลับกันขับ กับพี่สื่ออีกท่าน ให้เขาขับกันยาวๆ จนถึงปลายทาง ในขณะที่ผมนั่งสบายๆ ทางด้านหลังของ   Forester  อย่างไม่รู้สึกอึดอัด มันโปร่งสบาย จะม้วนท่าไหนก็ดี แถมตอนหลัง ยังมีช่องช่าร์จไฟอุปกรณ์มาให้ด้วยอีกต่างหาก 

Subaru Forester Eco Run

หลังจากเดินทางมาจนถึงหัวหินจนย่ำค่ำ วันต่อมา เราเดินทางต่อ จนถึงที่หมายที่จะเติมน้ำมันเชื้อเพลิง ไม่น่าเชื่อจากหาดใหญ่ มาถึงตรงนี้ เป็นระยะทาง 823.6 กิโลเมตร บนหน้าปัดบอกเราขับประหยัด 5.5 ลิตร /100 กิโลเมตร เมื่อเติมคืนถังจริง เราเติมไป 45.384 ลิตร คิดเป็นอัตราประหยัด 18.14 ก.ม./ลิตร เลยทีเดียว 

Subaru Forester Eco Run

อย่างไรก็ดี เมื่อเอาอัตราประหยัดทั้งคาราวานมาคำนวน หาค่าเฉลี่ย  Subaru Forester   ใหม่ มีอัตราประหยัดเฉลี่ย 17.15 ก.ม./ลิตร 

ทั้งหมดตลอด 3 วันเต็มของการเดินทาง ได้พิสูจน์แล้วว่า   ซูบารุ ฟอร์เรสเตอร์  ใหม่ มีความประหยัดมากกว่าที่เราคิด ถ้าขับด้วยความเข้าใจ ไม่เร่งบ่อย ไม่กระแทกคันเร่ง ไม่ลากรอบสูงเป็นอาจิน ก็ถือว่ามีดีทางด้านนี้เหมือนกัน 

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่