แม้ว่าจะขายมานานหลายปี เมื่อพูดถึงรถอเนกประสงค์ขนาดเล็ก Mazda CX-3 ที่ เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2015 จวบจนปัจจุบัน ทว่า เจ้ารถรุ่นนี้นับวันก็ยิ่งคุ้มค่ามากขึ้น แม้ว่าจะมีคู่แข่งหน้าใหม่ออกมาทำตลาดมากหน้าหลายตาก้ตามที
มาสด้า ซีเกซ์ 3 เปิดตัวอีกครั้งในปีนี้ ด้วยการอัพเดทออพชั่นน่าสนใจมากขึ้น อย่างที่หลายคนอาจจะพอรู้จักคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี รถรุ่นนี้เป็นผลผลิต ของการนำโครงสร้าง Mazda 2 มายกสูง โดยใช้หน้าตาของมาสด้า รุ่นก่อนหน้านี้ ที่เพิ่งหยุดทำตลาดไปเมื่อปีกลาย ก่อนเปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่ที่มีความไฉไลกว่าเดิม
ถึงมาสด้า จะส่งรถ Mazda CX-30 ใหม่แกะกล่องออกสู่ตลาด พวกเขาก็ไม่ลิมน้องชายคนเล็กจับตลาดกลุ่มคนงบน้อยต้องการสมรรถนะการขับขี่ ด้วยออพชั่นที่น่าสนใจมากขึ้น
รุ่นที่เราได้มาจากมาสด้า ประเทศไทย เป็นรุ่นรองบ๊วย เรียกว่า รุ่น Comfort ราคาขาย 848,000 บาท แต่รุ่นเริ่มต้นของรถรุ่นนี้ มีราคาเพียง 768,000 บาท ซึ่งถือว่ามีราคาค่อนข้างถูกมากเมื่อเทียบกับสมรรนถะการขับขี่ของมัน
ภายนอกตัวรถรุ่น Comfort ภาพรวมยังใช้โครงสร้างหน้าตาที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ให้ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ ส่องสว่างด้วยไฟฮาโลเจน มาพร้อมอัลลอยขนาด 215/60R16 ถือว่ามีขนาดค่อนข้างใหญ่พอตัว ขนาดตัวรถ มีความยาวตลอดคัน 4,275 มม. ให้ความคล่องแคล่วในการใช้งานในเมือ งหาที่จอดง่าย และมีความคล่องตัวสูง ท่ามกลางการจราจรที่มีความคับคั่ง
ด้านในห้องโดยสารเหมือนเอา หน้ามาสด้า 3 มารวมกับท้ายมาสด้า 2 ที่นั่งโดยสารตอนหน้ามีพื้นที่มากให้ความสบายตลอดการเดินทาง เบาะนั่งทั้งหมดหุ้มด้วยผ้าผสมหนังเดินด้านสีเทา ให้ความรู้สึกสปอร์ตตอบการขับขี่ขับขี่
รายละเอียดการตบแต่งในห้องโดยสารทั้งหมด เรียกว่า แทบจะถอดแบบมาสจากมาสด้า 2 เสียเป็นส่วนใหญ่ ยกเว้นเรือนไมล์ที่ยกมาจากมาสด้า 3 รุ่นที่แล้ว
เบาะนั่งฝั่งคนขับปรับได้ 6 ทิศทางตั้งแต่รุ่นเริมต้น นั่นรวมถึงการปรับให้มันสามารถสูง-ต่ำได้ด้วย พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง รุ่น Comfort อาจไม่ถูกที่สุด อยุ่ในงบ 8 แสนบาท แต่มีออพชั่นยางอย่างที่คุณอาจจะอยากได้ เช่น ระบบกุญแจ Smart Key ยามขับขี่ระบบล็อคความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control ให้ใช้งาน ตลอดจนยังมีระบบ กล้องมองหลังช่วยอำนวยความสะดวกในการจอดรถ ดียิ่งขึ้นกว่าตัวเริ่มต้น
ตรงกลางให้ชุดจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว เป็นหน้าจอสำหรับควบคุมดูข้อมูลตัวรถและระบบเครื่องเสียงในตัว ข่าวดี สำหรับคนรุ่นเก่าที่ยังชอบฟัง CD รถคันนี้ยังมีช่องใส่ CD มาให้คุณได้เล่นเพลงสุดเพราะเสียงคุณภาพสูงจากแผ่น แม้ขาดการเชื่อมต่อที่ดูจะทุนยัคทันสมัย ก็มีดีในคนละด้านแล้วแต่คนชอบ
ทางด้านหลังพื้นที่ในห้องสัมภาระมีเหลือเฟือพอให้ใช้งาน แต่เรื่องเบาะนั่งโดยสารตอนหลังบางคนอาจไม่ถูกใจ เนื่องจากมีพื้นที่ค่อนข้างคับแคบ คล้ายในมาสด้า 2 ไม่ผิดเพี้ยน กะด้วยสายตา คนตัวใหญ่นั่งไม่ได้แน่ หรืออาจจะลำบากอยู่บ้าง แต่ถ้าคุรซื้อรถขับใช้งานคนเดียว หรือมีเพียง เรา 2 กับภรรยา และลูกยังเล็ก คิดไปคิดมาก็น่าเพียงพอต่อการใช้งานอยุ่บ้าง ถ้าไม่ใช่มีเพื่อนติดรถขอกลับบ้านทุกวัน
ใต้เรือนร่างขนาดเล็ก ใครจะคิดว่า มาสด้า กล้าดีเดือด ให้เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ในราคาเริ่มต้นวางจำหน่ยเพียง 768,000 บาทเท่านั้น นั่นยังไม่พอ ขุมพลังรุ่นนี้เล่นแรงด้วยกำลังสูงสุด 156 แรงม้า ทำแรงบิดสูงสุด 204 นิวตันเมตร มันยังจับคู่เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ซึ่งรถในราคาเดียวกันส่วนใหญ่จะไม่ให้ เครื่องยนต์ใหญ่ขนาดนี้ และเกียร์ที่ทันสมัยขนาดมาสด้า
ส่วนช่วงล่างด้านหน้าใช้แบบแม็คเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังใช้ทอร์ชั่นบีม ตามสูตรเน้นความกะทัดรัดใช้งานง่ายในเมือง
ที่จริง Mazda CX-3 เป็นหนึ่งในรถขวัญใจมหาชนของมาสด้า ด้วยราคาไม่แพงเกินงาน มันอาจไม่นิยมเท่ามาสด้า 2 แต่ก็มีความนิยมมากกว่า CX-5 เนื่องจาก ตัวรถไม่เคยมีรายงานเรื่องปัญหาในการใช้งานจากผู้ใช้เลยไม่ว่าในกรณีใดๆ
การกลับมาขับรถรุ่นนี้อีกครั้ง ทำให้นึกถึงในช่วงวันแรกๆ ที่รถรุ่นนี้เปิดตัววางจำหน่ายในประเทศไทย มาสด้า ซีเอ็กซ์ 3 ถูกค่อนขอดว่าค่อนข้างมีพื้นที่โดยสารแคบ ซึ่งนั่นมาจากการเปรียบมวยกับ เจ้าตลาด Honda HR-V ที่มีการออกแบบให้รถมีฟังชั่นในตัวเองอย่างดี โดยสารอย่างสะดวกสบาย
ทว่าเมื่อ Toyota C-HR ออกมาวางจำหน่าย มาสด้า ซีเอ็กซ์ 3 ก็ได้รับการพูดถึงอีกครั้ง เนื่องจากรถใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในคลาส รวมถึงจุดบอดสำคัญของคู่แข่งหน้าใหม่ Toyota C-HR ยังติดขัดในเรื่องของการโดยสารตอนหลังที่มีความทึบจนรู้สึกแคบ ทั้งที่ตัวรถก็มีขนาดค่อนข้างใหญ่ แถมโปรโมชั่นมาสด้า ก็มาแน่น จนลูกค้าที่ต้องการอเนกประสงค์เล็กต่างก็สนใจ
เมื่อประกอบกับความเป็นมาสด้า วางใจได้เรื่องสมรรถนะ และรถญี่ปุ่นก็คือรถญี่ปุ่น เราก็นเลยยัง เห็น CX-3 ป้ายแดงเนืองๆ
ด้วยเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร มาวางในรถที่มีขนาดใหญ่กว่ามาสด้า 2 ไม่มากนัก มันให้ผลลัพธ์ทางด้านสมรรถนะการขับขี่อย่างน่าพอใจ การเร่งแซงเฉียบขาด กดออกตัวหลังติดเบาะ เป็นหนึ่งในอเนกประสงค์ที่เร้าใจสุดๆ เหมาะสมทุกสถานการณ์ที่ต้องการความเร่งรีบไม่ว่าจะขับเร็วบนทางหลวง, ทางด่วน
ด้วยเครื่องยนต์ที่มีกำลังวังชาเหนือขนาดตัว ทำให้มันมุดง่ายมากท่ามกลางการจราจรคับคั่ง การเซทพวงมาลัยไฟฟ้าในรถรุ่นนี้ทำออกมาน้ำหนักเหมาะมือ พวงมาลัยค่อนข้างเร็วกว่ารถอเนกประสงค์ได้ความรู้สึกประหนึ่งขับรถเก๋ง แถมระยะต่ำสุดจากพื้นถึงท้องรถเพียง 160 มม.อาจไม่สุงมากเท่าอเนกประสงค์รุ่นอื่น แต่ให้การควบคุมที่ดีกว่า จนคุณรู้สึกได้ ถ้าลองเป็นแบบผมที่ผ่านมือรถกลุ่มนี้มาหลายรุ่น
สิ่งที่น่ากังวลใจใน Mazda CX-3 มีอยู่อย่างเดียว คือช่วงล่างหลังแบบทอร์ชั่นบีม ทำให้อาการท้ายรถออกไว เกิดอาการ Over Steer เอาง่ายๆ ถ้าขับใช้ความเร็ว หรือเข้าโค้งแรงๆ
แต่ทั้งหมดนั้นไม่น่ากลัว เพราะถูกควบคุมด้วยเทคโนดลยี Mazda G Vectoring Control ช่วยให้รถอยู่ใต้อาณัติคุณตลอดการเดินทาง ไม่ว่าจะขับเร็วขับช้า และเข้าโค้งอย่างมั่นใจ
ผมรู้ว่าหลายคนอาจจะหวั่นใจว่าขับเครื่อง 2000 ซีซี ในเมืองได้ซดโฮกแน่ๆ ต้องขอบคุณระบบ i-Stop ที่เข้ามาช่วยหยุดการทำงานของเครื่องยนต์ชั่วคราว ทำให้การขับในเมืองไม่ซดอย่างที่คุณคิด เท่าที่ผมลองขับในเมืองรถคันนี้มีอัตราประหยัดเฉลี่ย 12.4 ก.ม./ลิตร ถือว่าพอรับได้กับการใช้งานในสภาวะที่มีการจราจรติดขัด
Mazda CX-3 อาจจะเป็นรถเก่าปลายโฉม และใกล้วันจะเปลี่ยนไปสู่รุ่นใหม่ ถ้ามาสด้า ยังทำรถรุ่นนี้ต่อ สำหรับหลายคนอาจจะมองว่ามันเก่าไปนิดไม่คุ้มค่าที่จะลงทุน แต่ถ้าคุณมองหารถครบเครื่องคุณภาพ ได้เทคโนโลยีทันสมัย ไม่เก่าเกินไป
ในราคา 8แสนบาท Mazda CX-3 น่าจะเป็นตัวเลือกที่คุ้มที่สุดในชั่วโมงนี้