เราได้ลองขับ Chevrolet Colorado Midnight Edition กระบะนอกสายตาที่หลายคนมองข้าม แต่ก็ยังพบเจอข้อดีที่เจ้าปิกอัพจากแดนมะกันคันนี้มอบให้

เป็นดั่งธรรมเนียมปฏิบัติไปเสียแล้วสำหรับการตั้งชื่อรุ่นพิเศษของรถกระบะค่ายเชฟวี่ ที่มีตั้งแต่ Storm, Tornado หรือ Thunder มารุนแรงดังปรากฏการณ์ตามธรรมชาติ ซึ่งหลายคนก็อาจรจะเบือนหน้าหนีโดยไม่ได้คิดอยากรู้จัก แต่วันนี้เราได้มีโอกาสอยู่กับ Chevrolet Colorado Midnight Edition ตัวตกแต่งเข้มดุสำหรับคนชอบของดำมาเล่าให้ฟัง

Chevrolet Colorado Midnight
Chevrolet Colorado Midnight

สิ่งที่ทำให้โคโลราโด มิดไนท์ โดดเด่นกว่ารุ่นพิเศษมีชื่อตามพายุหรืออะไรก็แล้วแต่ นั่นคือการตกแต่งภายนอกด้วยชุดแต่งสีดำทั้งคัน อาทิ กระจังหน้าสีดำเงากับตรายี่ห้อรมดำ โคมไฟหน้ากรอบสีดำ มือจับประตูสีดำ ตรา MIDNIGHT บริเวณประตูคู่หน้า กับที่ฝาท้ายกระบะ กันชนหลังสีดำ เป็นต้น

Chevrolet Colorado Midnight
Chevrolet Colorado Midnight

เหนือสิ่งอื่นใด เจ้ามิดไนท์ ยังเสริมลุคหล่อแกร่งด้วยชุดแต่งซุ้มล้อที่มีโป่งยื่นออกมาทำให้รถดูกว้างขึ้น ซึ่งเข้ากันดีกับล้ออัลลอย 18 นิ้วสีดำ ที่รัดไว้ด้วยยาง All Terrain ขนาด 265/60 R18 ยี่ห้อ Goodyear Wrangler

ต่อกันด้วยการเพิ่มความพิเศษให้ไม่ซ้ำกับกระบะรุ่นพิเศษของเชฟฯ คันอื่น ด้วยการติดตั้งกระจกนิรภัยเพิ่มความเป็นส่วนตัว Privacy Glass ที่กระบะหน้าต่างห้องโดยสารตอนหลังทั้ง 3 บาน เรียกว่าให้อารมณ์เหมือนกับรถนำเข้าจากญี่ปุ่นเลยทีเดียว

Chevrolet Colorado Midnight

เมื่อเข้ามาในห้องโดยสารก็จะพบกับการตกแต่งด้วยสีดำทั้งหมดคล้ายกับภายนอก เพียงแต่บางจุดมีการเพิ่มตราสัญลักษณ์ MIDNIGHT ติดไว้บนทริมตกแต่งบริเวณแผงประตูซ้ายขวาเท่านั้น นอกเหนือจากนี้เป็นเหมือนกับโคโลราโดรุ่นปกติทั่วไป

ไม่เสียเวลาเรามาพูดถึงการขับขี่ที่เราได้มีโอกาสใช้ชีวิตอยู่กับ เชฟวี่ โคโลราโด มิดไนท์ เป็นเวลา 3 วัน โดยตอนที่ได้รับรถมาก็เริ่มคิดว่าจะเอาเจ้าโด้ไปทดสอบที่ไหนดี ปรากฏหวยออกมาที่จุดหมาย ณ จังหวัดลพบุรี ไม่ใกล้ไม่ไกลกทม.นี่แหละ

Chevrolet Colorado Midnight
Chevrolet Colorado Midnight
Chevrolet Colorado Midnight

บอกก่อนเลยว่าปิกอัพที่ได้ขับเป็นรุ่น โคโลราโด 4×2 A/T มิดไนท์ อีดิชั่น 2.5L ดีเซล อันมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 1,028,000 บาท ถ้าใครอยากได้รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ก็จ่ายเพิ่มเป็นราคา 1,098,000 บาท

โดยจากการขับขี่ในเมืองตอนที่เริ่มเอารถออกมานั้นก็รู้สึกได้ว่า พวงมาลัยไฟฟ้าที่ทางเชฟฯ ติดตั้งมาให้นั้นมีน้ำหนักเบามือหมุนคล่องดี ช่วยให้การลัดเลาะในเมืองทำได้สะดวกไม่ปวดแขน จุดนี้ผู้ผลิตคงอยากตอบโจทย์ลูกค้ายุคใหม่ที่ไม่ได้อยากฟีลแบบกระบะรุ่นเก่า ซึ่งรู้กันดีกว่าจะมีพวงมาลัยหนักหนืดเอาใจหนุ่มบึกบึนสายลุย

Chevrolet Colorado Midnight

เรารู้สึกว่าพวงมาลัยของเจ้าโด้ แม้จะไม่ได้คมกริบอย่างรถเก๋ง แต่ในการบังคับควบคุมกลับรู้สึกว่ามีระยะฟรีหน่วงตึงมือกำลังดีเมื่อขับรถด้วยความเร็วเดินทาง ช่วง 80-120 กม./ชม. การโยกเปลี่ยนเลนไม่ได้ว่องไวจนเกินงาม ข้อนี้ตอบโจทย์คนที่เปลี่ยนจากรถยนต์นั่งมาสู่กระบะได้ดีทีเดียว

อย่างไรก็ตาม ช่วงล่างนี่ข้อบอกว่าตั้งค่ามากลางๆ คือ ไม่แข็งเกินไป และก็ไม่ยวบเกินไป ทว่าเมื่อลองเข้าโค้งด้วยความเร็วเกิน 100 กม./ชม. ตัวรถจะค่อนข้างเหวี่ยงออกข้างมากไปนิด ทำให้คนขับต้องชะลอความเร็วลงมา ส่วนคนนั่งก็คว้ามือไปจับที่ยึดเหนี่ยวเหนือศีรษะ

Chevrolet Colorado Midnight

อาจพูดได้ว่าเจ้าโด้เป็นปิกอัพที่ขับขี่ทางตรงได้มั่นใจ สามารถเก็บอาการสะเทือนจากพื้นผิวขรุขระได้ค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับคู่แข่ง แต่เมื่อใดที่เริ่มเจอถนนคดโค้งหรือผู้ขับอยากเล่นทางเลี้ยวไปมา จะต้องทำใจว่ารถคันนี้ไม่ได้ให้ความรู้สึกมั่นใจเหมือนคู่แข่งร่วมชาติ เช่น Ford Ranger ที่รายนั้นเขาขึ้นชื่อด้านช่วงล่าง

มาดูกันประเด็นขุมพลังบ้าง แน่นอนว่าเครื่องดีเซลเทอร์โบ 4 สูบ Duramax ขนาด 2.5 ลิตร ให้แรงม้า 180 ตัว ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบนาที จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

Chevrolet Colorado Midnight

จากการขับในสภาพการใช้งานจริง เราพบว่าเครื่องบล็อกนี้ยังคงตอบโจทย์เรื่องพละกำลังได้ดีไม่แพ้เครื่องดีเซลเทอร์โบ 3.0 ลิตร หรือแม้แต่ขุมพลังดีเซลหอยคู่ยุคใหม่ 2.0 ลิตร ที่มีแรงม้าเกิน 200 ตัวได้อย่างน่าประทับใจ

กล่าวคือการกดคันเร่งออกตัวจากจุดหยุดนิ่งไปจนถึง 100 กม./ชม. หรือจะขับรอแซงรถคันหน้าที่ 60 กม./ชม. แล้วพุ่งไปเกินเลขหลักร้อย เครื่องของเชฟวี่ฯ มิดไนท์ สามารถรีดกำลังได้แบบกระฉับกระเฉงทันใจ ยิ่งเมื่อรวมกับเข้ากับเกียร์ออโต้ 6 สปีด ก็รู้รึกว่าเออมันไม่ได้หน่วงหรือเปลี่ยนเกียร์กระตุกเลย

Chevrolet Colorado Midnight

กล้าพูดได้ว่ากำลังเครื่องกับระบบเกียร์อัตโนมัติที่อยู่บนโคโลราโด้ เปรียบได้กับของดีที่หลายคนมองข้ามเวลาที่ยังไม่ได้ลองขับมันจริงๆ เพราะผู้เขียนเองรู้สึกว่าชอบเครื่องกับเกียร์ที่อยู่บนปิกอัพรุ่นนี้ แม้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันจะไม่ได้ดีเลิศ แต่ก็อยู่ในช่วง 11-12 กม./ลิตร จับดูจากสภาวะการใช้งานจริง วิ่งในเมือง 30% วิ่งนอกเมือง 70%

สำหรับระบบเบรกนั้นเจ้าโด้สีดำที่มาพร้อมยาง AT เวลาเลียเบรกในสภาพการณ์ปกติ ตัวรถจะหน่วงลงมาแบบได้ตามต้องการ แต่ถ้ากรณีเบรกฉุกเฉินการยึดเกาะถนนของยางอาจด้อยกว่ายาง HT อยู่บ้าง เพราะมีช่วงหนึ่งที่เราขับไปเจอแล้วเจอมอเตอร์ไซค์ตัดหน้า อีกนิดเดียวเท่านั้นรถเกือบจะชนอยู่แล้ว ทั้งๆ ที่ใช้ความเร็วต่ำเพียง 60 กม./ชม. จุดนี้เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคต้องทำความเข้าใจถึงลักษณ์เฉพาะของยางที่ใช้งานได้ทุกสภาพถนน

Chevrolet Colorado Midnight

มาถึงเรื่องราวของเสียงรบกวนกันบ้าง บอกได้ว่าเสียงถนนที่ดังมาจากยาง AT กับเสียงลมไหลผ่านตัวรถนั้นได้ยินเสียงพอๆ กัน หากอยากได้ความเงียบเจ้าโด้อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ถูกใจนัก แต่ก็ยังดีที่เสียงกระแทกจากช่วงล่างเวลาเจอหลุมบ่อไม่มีให้ได้ยิน

Chevrolet Colorado Midnight

สรุปสั้นรวบใจความ!! Chevrolet Colorado MIDNIGHT กระบะสายมืดแต่งพิเศษ เหมาะสำหรับคนที่อยากได้ความเข้มดุดำแต่งมาจากโรงงาน เพราะตลอดเวลาที่เราขับใช้งานในชีวิตประจำวัน ปิกอัพคันนี้สามารถดึงดูดสายตาผู้ที่พบเห็นได้เป็นจำนวนมาก ประเด็นอื่นๆ เช่นการขับขี่ ช่วงล่าง กำลังเครื่องยนต์ ขอบอกให้ผู้อ่านที่สนในต้องไปลองขับเองเพื่อตัดสินใจขั้นสุดท้าย

ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com [ngg src=”galleries” ids=”1024″ display=”basic_thumbnail”]

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่