จากความจริงที่ว่านับวัน รถกระบะขนาดกลางมีแต่จะมาพร้อมกับมิติที่ใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้กระบะขนาดเล็กเริ่มกลับมามีที่ยืนในตลาดอีกครั้ง และ RAM Rampage ก็คือรถยนต์รุ่นใหม่ ที่ค่ายกระบะยักษ์ใหญ่ ตั้งใจทำขึ้นมาเพื่อการนี้

RAM Rampage คือรถกระบะขนาดเล็ก ที่ทาง RAM ตั้งใจทำขึ้นมาเพื่อตีตลาดในทวีปอเมริกาใต้ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นพื้นที่ซึ่งทางแบรนด์สามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดเอาไว้ได้ค่อนข้างดี ไม่แพ้ในโซนทวีปอเมริกาเหนือ และถึงแม้ทางค่ายจะยังไม่ได้มีการเปิดเผยตัวเลขมิติรถออกมา แต่แน่นอนว่าคู่แข่งทางการตลาดของมัน ย่อมประกอบไปด้วย Hyundai Santa Cruz, Honda Ridgeline, และ Ford Maverick

และแม้ตัวรถจะเป็นกระบะขนาดเล็ก แต่ RAM ก็ยังคงใส่เอกลักษณ์ของแบรนด์เอาไว้มากมายในเจ้า Rampage โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเรื่องงานออกแบบ ที่เห็นเพียงครู่เดียว ก็แทบไม่ต้องเดาว่ามันคือรถยนต์จากแบรนด์ไหน ทั้งกระจังหน้ากรอบ 6 เหลี่ยม และกรอบไฟหน้า พร้อมแถบไฟ DRL แรงบันดาลใจจากพี่กลาง RAM 1500, กันชนหน้าชิ้นงานพลาสติกด้าน พร้อมดวงไฟตัดหมอกและกรอบรูปทรงเดียวกับรุ่นพี่เช่นกัน

ไม่เว้นแม้กระทั่งหน้าตาของแก้มข้างซุ้มล้อหน้าก็อิงเส้นสายจากรุ่นพี่ รวมถึงฝากระบะท้าย และไม่วายที่จะใส่ความเป็นชาตินิยม ด้วยไฟท้ายซึ่งมาพร้อมกับแถบดวงไฟ LED ด้านในซึ่งมีหน้าตาคล้ายกับลายธงชาติสหรัฐอเมริกา

ด้านตัวถังช่วงครึ่งหลัง เนื่องจากการเผยโฉมรถในครั้งนี้ ยังเป็นเพียงการเผยโฉมรถแบบทีเซอร์ จึงทำให้เราสามารถเห็นสัดส่วนตัวรถได้เพียงคร่าวๆเท่านั้น ทว่านั่นก็เพียงพอที่จะทำให้เราเกิดข้อสังเกตว่า เจ้า Rampage อาจไม่ได้เป็นรถกระบะซึ่งใช้พื้นฐานโครงสร้างแบบ Body-on-Frame เหมือนรถกระบะที่เราคุ้นชิน

แต่เป็นกระบะโครงสร้าง Monocouqe เหมือนกับคู่แข่ง ที่เล็ก เบา เหมาะกับการโดยสาร โดยสังเกตได้จากรอยต่อของกระบะหลังที่เชื่อมต่อเป็นชิ้นเดียวกันกับตัวถังช่วงห้องโดยสาร ทว่าการออกแบบตัวถังในลักษณะนี้ ย่อมส่งผลถึงขีดความสามารถในการบรรทุกของที่น้อยลงด้วย (แต่ทั้งนี้ก็พอเข้าใจได้ ว่าจุดประสงค์การออกแบบของรถกระบะไซส์นี้ ก็มีไว้บรรทุกสัมภาระเพียงเล็กๆน้อยๆเท่านั้นอยู่แล้ว)

อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ก็คือเรื่องของขุมกำลัง ที่แม้จะเป็นบล็อคเบนซิน 4 สูบเรียง เทอร์โบคู่ ที่มีความจุเพียง 2.0 ลิตร แต่ก็สามารถปั่นแรงม้าได้มากถึง 274 PS และสร้างแรงบิดสูงสุดได้อีก 400 นิวตันเมตร ซึ่งค่อนข้างจะเกินพอแล้ว สำหรับจุดประสงค์ในการใช้งานของตัวรถ

ด้านกำหนดการเปิดตัวรถอย่างเป็นทางการ ทางค่ายเอง ก็ยังไม่มีการเปิดเผยช่วงเวลาที่แน่ชัดออกมา แต่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงไม่เกินปลายปีนี้

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่