ฤดูฝนมาพร้อมเรื่องน้ำท่วมรถติดเป็นประจำ โดยอีกเรื่องที่หลายคนเบื่อการมาของหน้าฝนคือ รถเลอะเทอะเปรอะไปด้วยคราบต่างๆ ว่าแต่ควรล้างหรือไม่ล้างดี?

สวัสดีผู้อ่านทุกท่านที่ช่วงนี้เราเชื่อว่าเจอคงเจอกับฝนตกรถติด อาจต้องลุยน้ำท่วมให้ลุ้นว่าจะผ่านไปได้โดยไม่ดับหรือไม่ แต่อีกเรื่องหนึ่งซึ่งหลายคนเอือมระอาคือ ฝนตกเกือบทุกวันแบบนี้รถไม่ต้องล้างกันแล้ว เพราะล้างเองหรือไปคาร์แคร์ก็เป็นอันต้องเสียแรงและเสียเงิน ขับเพียงไม่กี่ชั่วโมงรถคันเอี่ยมก็เลอะเปลอะเปื้อนเหมือนเดิม…

ด้วยเหตุผลที่กล่าวไปข้างต้นจึงเป็นสาเหตุสำคัญให้เจ้าของรถหลายคน คิดไม่ถ้าฝนจะตกติดต่อกันเกือบทุกวันแบบนี้ก็ไม่ต้องล้างมันหรอก เดือนนึงล้างรถรอบเดียวก็พอแล้ว ว่าแต่การปล่อยให้รถเลอะเทอะเป็นเวลานานในฤดูฝน เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วจริงๆ หรือ?

หน้าฝนไม่ต้องล้างรถบ่อย

ฝนตกบ่อยแต่ก็ควรล้างรถทุกสัปดาห์

การขับรถในช่วงที่มีฝนตกชุกแบบนี้ นอกจากเม็ดฝนที่ตกลงมาปะทะกับตัวรถทั้งคัน ก็ยังมีน้ำที่เจิงนองอยู่บนถนน ซึ่งเต็มไปด้วยฝุ่นดิน เศษหิน รวมถึงคราบสารเคมีทั้งน้ำมันหรืออะไรก็ตามที่ละลายเข้ากับน้ำ เหล่านี้ทั้งหมดจะกระเด็นมาเกาะอยู่บนสีตัวถัง จนเป็นคราบฝังไว้ชัดเจนหากเจ้าของรถไม่ได้ล้างออก

นอกเหนือไปจากสิ่งปนเปื้อนที่มาพร้อมกับน้ำที่รถเราวิ่งผ่านจนกระเซ็นมาติดกับตัวรถ ในบางพื้นที่ที่มีรถยนต์จำนวนมากวิ่งอัดอยู่กันบนหนาแน่น บรรดาก๊าซพิษจากท่อไอเสียทั้งรถดีเซลหรือเบนซิน ก็จะลอยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศไปสะสมตัวในกลุ่มเมฆฝน จนกระทั่งควบแน่นตกลงมาพร้อมกับน้ำฝนมาเปรอะเปื้อนรถยนต์ของเราท่าน

หน้าฝนไม่ต้องล้างรถบ่อย

หน้าฝนไม่ต้องล้างรถบ่อย

สิ่งที่เราจะสื่อเริ่มด้วยลำดับแรกที่เป็นผลร้ายจากการที่ฝุ่นคราบไคลต่างๆ เกาะแน่นสะสมเป็นเวลานานเกินหนึ่งสัปดาห์ มันจะเกิดการแห้งกรังฝังตัวอยู่บนชั้นแล็กเกอร์ แล้วเมื่อรวมเข้ากับน้ำฝนอันมีกรดที่เกิดจากก๊าซพิษด้วยแล้ว โอกาสที่ชั้นแล็กเกอร์จะถูกกัดกร่อนเข้าไปถึงชั้นสีก็นับว่ามีสูงมาก

ดังนั้นวิธีในการปกป้องสีรถให้ดูใหม่และสะอาดในระยะยาวที่เหมาะสมสุด ก็คือการล้างรถสัปดาห์ละหนึ่งครั้งในช่วงฤดูฝน คุณไม่ต้องกังวลว่าจะเปลืองแรงหรือเปลืองเงิน หากเป็นไปได้ทุกหนึ่งเดือนก็ควรนำรถไปขัดเคลือบสีบ้าง ไม่ว่าจะทำเองที่บ้านขัดด้วยแรงกายของคุณ หรือเข้าร้านคาร์แคร์ก็ขึ้นอยู่กับว่าสะดวกแบบนี้

review-daiso-washnwax (7)

แต่ที่แน่ๆ การทำแบบนั้นเพื่อสร้างชั้นแล็กเกอร์มาปกป้องมิให้น้ำฝนที่มีกรดกับฝุ่นต่างๆ ไปทำร้ายชั้นสี เพียงเท่านี้รถของคุณก็จะสดใสสวยงามได้ยาวนาน หากใครมีวิธีการรักษาสีรถของคุณให้ดูเหมือนใหม่อยู่เสมอก็มาคอมเม้นหรือแนะนำเราได้เสมอ

ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com

 

 

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่