ด้วยเงื่อนไขทางกายภาพของ “แพ็คแบตเตอรี่” ในรถไฟฟ้า ทำให้หากมันได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดขึ้นมา ทางช่างก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเปลี่ยนมันใหม่เพื่อความปลอดภัย แต่ใครจะไปทันคิดกันล่ะ ว่าการเปลี่ยนแบตฯรถลูกนึงที จะมีค่าใช้จ่ายถึง 2.8 ล้านบาท

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เป็นกรณีที่เกิดขึ้นกับนาย Huang หนุ่มจีนรายหนึ่ง ซึ่งเป็นเจ้าของรถซีดานไฟฟ้า Polestar 2 (บริษัทลูกของ Volvo) ได้ขับรถของตนเองไปประสบอุบัติเหตุ จนตัวรถได้รับความเสียหาย ต้องเปลี่ยนทั้งมอเตอร์ไฟฟ้าทั้ง 2 ลูก สำหรับระบบขับเคลื่อน

และยังต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่เป็นออพชัน Long-Range (ใหญ่พิเศษเพื่อระยะทางในการใช้งานที่มากกว่าปกติ) เนื่องจากตัวแพ็คโมดูลย์แบตเตอรี่เกิดการบิดเบี้ยว หรือบุบจากแรงกระแทก ซึ่งอันตรายเป็นอย่างมากที่จะนำไปใช้งานต่อ เพราะกรดในตัวแบตอาจรั่วไหลจนทำให้เกิดการลัดวงจร และไฟไหม้ตามมาในภายหลังได้

อย่างไรก็ดี แม้ตัวรถ Polestar 2 จะถูกผลิตในประเทศจีนอยู่แล้ว และมีราคาวางจำหน่ายในประเทศที่ 298,350 หยวน หรือราวๆ 1,585,000 บาท แต่ค่าบริการสำหรับการเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่ของรถที่นาย Huang ใช้อยู่ กลับมีตัวเลขสูงถึง 540,000 หยวน หรือราวๆ 2,870,000 บาท คิดเป็น 1.8 เท่า ของราคารถใหม่ ซึ่งไม่ใช่ตัวเลขที่ประหยัดเลยสำหรับการซ่อมรถหนึ่งคันในแบบที่ควรจะเป็น

และด้วยตัวเลขค่าใช้จ่ายที่สูงเช่นนี้ จึงทำให้ทางสื่อฯท้องถิ่นชื่อดังอย่าง CN EV Post ได้ทำการสอบถามข้อมูลกับ Polestar บริษัทแม่ในประเทศจีนทันที ว่าตัวเลขค่าใช้จ่ายตรงนี้ เป็นตัวเลขที่เกินจริงหรือไม่ ? ซึ่งคำตอบที่พวกเขาได้กลับมาก็คือ

หากคิดเฉพาะ “ค่าอะไหล่” ของแบตเตอรี่แบบ Long-Range แพ็คเดียว สำหรับรถ Polestar 2 ที่ประสบอุบัติเหตุคันดังกล่าว มันก็จะมีราคากลางอยู่ที่ 400,000 หยวน หรือราวๆ 2,125,000 บาท เท่านั้น (!?) แต่ส่วนต่างที่เพิ่มขึ้นมาอีก 140,000 หยวน หรือราวๆ 744,000 บาท นั้น อาจมาจากค่าบริการ และค่าอะไหล่ที่เกี่ยวเนื่องจากการเปลี่ยนแบตเตอรี่ครั้งนี้ก็เป็นได้

โดยหลังจากการสอบถามข้อมูลกับ Polestar ทางสื่อ CN EV Post ก็ได้ทำการหาข้อมูลเกี่ยวกับค่าแพ็คแบตเตอรี่ ในรูปแบบอะไหล่ สำหรับการเปลี่ยนแทนของเดิม ของรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์จีนรายอื่นๆด้วย โดยมีทั้ง แบตเตอรี่ขนาด 80 kWh สำหรับรถ Xpeng P7 ที่มีราคา 110,000 หยวน หรือราวๆ 584,000 บาท

ตามด้วยแบตเตอรี่ลูกที่เล็กลงมาหน่อย ในรถรุ่นเล็กกว่าอย่าง Xpeng P5 และ Xpeng G3 ที่มีราคา 90,000 หยวน หรือราวๆ 478,000 บาท กับ 85,000 หยวน หรือราวๆ 451,000 บาท ตามลำดับ

ขณะที่รถ Li ONE ของบริษัท Li Auto ซึ่งเป็นอีกแบรนด์ที่ได้รับความนิยมในประเทศจีน ก็มีค่าอะไหล่แบตฯขนาด 37.2 kWh ที่ 70,000 หยวน หรือราวๆ 372,000 บาท

ส่วนแบตเตอรี่ของรถยนต์ไฟฟ้าที่เรารู้จักกันดีอย่าง Tesla นั้น ก็มีการคิดค่าอะไหล่แพ็คแบตเตอรี่ต่อลูกในประเทศบ้านเกิดของตนเองอย่างสหรัฐอเมริกา ที่ 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 733,000 บาท สำหรับ Tesla Model 3 รุ่นเริ่มต้น และจะขยับขึ้นเป็น 30,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 1,100,000 บาท สำหรับ Tesla Model S รุ่นเริ่มต้น

ข้อมูลจาก insideevs, CN EV Post

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่