นอกจากการเปิดตัวและเปิดราคา New ORA Good Cat รุ่น Pro และ Ultra ล็อตผลิตในประเทศไทย ในวันเดียวกันนี้เอง ทาง Great Wall Motor ก็ได้มีการเปิดตัวและเปิดราคาของ ORA Good Cat GT ที่เป็นสเป็คผลิตไทยด้วย

New GWM ORA Good Cat รุ่น GT ล็อตผลิตประเทศไทย ยังคงมาพร้อมดีไซน์โฉบเฉี่ยว ดึงดูดทุกสายตา แฝงความน่ารักและความพรีเมียมไว้ได้อย่างลงตัว

  • กันชนท้ายพร้อมดิฟฟิวเซอร์ มอบความสปอร์ตทุกมิติ เสริมความเท่ด้วยดิฟฟิวเซอร์สีเหลือง
  • คาลิปเปอร์สีเหลือง ให้ความรู้สึกถึงดีไซน์สปอร์ต
  • กระจกข้างสีทูโทน สีดาตัดเหลือง เท่เต็มสไตล์
  • ล้ออัลลอยทูโทนดีไซน์สปอร์ต ขนาด 18 นิ้ว มาพร้อมกับดิสก์เบรกคาลิปเปอร์สีเหลืองดีไซน์สปอร์ต
  • สปอยเลอร์หลัง GT ดีไซน์สปอร์ต พร้อมตราสัญลักษณ์ GT ที่สามารถควบคุมแรงลมได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งช่วยลดแรงต้านและเพิ่มความเสถียรของรถเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง
  • มิติตัวรถขนาดกว้างขวาง ด้วยมิติตัวรถ 1,848 x 4,254 x 1,596 มม. (กว้าง x ยาว x สูง) ระยะฐานล้อ 2,650 มม. มาพร้อมการออกแบบระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง และหลังแบบทอร์ชันบีม ให้การขับขี่ที่ยึดเกาะถนนและนั่งสบายเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของทุกคนในครอบครัว
  • ใหม่ ! ระบบจ่ายกระแสไฟ V2L (3300W) ระบบจ่ายกระแสไฟแก่อุปกรณ์ไฟฟ้าเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในทุกการเดินทาง
  • ประตูท้ายเปิด-ปิดไฟฟ้าพร้อมระบบแฮนด์ฟรี เพียงยื่นเท้าเข้าไปใต้ท้องรถบริเวณบานท้ายประตู เซ็นเซอร์จะตรวจจับวัตถุเเละเปิดประตูด้านท้ายอัตโนมัติทันที เหมาะสาหรับผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารที่ยกของหนักด้วยมือทั้งสองข้างและไม่สามารถใช้มือปลดล็อกประตูท้ายได้ด้วยตนเอง มอบความสะดวกสบายแก่เจ้าของรถเเละผู้โดยสารยามใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม

การออกแบบภายใน (Interior Design)

New GWM ORA Good Cat รุ่น GT ถูกออกแบบภายในแบบทูโทนด้วยสีดาและสีเหลืองเป็นเอกลักษณ์ ได้แก่ พวงมาลัยสีดา-เหลือง วัสดุตกแต่งแผงคอนโซลหน้า เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังกลับสีดาเย็บด้ายเหลือง และที่เท้าแขนข้างประตูพร้อมตกแต่งสีเหลือง เพื่อมอบความรู้สึกสปอร์ตในห้องโดยสารอย่างไม่เหมือนใคร

  • หน้าจอ Interactive Double Screen หน้าจอพาดยาวบริเวณคอนโซลของตัวรถมีขนาด 17.25 นิ้ว ที่มีความละเอียดสูง แบ่งออกเป็น หน้าจอแสดงผลการขับขี่แบบดิจิทัล (Full TFT) ขนาด 7 นิ้ว และหน้าจอระบบมัลติมีเดียพร้อมระบบสัมผัส ขนาด 10.25 นิ้ว
  • ลำโพงรอบทิศทาง จานวน 6 ตัว
  • วัสดุภายในห้องโดยสารให้สัมผัสที่สบาย โดยใช้วัสดุที่มีคุณภาพและยืดหยุ่นสูงในการตกแต่งภายในด้วยดีไซน์ที่สวยงาม พร้อมมอบสัมผัสที่นุ่มนวลแก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
  • เบาะที่นั่งที่ถูกออกแบบมาอย่างถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์ ตกแต่งอย่างประณีตและใส่ใจในทุกรายละเอียด
  • เบาะที่นั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้าปรับไฟฟ้า มาพร้อมฟังก์ชัน Welcome Seat ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเข้า-ออกจากรถได้อย่างสะดวกและง่ายดาย
  • ระบบเบาะนวดไฟฟ้า เพื่อลดความเมื่อยล้าของผู้ขับขี่
  • หลังคาพาโนรามิกซันรูฟ เพื่อเพิ่มพื้นที่แสงสว่าง และเปิดมุมมองรับชมวิวทิวทัศน์ได้มากยิ่งขึ้น
  • ฟังก์ชันอินเทอร์เน็ตเพื่อความบันเทิงในรถยนต์ เช่น การเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน ฟังเพลง และวิดีโอ
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมกรองอากาศ PM2.5
  • เบาะที่นั่งหลังสามารถพับลงได้ เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการบรรทุกสัมภาระได้สูงสุดถึง 858 ลิตร
  • ใหม่ ! ก้านเปลี่ยนเกียร์ เกียร์อัตโนมัติแบบใหม่ด้านข้างพวงมาลัย ช่วยในการปรับเปลี่ยนและควบคุมรถให้ง่ายกว่าเดิม
  • ใหม่ ! ระบบชาร์จไร้สาย 50W (Wireless Charging 50W)
  • ช่องต่อ USB ประเภท TYPE A และ C สาหรับผู้โดยสารด้านหน้า และประเภท TYPE A สาหรับผู้โดยสารด้านหลัง

สมรรถนะของรถยนต์ New GWM ORA Good Cat

New GWM ORA Good Cat รุ่น GT ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ให้กาลังสูงสุด 126 กิโลวัตต์ หรือ 171 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมความสามารถการกู้คืนพลังงาน (Energy Recovery) ได้สามระดับ ได้แก่ น้อย, มาตรฐาน และมาก เพื่อการประหยัดพลังงาน

โหมดการขับขี่ของรถยนต์ New GWM ORA Good Cat

New GWM ORA Good Cat รุ่น GT มีระบบขับขี่ทั้งหมด 6 แบบ ได้แก่ 1) ปกติ 2) สปอร์ต 3) ประหยัด 4) ECO+ 5) อัตโนมัติ และ 6) ขับขี่ส่วนบุคคล ซึ่งผู้ขับขี่สามารถปรับได้เองตามปริมาณแบตเตอรี่ที่คงเหลือ

แบตเตอรี่ของรถยนต์ New GWM ORA Good Cat

แบตเตอรี่ของรถยนต์ New GWM ORA Good Cat GT มาพร้อมอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยทางไฟฟ้าของรถยนต์กว่า 416 รายการ และระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวประสิทธิภาพสูง

  • ใหม่ ! แบตเตอรี่ชนิดลิเธียมไอออนฟอสเฟต (LFP) ความจุ 57.70 กิโลวัตต์ชั่วโมง มีระยะทางวิ่งสูงสุด 460 กิโลเมตร มาตรฐาน NEDC (ลดลงจากล็อตผลิตในประเทศจีน ที่ใช้แบตเตอรี่ขนาด 63.139 kWh รองรับระยะทางในการใช้งานสูงสุด 500 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC)
  • รองรับการชาร์จแบบเร็วด้วยไฟกระแสตรง (DC) สูงสุด 70 กิโลวัตต์ และการชาร์จไฟบ้านแบบ AC 6.6 กิโลวัตต์
  • ระยะเวลาในการชาร์จ
    – ชาร์จแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC (0% – 80%) 54 นาที
    – ชาร์จแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC (30% – 80%) 38 นาที
    – ชาร์จด้วยไฟบ้านแบบ AC 9 ชั่วโมง
  • แบตเตอรี่สามารถใช้งานขับขี่ได้ในสภาพแวดล้อมอุณหภูมิ -30°C ถึง 55°C
  • แบตเตอรี่สามารถชาร์จไฟได้ในสภาพแวดล้อมอุณหภูมิ -20°C ถึง 55°C
  • แบตเตอรี่สามารถทำงานได้อย่างเป็นปกติในระดับความสูง -150 ถึง 5,000 เมตรจากระดับน้าทะเลปานกลาง และภายใต้สภาวะความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศ 2 – 98%
  • แบตเตอรี่มีความสามารถในการป้องกันมาตรฐาน IPX9K และ IP67 ซึ่งสามารถป้องกันน้า การกัดกร่อน การชน อัคคีภัย และการกระแทกได้ โดยเมื่อเกิดการกระแทก ระบบไฟฟ้าจะตัดการทางานภายใน 0.1 วินาที เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
  • เซลล์แบตเตอรี่ถูกห่อหุ้มด้วยกล่อง 3 มิติ ที่มีความแข็งแรงพร้อมมีการควบคุมอุณหภูมิและระบบระบายความร้อน

ฟังก์ชันอัจฉริยะ (Intelligent Functions)
New GWM ORA Good Cat GT มาพร้อมกับระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ เช่น ระบบความบันเทิงในรถยนต์ ระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ ระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ และเทคโนโลยีสาหรับการขับขี่อันล้าสมัยอีกมากมาย ได้แก่

  • ระบบอัปเกรดระบบผ่านออนไลน์ (FOTA) ระบบดังกล่าวมาพร้อมกับความสามารถในการอัปเกรดเฟิร์มแวร์สาหรับการควบคุมระบบขับเคลื่อน ระบบส่งกาลัง และระบบการขับขี่อัจฉริยะต่าง ๆ รวมถึงระบบ Infotainment และระบบควบคุมอื่น ๆ ภายในรถยนต์ได้อย่างง่ายดาย
  • ระบบสั่งการด้วยเสียงอัจฉริยะ สามารถควบคุมการใช้งานฟังก์ชันได้ตลอดเวลาด้วยเสียง รวมถึงควบคุมเครื่องปรับ
    อากาศ ซันรูฟ ระบบนาทาง และมัลติมีเดีย เพื่อลดความเสี่ยงในการขับขี่ และมอบความปลอดภัยอย่างไร้กังวล
  • การสั่งการและควบคุมรถจากระยะไกล เป็นระบบที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมการทางานบางฟังก์ชันของรถยนต์ได้ แม้ผู้ขับขี่จะอยู่ในระยะที่ไกลจากตัวรถยนต์ รวมไปถึงการสร้างระบบความปลอดภัยให้กับรถยนต์

    – ฟังก์ชันด้านการเข้าถึงข้อมูลแบตเตอรี่รถไฟฟ้า เช่น ระบบตรวจสอบสถานะปริมาณแบตเตอรี่ ระบบตรวจสอบสถานะการชาร์จแบตเตอรี่ ระบบตรวจสอบระยะทางวิ่งคงเหลือ และระบบช่วยเตือนเมื่อแบตเตอรี่ 12V ต่า
    – ฟังก์ชันด้านการใช้งานที่สามารถสั่งการและควบคุมได้จากระยะไกล เช่น การควบคุมระบบปรับอากาศ การล็อกและปลดล็อกประตู การค้นหารถยนต์ และการสั่งปิดหน้าต่าง
    – ฟังก์ชันด้านความปลอดภัยที่สามารถสั่งการและควบคุมได้จากระยะไกล เช่น การแสดงตาแหน่งรถยนต์ การกาหนดรัศมีการใช้งานรถ และการแสดงผลการตั้งค่าต่าง ๆ ของรถยนต์
  • ระบบความบันเทิงแบบมัลติมีเดีย

    – รองรับ Apple CarPlay และ Siri
    – รองรับ Android Auto และ Google Assistant
    – รองรับแอปพลิเคชันเพลง เช่น JOOX
    – ระบบนาทาง

ระบบการช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบความปลอดภัย (Driver Assistance and Safety Systems) สาหรับการขับขี่แบบอัตโนมัติในระดับ L2+

  • ระบบการช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบความปลอดภัยเชิงป้องกัน (Active Safety)
    – ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ (Intelligent ACC) มาพร้อมกล้องติดรถยนต์ ADAS ที่ประสานกับชิปควบคุมการขับเคลื่อนอัตโนมัติ EYEQ4 ของโมบายอาย เพื่อช่วยควบคุมในช่วงความเร็วเต็มพิกัดที่กาหนดไว้ รวมถึงการหยุดและกลับไปยังความเร็วที่ตั้งไว้ก่อนหน้า โดยรถจะลดความเร็วลงและหยุดตามคันหน้า และเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนตัวหลังจากเบรกภายใน 3 วินาที รถจะเคลื่อนตัวตามคันข้างหน้าอัตโนมัติ และควบคุมระยะห่างการติดตามให้อยู่ในระยะที่ปลอดภัย
    – ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่า (TJA) เป็นระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อใช้ความเร็วต่า โดยเฉพาะในสภาพการจราจรติดขัดและรถเคลื่อนตัวได้ช้า ระบบจะควบคุมให้รถติดตามรถด้านหน้าหรือขับต่อไปด้วยความเร็วคงที่เพื่อลดภาระของผู้ขับขี่
    – ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก (AEBI) ระบบนี้ถือเป็นหนึ่งในระบบที่ดีที่สุดในระดับ L2+ ที่มาพร้อมระบบการตรวจจับคนเดินถนนและทางแยก โดยสามารถคานวณระยะทางระหว่างรถและคนเดินถนนได้แบบเรียลไทม์ รวมทั้งยังมีสัญญาณเตือนด้วยเสียงและการเบรกอัตโนมัติเพื่อช่วยหลีกเลี่ยงการชนหรือลดแรงกระแทก
    – ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินที่ความเร็วต่า (MEB) เมื่อระบบช่วยจอดรถยนต์และระบบช่วยเบรกฉุกเฉินที่ความเร็วต่าทางาน จะมีเรดาร์ตรวจพบสิ่งกีดขวางที่หยุดนิ่งในเส้นทางการถอยหลังและมีความเสี่ยงที่จะเกิดการชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการจราจรมีการเปลี่ยนแปลงและมีความชุลมุน เพื่อหลีกเลี่ยงหรือลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ โดยความเร็วขณะถอยจะต้องไม่เกิน 8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
    – ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA) ระบบจะช่วยควบคุมพวงมาลัยเพื่อบังคับให้รถอยู่ในเลน โดยจะระบุเส้นแบ่งเลนถนนผ่านกล้องที่กระจกหน้ารถเมื่อคนขับเบี่ยงเลนโดยไม่รู้ตัว และเมื่อระบบตรวจสอบพบว่าผู้ขับขี่มีลักษณะการขับขี่ที่ไม่ปลอดภัย ระบบจะแจ้งเตือนด้วยเสียง
    – ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW) ระบบจะแจ้งเตือนเมื่อรถกาลังออกนอกเลน เมื่อรถเบี่ยงออกจากเลนโดยไม่รู้ตัว ระบบจะส่งเสียงเตือนเพื่อให้ผู้ขับขี่มีเวลาตอบสนองมากขึ้น
    – ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK) ระบบจะช่วยควบคุมรถให้อยู่กึ่งกลางเลน
    – ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK) หากระบบตรวจสอบแล้วพบรถอีกคันกาลังแล่นมา หรือมีรถแซงขึ้นมาจากอีกเลน ระบบจะทาการแทรกแซงการทางานโดยอัตโนมัติเพื่อหลีกเลี่ยงหรือลดความเสี่ยงในการชน
    – ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS) ระบบจะตรวจสอบรถบรรทุกขนาดใหญ่หรือรถที่มีขนาดยาว ระบบจะรักษาช่องว่างระหว่างรถตามระยะที่เหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะในระหว่างการแซง และจะประคองรถให้กลับสู่เลนเดิมอัตโนมัติ
    – การเข้าโค้งอัจฉริยะ (Intelligent cornering) เมื่อระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) ทางาน กล้องระบบจะทาการตรวจสอบความโค้งของถนน และความเร็วจะถูกปรับอัตโนมัติหากจาเป็นต้องลดความเร็วในขณะเข้าโค้งเพื่อความปลอดภัย และเมื่อผ่านโค้งไปแล้ว รถจะกลับเข้าสู่ความเร็วเดิมที่ตั้งไว้อัตโนมัติ
    – ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน (HSA) เมื่อรถออกจากจุดที่หยุดนิ่งบนเนินสูงชัน เบรกจะยังคงค้างอยู่ ราว 2 วินาที จนกระทั่งคันเร่งทางาน เพื่อป้องกันการถอยหลัง
    – ใหม่ ! ระบบช่วยชะลอความรุนแรงของการเกิดการชนซ้าครั้งที่ 2 (SCM) รถจะพยายามรักษาเสถียรภาพเอาไว้เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้าซ้อน
    – ระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPMS) รถจะทาการวัดแรงดันลมยางอย่างต่อเนื่องและเตือนผู้ขับขี่หากมีแรงดันลมยางล้อใดล้อหนึ่งลดลง
    – กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา ประกอบไปด้วยกล้องที่มองได้รอบ 4 ตัว มีความละเอียดคมชัด 4 เมกะพิกเซล โดยระบบจะรวมเอามุมมองภาพทั้ง 4 กล้องมาสร้างภาพที่มีมุมมอง 360 องศา เพื่อแสดงให้เห็นมุมมองของรถในแบบ “เฮลิคอปเตอร์” และเปิดการทางานอัตโนมัติเมื่อเข้าสู่โหมดการถอยหลัง โดยสามารถดูได้เมื่อรถมีความเร็วต่ากว่า 15 หรือ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
    – ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ 3 รูปแบบ (IIP) ระบบจะใช้เซนเซอร์และกล้องในการตรวจสอบเพื่อตรวจจับวัตถุและเครื่องหมายบริเวณช่องจอดหรือจุดจอดรถ และช่วยทางานเต็มรูปแบบเพื่อเข้าจอด ทั้งแนวตั้ง แนวนอน หรือ แนวเฉียง โดยเมื่อระบุช่องว่างที่จะนารถเข้าจอดแล้ว รถจะทาการจอดด้วยตัวเองด้วยการควบคุมพวงมาลัย เบรก และคันเร่ง
    – ระบบช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA&RCTB) ระบบจะมีเซนเซอร์ช่วยตรวจสอบจุดอับสายตาด้านหลังของตัวรถทั้งด้านซ้ายและขวาของช่องทางเดินรถในขณะถอยหลัง เมื่อรถกาลังถอยหลังออกจากช่องจอด เซนเซอร์หลังของรถจะทาการเช็กด้านซ้ายและขวาของช่องจราจร และส่งสัญญาณเตือนด้วยเสียง หากผู้ขับขี่ยังเพิกเฉย ไม่หยุดรถ ระบบเบรกอัตโนมัติในกรณีฉุกเฉินจะเริ่มทางานเพื่อหลีกเลี่ยงการชน
  • ระบบความปลอดภัยเชิงปกป้อง (Passive Safety)
    – โครงสร้างตัวถัง ทามาจากเหล็กกล้า IronBone™ ที่มีความแข็งแรงสูง 65% และเหล็กเทอร์โมฟอร์ม 18 ชิ้น ซึ่งสามารถดูดซับและลดแรงกระแทกเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นหลัก
    – ถุงลมนิรภัย 6 ตาแหน่ง เพื่อปกป้องผู้โดยสารเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ในกรณีที่ถุงลมนิรภัยทางาน สัญญาณเตือนอันตรายจะทางาน ประตูจะถูกปลดล็อก และรถจะโทรติดต่อศูนย์ช่วยเหลือฉุกเฉิน และสามารถส่งตาแหน่งเพื่อขอความช่วยเหลือได้
    – ได้รับมาตรฐานความปลอดภัยในระดับ Good จาก China Insurance Research Institute (C-IASI)
    – ระบบโทรหาเบอร์ฉุกเฉิน เมื่อผู้ขับขี่เจ็บป่วยกะทันหันหรือเกิดเหตุฉุกเฉิน ให้แตะที่ปุ่มเพื่อติดต่อกับหน่วยงานในการช่วยเหลือ หรือในกรณีที่ถุงลมนิรภัยระเบิด ผู้ประสบภัยหมดสติ ระบบจะติดต่อเบอร์ฉุกเฉินอัตโนมัติ

New GWM ORA Good Cat GT มีเฉดสีภายนอกตัวรถทั้งหมด 2 สี ได้แก่

  • สีเทา (Aqua Grey)
  • สีดำ (Sun Black)

และสีรถภายในทั้งหมด 1 สี ได้แก่

  • สีดา-เหลือง

พร้อมสนนราคาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ที่ : 1,099,000 บาท (ราคาเดิม 1,286,000 บาท)

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่
Tags: