อาจจะจริงอยู่ว่าในประเทศนอร์เวย์ ผู้คนที่นี่ส่วนใหญ่ได้หันไปใช้รถไฟฟ้าเป็นยานพาหนะหลักกันแล้ว ซึ่งบ่งบอกถึงความไว้วางใจในเทคโนโลยีใหม่นี้กันเป็นอย่างดี แต่นั่นไม่ใช่กับบริษัทเรือขนส่งชื่อดังของประเทศอย่าง “Havila Krystruten”

Havila Krystruten คือหนึ่งจากสองบริษัทเรือขนส่งสัญชาตินอร์เวย์ ที่ให้บริการขนส่งทั้งผู้คน และสิ่งของ ทางทะเล จากเมือง เบอร์เกน ทางฝั่งทิศใต้ของนอร์เวย์ ไป-มา ยังเมือง เคิร์กเคเนส ซึ่ง อยู่ทางตอนเหนือของประเทศ

ล่าสุดได้มีการให้กับเหล่าลูกค้าว่าพวกเขาขอปฏิเสธการขนส่งยานพาหนะที่ใช้ขุมกำลังไฟฟ้า ทั้ง BEVs และ ไฮบริด โดยมีเหตุผลหลัก คือต้องการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงและการรับมือเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ จากยานพาะหนะกลุ่มดังกล่าว

โดยแม้จะยังไม่มีข้อมูลบ่งชี้อย่างแน่ชัด ถึงสาเหตุที่ทำให้เรือ Felicity Ace ซึ่งขนส่งรถยนต์ ซึ่งมีทั้งรถยนต์ทั่วๆไป รถยนต์โมเดิร์นคลาสสิคระดับตำนาน หรือรถซุปเปอร์คาร์ที่ควรจะเป็นล็อตสุดท้ายของโลก ต้องจมลงไปท่ามกลางทะเลแปซิฟิก เมื่อปีก่อน

แต่เนื่องจากในจำนวนรถกว่า 4,000 คัน ที่อยู่บนเรือลำดังกล่าว มีรถยนต์ไฟฟ้ารวมอยู่ด้วย จึงทำให้หลายฝ่ายพุ่งประเด็นไปที่มันอาจเป็นเหตุซึ่งทำให้เกิดเพลิงไหม้ ในแบบที่ระบบดับเพลิงภายในเรือไม่สามารถแก้ไขได้ทันท่วงทีจนต้องจมลงสู่ก้นทะเลในที่สุด

และถึงแม้งานวิจัยหลายๆชุด จะบ่งบอกว่ายานพาหนะที่ใช้ขุมกำลังเครื่องยนต์สันดาปภายใน และมีน้ำมันเป็นเชื้อเพลิง มีโอกาสที่จะเกิดเพลิงไหม้มากกว่ายานพาหนะพลังไฟฟ้า แต่ทาง Havila Krystruten กลับเลือกพุ่งประเด็นไปที่ ความสามารถในการดับเพลิงไหม้บนเรือ มากกว่าความถี่ที่จะเกิดเพลิงไหม้

“เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยล้วนๆ, และจากบทสรุปหลังจากการวิเคราะห์ความเสี่ยง บ่งบอกว่าโอกาสในการเกิดเพลิงไหม้จากเชื้อเพลิงฟอสซิล ยังคงสามารถแก้ไขได้ด้วยระบบและลูกเรือที่ประจำการอยู่บนเรือ” Bent Martini ผู้จัดการบริษัทกล่าว 3

“ในขณะเดียวกัน กรณีเพลิงไหม้ที่เกิดจากยานพาหนะพลังไฟฟ้า, ไฮบริด หรือไฮโดรเจน จะต้องพึ่งการแก้ไขสถานการณ์จากภายนอก (ต้องใช้ผู้ชำนาญการ หรืออุปกรณ์พิเศษเฉพาะทางมากกว่าเดิม ที่ไม่ได้อยู่บนเรือ) และนั่นอาจทำให้ทั้งผู้คนและเรือล่มได้”

อย่างไรก็ดี เนื่องจากในช่วง 1-2 ปี ที่ผ่านมา ยอดขายรถยนต์ในประเทศนอร์เวย์ มีสัดส่วนมากกว่า 80% ที่เป็นของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าล้วน จึงทำให้ทางบริษัทอาจไม่สามารถปฏิเสธลูกค้าที่ใช้รถยนต์เหล่านี้ได้นานเท่าไหร่นัก เพราะมีความเสี่ยงที่พวกเขาอาจเสียฐานลูกค้าให้กับบริษัทคู่แข่งมากเกินไป เพราะฝ่ายหลังยังคงยินดีที่จะให้บริการขนส่งยานพาหนะของลูกค้าทุกคันตามเดิม โดยไม่ได้จำกัดว่ามันจะมาพร้อมกับขุมกำลัง หรือใช้พลังงานแบบใด

นั่นจึงทำให้ในขณะที่ Havila Krystruten ตัดสินใจไม่รับการขนส่งยานพาหนะพลังไฟฟ้า พวกเขาเองก็กำลังหาทางวิธีรับมือที่ดี และน่าเชื่อถือมากที่สุดเมื่อยานพาหนะเหล่านี้เกิดเพลิงไหม้ขึ้นมาขณะล่องเรือไปพร้อมๆกันด้วย

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่