เปิดขายไปได้สักพักและกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นสำหรับ Nissan Serena เจเนอเรชันที่ 6 แต่ช่วงแรกนี้จะขายแค่รุ่นขับสองเบนซิน 2 ลิตร

ล่าสุด Nissan ประกาศก๊อกสองเสริมทัพด้วยรุ่นขับสี่สำหรับ Nissan Serena เจเนอเรชันที่ 6 ความสวยสปอร์ตนั้นเหมือนกับรุ่นขับสองทุกประการตั้งแต่กระจังหน้ารูปตัววีดีไซน์เรียบง่าย ลงตัวด้วย ไฟหน้า LED สามดวงแนวตั้งพร้อมปักชื่อ Serena บนขอบไฟหน้า รับกับชุดกันชนหน้าพร้อมไฟตัดหมอกหน้าดวงเล็กแบบ LED คิ้วด้านท้ายด้วยกันสองชุดเริ่มจากคิ้วเล็กปะชื่อ Serena และคิ้วใหญ่กรอบป้ายทะเบียน ติดตั้งกันชนหลังแผงทับทิม สปอยเลอร์หลังขนาดใหญ่ และไฟท้าย LED แนวตั้ง ที่ครอบทับฝาท้ายส่วนบนกระจกท้ายเสา C กับ D แบบตัววี เสา A มีกระจกขนาดเล็กแบบเดียวกับเจนที่แล้ว ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 205/65 R16

ภายในเหมือนกันเต่เพิ่มข้าวของมาทั้งระบบอุ่นที่พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้าน เบาะนั่งคู่หน้าและเบาะนั่งแถวสองซ้ายขวาและกระจกมองข้างละลายฝ้าได้ ภายในเป็นสามแถว 7 และ 8 ที่นั่ง เบาะนั่งตอนที่สองสามารถเลื่อนได้ แผงคอนโซลหน้าพร้อมมาตรวัดขนาดใหญ่พร้อมจอ MID กับจอ Touch Screen ขนาดเท่ากัน 12.3 นิ้ว รองรับระบบความบันเทิง Infotainment พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้าน ประตูสไลด์ เปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า เครื่องปรับอากาศปรับอุณหภูมิแยกซ้าย-ขวา

แต่ว่าสำหรับรุ่นขับสี่จะขายแค่พลังเบนซินล้วนอย่างเดียวขนาด 2.0 ลิตร MR20DD 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 200 นิวตันเมตร คู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ XTRONIC CVT แบบกดปุ่มแทนคันโยก พร้อมระบบ ProPILOT 2.0 หรือระบบช่วยขับกึ่งอัตโนมัติ ระบบช่วยบังคับเลี้ยวเพื่อหลีกเลี่ยงการชน” ควบคุมการบังคับเลี้ยวของผู้ขับขี่ ProPILOT Parking จดจำตำแหน่งที่จอดรถเมื่อจอดรถแล้ว และ Propilot Remote Parking สามารถเข้าและออกช่องจอดรถแคบๆได้ด้วยรีโมทคอนโทรล

Nissan Serena รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อมีขายสามเกรดตั้งแต่รุ่น X, XV, Highway Star V ประกาศราคาจำหน่ายเริ่ม 3,034,900-3,535,400 Yen หรือราว 781,000- 931,000 บาท โดยจะขายพร้อมกับรุ่น e-Power ตั้งแต่เดือน มีนาคม ปี 2023

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่