แดนจิงโจ้เริ่มทดลองใช้กล้องตรวจคนเล่นมือถือระหว่างขับรถ

สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุนอกจากขับรถเร็ว ดื่มมาจนมึนเมา ยังมีการเล่นสมาร์ทโฟนระหว่างขับรถ ล่าสุดที่ออสเตรเลียมีการทดลองใช้กล้องตรวจจับคนใช้มือถือระหว่างขับรถ

ล่าสุดทางหน่วยงานรัฐบาลของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย ได้ออกมาเปิดเผยว่า ตอนนี้ได้เริ่มทดลองใช้กล้องตรวจจับคนที่ใช้งานมือถือระหว่างขับรถ นับเป็นครั้งแรกของโลกที่มีมาตรการออกมาใช้ตรวจวัดจริงจัง แม้ในหลายประเทศมีกฏห้ามใช้มือถือตอนขับรถ แต่ก็ยังไม่มีแห่งไหนเลยที่นำกล้องมาตรวจตราคนกระทำผิด

กล้องชนิดใหม่ที่ไว้คอยจับผิดคนแอบเล่นมือถือตอนขับรถ ถูกติดตั้งทางหลวงสาย M4 กับเส้นทางแอนด์แซ็ค พาเหรด โดยจะเริ่มทดลองใช้ในเดือนมกราคมปี 2019 แต่ยังไม่มีการปรับเงินผู้กระทำความผิดในช่วงแรก

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ตอนที่ได้ทดสอบกล้องช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา กล้องได้ตรวจพบคนขับรถกว่า 11,000 คน ที่หยิบมือถือขึ้นมาใช้งานระหว่างขับรถบน ทั้งๆ ที่ทรายดีว่าเป็นการกระทำผิดกฏหมาย รวมถึงก่อให้เกิดความอันตรายต่อตนเองและผู้อื่น ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีตัวภาพที่พบว่าคนขับรถคันหนึ่งปล่อยมือออกจากพวงมาลัย แล้วพิมพ์ข้อความบนมือถือระหว่างรถกำลังวิ่งอยู่

เมื่อเรานำเสนอข่าวนี้ก็แอบคิดไม่ได้ว่า ถ้าประเทศไทยมีกล้องที่ทำงานคล้ายกันติดอยู่ตามถนน จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้มากน้อยขนาดไหน เพราะลำพังแค่กล้องจับความเร็วคนที่โดนใบสั่งส่งถึงบ้านยังไม่ไปจ่ายค่าปรับเลย…

ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com