เมื่อมีครอบครัว เชื่อว่า สิ่งแรกๆ ที่ทุกคน จะนึกถึง ว่าควรจะต้องเปลี่ยนแปลง รองรับ คนที่จะตามมาในอนาคต ก็น่าจะหนีไม่พ้น รถยนต์ที่เราใช้ ปัจุจบัน รถครอบครัว มีหลายทางเลือก ไม่เพียงแค่รถอเนกประสงค์เท่านั้น หากยังมีการผสมผสานของ รถในรูปแบบ MPV พร้อมลุย อย่าง Mitsubishi Xpander Cross เป็นทางเลือกด้วย

หลายปีที่ผ่านมา Mitsubishi ได้ นำเสนอรถยนต์พร้อมลุย Mitsubishi Xpander Cross ออกมาวางจำหน่ายในไทย มันได้รับความสนใจ ทั้งในแง่ราคาที่แพง ฟังชั่นใช้งานที่ครบครัน ทั้งยังสามารถ ทำให้ตัวรถตอบสนองต่อการใช้งานได้หลากหลาย จนคนมองว่าคุ้มค่าคุ้มราคา

ในปีนี้ ทางมิตซูบิชิ กลับมาด้วยการอัพเดท รถยนต์ Mitsubishi Xpander Cross 2023 ให้น่าใช้มากขึ้น เริ่มจากหน้าตาภายนอก ที่มีการปรับปรุงใหม่ โดยเฉพาะ ด้านหน้าที่มีความแข็งแกร่งบึกบึน ยกระดับกระชับหน้าตา ให้แข็งแกร่งบึกบึน จนกลายเป็นหน้าตา ที่ผมสะดุดตา ชอบมากทันทีตั้งแต่แรกเห็น

จุดเปลี่ยนสำคัญ อยู่ที่ กระจังหน้า , และการเปลี่ยนชุดไฟหน้าทางด้าานล่าง มาเป็นโคมแบบใหม่ที่มีความทันสมัน ด้านบนเปลี่ยนชุดไฟหรี่เป็นไฟ LED ทั้งหมด ปรับปรุงชายล่างเสริมเหลี่ยมสัน ทำให้รถดูมีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

ด้านข้าง ล้ออัลลอย 17 นิ้ว เปลี่ยนลายใหม่ เพิ่มความน่าใช้กว่าเดิม รวมถึงปรับปรุงชายประตู มาใช้ พลาสติดสีดำด้าน ชิ้นงานดิบ เสริมภาพลักษณ์แข็งแกร่ง

ท้ายรถ ไฟท้าย อัพเดท ให้เหมือนของ Xpander ที่เปิดตัว ไปเมื่อปีที่แล้ว ชิ้นงานกันชนถูกปรับปรุงชายล่าง ให้มีความแข็งแกร่งมากกว่าเดิม

ทางด้านในห้องโดยสาร มีการปรับปรุง หลายอย่างที่น่าสนใจ แต่เหมือนว่า ทางมิตซูบิชิ ตั้งใจยกหลายชิ้นส่วนนำไอเดีย มาจาก ปาเจโร่ สปอร์ต ไม่ว่า พวงมาลัย 4 ก้าน ที่มาในทรงเดียวกัน หน้าปัด เรือนไมล์ที่เปลี่ยนมาเป็นระบบดิจิตอล กราฟฟิก งานออกแบบให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น

ภายในห้องโดยสาร  Mitsubishi Xpander Cross
ภายในห้องโดยสาร  Mitsubishi Xpander Cross
เบาะนั่ง ที่มาพร้อมหนัง Heat Gaurd ช่วยลดความร้อน เวลาต้องจอดรถตากแดด

ระบบปรับอากาศ เปลี่ยนเป็นระบบดิจิตอล น่าเสียดาย มันยังเป็นแอร์ปกติ ไม่ใช่แอร์ออโต้ ทั้งที่รถราคาจะเฉียดล้านบาทเข้าไปแล้ว

แต่จุดเปลี่ยนแปลงสำคัญ ทางด้านในห้องโดยสาร คือการเปลี่ยนวัสดุเบาะนั่งให้มีความพรีเมี่ยมมากขึ้น เบาะนั่งหนังเติมหนังพิเศษ ที่เรียกว่า Heat Gaurd เข้ามา หนังชนิดนี้มีคุณสมบัติพิเศษ คือ ไม่อมความร้อน เวลาเราจอดรถไว้กลางแดด

ส่วนแพทเทิรนในห้องโดยสาร ยังคงเหมือนเดิม กับ เบาะนั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง โดยเบาะนั่งตอนสอง สามารถปรับพับได้ในอัตรา 60/40 และ ด้านหล้ง 50/50 สามารถ ปรับเอนได้ด้วย

การทดลองขับ

ใต้เรือนร่าง Mitsubishi Xpander Cross ยังคงเหมือนเดิม ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ให้พลังขับสูงสุด 105 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 141 นิวตันเมตร

การปรับปรุงหลักในด้านพลังขับ ในหนนี้ ทางมิตซูบิช ผละจากเกียร์ออโต้ 4 สปีด มาสู่ระบบเกียร์ Eco dynamic CVT ให้อัตราทด 2.480-0.396 ช่วยเพิ่มการตอบสนองในกาารใช้งานมากขึ้น

ด้วยการเปลี่ยนมาเป็น CVT ทำให้สัมผัสรถ เปลี่ยนไปแทบจะเหมือนเป็นรถคนละคัน งวดนี้ได้ความนุ่มนวลมากขึ้น อาการเร่งนวลกว่าเดิมเหมาะสมกับความเป็นรถนั่ง แต่เมื่อพูดถึงอัตราเร่ง หากอยากให้ทันใจ ก็ต้องเหยียบคันเร่งเยอะเร่งสักหน่อย เพื่อให้ชุดเกียร์ตอบสนองตามความต้องการ

เรื่องนี้ชัดมากขึ้น เมื่อเราใช้จังหวะเร่งแซง หรือ ขึ้นทางลาดชัด เปรียบเทียบกับ รุ่น เกียร์ 4 สปีด เดิมจะสัมผัส ว่าคุณต้องเหยียบคันเร่งเยอะกว่าเดิมค่อนข้างมาก ถ้าจะให้ทันใจ แนะนำให้เล่นปุ่ม Over Drive ที่หัวเกียร์ รถจะตอบสนองดีขึ้นอย่างชัดเจน

อย่างไรก็ดี, น่าเสียดาย ที่แมจะเปลี่ยนเกียร์แล้ว รถคันนี้ก็ยังไม่มี Manual Mode ให้คุณปรับอัตราทดเอง ซึ่งจำเป็นในบางสถานการณ์ อาทิ เวลาลงเขา หรือ ยามที่คุณขับในทางโค้งต่อเนื่อง เป็นต้น

แม้ว่าการเปลี่ยนเกียร์จะไม่ได้ทำให้เรา รู้สึกหวือหวา กับ Mitsubishi Xpander Cross สักเท่าไร เนื่องจากเป็นสิ่งที่คาดเกาได้ จากการที่เคยสัมผัส Mitsubishi Xpander GT มาก่อนหน้านี้

หากสิ่งที่ต้องซูฮก ในเจ้าพ่อบ้าน คันนี้ ก็ดูจะไม่พ้นการเซทช่วงล่าง ซึ่งเปลี่ยนจากเดิมไปอีกขั้น งวดนี้ ตัวรถถูกเซทมาให้เฟิร์มนุ่มนั่งสบายกว่าตัวเดิม ทางมิตซูบิชิ เปิดเผยว่า ได้จับเอาเทคโนโลยีเดียวกับที่ใช้ใน Pajero Sport มาใช้ ในชุดโช๊ค โดยเฉพาะการปรับปรุงของโช๊คและสปริง ทางด้านหลัง

ช่วยให้ผู้โดยสารรู้สึกถึงความสบายตลอดการเดิมทางนุ่มนวลนั่งสบาย ยิ่งกว่านั้นเท่าที่ลองสัมผัสไม่ว่าจะในฐานะผู้ขับขี่หรือผู้โดยสาร อาการโคลงตัวหรือโยนตัวของรถในระหว่างการเปลี่ยนเลน และเข้าโค้งน้อยลงกว่าเดิมมา

เมื่อการโคลงตัวน้อย ถ้าเราเป้นคนขับก็รู้สึกมั่นใจ โดยเฉพาะ การขับเข้าโค้งด้วยความเร็ว แม้ว่ารถจะมีความสูงก้ตาม กลับกันถ้าเป็นคนนั่งจะรู้สึกว่านั่งสบายเกิดอาการเมารถในระหว่าวการเดินทางน้อยกว่า และด้วยความนิ่ง ทำให้เราไม่เอนตัวไปมา จนบางครั้งรู้สึกนั่งไม่สบาย

ไม่เพียงเท่านี้ ผมยังจับสัมผัสได้ว่า ทางมิตซูบิชิ ปรับอาการตอบสนองพวงมาลัย ให้มันเป็นะรรมชาติมากขึ้นด้วยครับ อาการคืนพวงมาลัยดีขึ้น เห็นชัด เมื่อเราทดลองกลับรถ แล้วปล่อยให้พวงมาลัยหมุนฟรี มันจะตอบสนองหมุนกลับเองเร็วขึ้น ไม่ต้องช่วยบังคับคืนพวงมาลัย แบบเดิมอย่างรุ่นเดิม

นอกจากนี้ การบังคับเลี้ยว โดยเฉพาะ ยามเปลี่ยนเลน หรือเข้าโค้ง ทิศทางที่เราใช้ในพวงมาลัย ก็ดูแม่นยำมากขึ้นกว่ารุ่นเดิมพอสมควร ทำให้ใช้พวงมาลัยน้อยลง แม้ว่าจะเป็นสิ่งเล็กน้อย แต่ก็ช่วยทอนความเหนื่อยล้าในการขับขี่ได้พอสมควร

ลองลุย สักนิด .. ทำได้ดีขึ้น

ด้วยความเป็นรุ่น ครอส รือ รุ่นที่เติมความเป็นรถอเนกประสงค์เข้ามามาก ทางมิตซูบิชิ จึงขอท้าให้เราไปลงอลุยสักหน่อย

วันนี้ ไร่สิงห์ปาร์ค ด้านในกลายเป็นสนามทดสอบของเรา รูปแบบ เสน้ทาง ก็ไม่ใช่ว่ายากหินมากมายเป็นเพียงเส้นทางดินแดงฝุ่น และ ทางลูกรัง ที่เราพบได้ตามถนนชนบททั่วไป

แน่นอน ว่า รถคันนี้ยังไม่มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ก็ไม่แน่ใจว่า ในอนาคต ทางมิตซูบิชิ จะสนใจมำออกมาขายหรือไม่ ที่แน่ๆวันนี้เราตะลุยเสน้ทางสมบุกสมบัน ที่อุดมด้วยหลุมบ่อ ก็ต้องบอกว่า รถคันนี้ทำไ้ดน่าสนใจมาก

อย่างที่เราบอกว่า รถคันนี้ ใช้โช๊คอัพภายใต้เทคโนดลยีเดียวกับ Mitsubishi Pajero Sport ทำให้ เราสัมผัสได้ว่า ช่วงชักของโช๊คอัพค่อนข้างยาวกว่า รุ่นปกติพอสมควร เวลาตกกระแทกหลุมบ่อ ขับผ่านทางสมบุกสมบัน จะเก็บอาการสะเทือนจากถนนได้ดีพอสมควร และไม่ได้รู้สึกแข็งกระด้าง

แม้จะขับทางลุย ก็ยังรู้สึกได้ถึงความสบายของห้องโดยสาร ไม่สั่นสะเทือนเกินไปนักในจังหวะปกติ แต่เมื่อไรก็ตามที่เราขับแล้วตกกระแทกหลุมแรงๆ ก็ไม่ต้องแปลกใจ เพราะต้องไม่ลืม ว่ารถยังเป็นโครงสรา้งแบบรถเก๋ง นั่นเอง

ลุยมาสักพัก ก็ทดลองการฝ่ายอุปสรรคทางลุยดูบ้างโดยทางมิตซูบิชิ แบ่งเป็น สองด่านสำคัญ

TCL ด่านแรก ที่ตั้งใจให้เราขับรถบนทางที่มีความลื่น ซึ่งด้วยตัวรถขับเคลื่อนสองล้อ เมื่อ รถมีอาการลื่น จะเป็นไปได้ ที่ล้อจะหมุนฟรี ทำให้ยากต่อการหลุดจากอุปสรรค

แต่ตัวรถ Mitsubishi Xpander Cross มาพร้อมระบบ Traction Control เมื่อระบบตรวจพบว่า มีล้อหมุนฟรี ด้านใดด้านหนึ่ง จะทำการลดความเร็วล้อที่หมุนฟรี เพื่อให้มีกำลังขับไปยังล้อที่ยังสามารถจับพื้นได้ดี ทำให้รถสามารถฝ่าอุปสรรคออกไปไก้ แม้แต่ในทางดินนุ่มๆ หรือ ขึ้นทางชันที่มีความลื่นก็ตาม โดยอากศัยความสามารถดังกล่าว ทำให้ไปถึงจุดหมาย

ในส่วนด่านที่สอง AYC- ระบบ นี้เป็นระบบใหม่ที่ทางมิตซูบิชิ ใส่เข้ามาในรถรุ่นใหม่ โดยระบบนี้เดิมที แนะนำใน Mitsubishi Evolution และวันนี้มาถึงรถครอบครัวคันนี้

Mitsubishi Xpander Cross
ระบบ TCL ช่วยลดการลื่นไถลในแต่ละล้อ เพื่อช่วยให้ตอบสนองฝ่าอุปสรรคง่ายขึ้น
Mitsubishi Xpander Cross

แนวทางของระบบ จะทำงานโดยเข้ามาจัดการ ทำให้การบังคับควบคุมได้ดั่งใจ เมื่อตรวจพบอาการไม่พึงประสงค์ในการขับขี่ สำหรับรถขับเคลื่อนล้อหน้า อย่าง Xpander Cross โดยมาก จเมื่อถนนลื่นแล้ว เราหักพวงมาลัยเร็วๆ แรงๆ หรือใช้ความเร็วมากเกินไป ในระหว่างการบังคับเลี้ยว จะเกิดอาการ Under Steer ได้ง่าย

ระบบ AYC จะเข้ามาจัดการ โดยการ เบรกล้อที่อยู่ด้านนอก ทำให้การลื่นไถงลดลง และในที่สุดก็ควบคุมได้

จากที่ลองในทางฝั่ง ขับเข้าโค้งด้วยความเร็ว 40 ก.ม./ช.ม. ระบบจะทำการเข้ามาจัดการควบคุมรถในทันที เพียงแค่มีภายใต้เงื่อนไขว่า ต้องตรวจพบการลื่นไถลแล้ว และผู้ขับขี่ยังคงเหยียบคันเร่ง ไม่ผ่อนหรือแตะเบรก ระบบจึงจะจัดการให้เอง

Mitsubishi Xpander Cross 2023 ลุคดีน่าใช้ จุดเด่น คือช่วงล่าง

หลังจากใช้เวลาทั้งวัน เจ้าพ่อบ้า่นพร้อมลุย ต้องยอมรับว่า รถคันนี้โดดเด่นในหลายด้าน แต่ที่ดีที่สุด เห็นทีจะเป็นระบบกันสะเทือนที่มีการปรับปรุง จนนั่งสบายในทุกเส้น โดดเด่นมากที่สุดในคลาส จนต้องยอมรับ

Mitsubishi Xpander Cross

ไม่ว่า บนถนนทั่วไป , ทางโค้ง หรือในทางสมบุกสมบัน รถคันนี้ทำได้ดี อย่างน่าเหลือเชื่อ

ส่วนการปรับปรุงหันมาใช้ ชุดเกียร์ CVT ก็ต้องยอมรับว่ าการเปลี่ยนแปลงนั่น ทำให้รถมีความนุ่มนวล นั่งสบาย และแม้ว่าจะตอบสนองดีขึ้น โดยเฉพาะอัตราประหยัด หากเราก็พบว่าในหลายจังหวะยังต้องย่ำคันเร่งเยอะ โดยเฉพาะในช่วงเร่งแซง หรือ ขึ้นเนิน

อย่างไรก็ดี ในส่วนฟังชั่นใหม่ๆ ระบบ AYC แม้ว่าจะทำงานได้ดี มีประโยชน์ แต่ด้วยเงื่อนไขในการทำงานที่ค่อนข้างจำกัด ทำให้ในความจริง คาดว่าโอกาสที่ลูกค้าจะได้ใช้ หายากมากๆ และเมื่อเทียบกับคู่แข่ง อย่าง BR-V ที่มีระบบความปลอดภัย ชุดใหญ่มาให้ ดูจะคุ้มค่ากว่า ระบบของทางมิตซูบิช

แต่ส่วนที่ดึงดูดลูกค้าได้จริงๆ ดูจะเป็นงานออกแบบตัวรถ ที่โดดเด่นหนือเพื่อนร่วมคลาส

ถ้าจะถามว่าคุ้มค่าไหม จะซื้อ Mitsubishi Xpander Cross มาเป็นคู่ใจสายครอบครัวคันใหม่ ก็ต้องถามว่า คุณมองหาอะไร ถ้าความสบายในการขับขี่ต้องยอมรับว่ รถคันนี้คือเบอร์ 1 ในตลาดวันนี้ นั่งสบายในทุกเส้นทาง นับเป็นจุดเด่นสำคัญของรถคันนี้

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่