ตลาดรถมินิเอ็มพีวี 7 ที่นั่ง หรือเรียกว่ารถครอบครัวกำลังดุเดือด เพราะมีทั้ง Mitsubishi Xpander กับ Suzuki Ertiga ที่หลายสงสัยว่าแต่ละคันต่างกันอย่างไร?

หลังจากที่เราลงบทความทริปทดสอบ Suzuki Ertiga 2019 โฉมใหม่ไปไม่นาน ก็มีท่านผู้อ่านหลายคนให้ความสนใจในตัวรถกันจำนวนมาก ซึ่งเอาเข้าจริงคำถามที่เกิดขึ้นในหัวของผู้อ่าน ว่าแล้วเจ้า Mitsubishi Xpander ที่เปิดตัวมาก่อนหน้าล่ะ มันเหมือนหรือต่างกันขนาดไหน เมื่อเทียบกับ Ertiga ใหม่ วันนี้เราจึงจะพาไปทำความเข้าใจกันแบบกระชับแต่ครบถ้วน

Xpander กับ Ertiga การขับขี่กับความสบายต่างกันอย่างไร

การขับขี่ – ในฐานะรถมินิเอ็มพีวี 7 ที่นั่ง

Mitsubishi Xpander ขับในเมือง – ขอเริ่มจากรถที่เปิดตัวก่อนเป็นอันดับแรก โดยเจ้า Xpander เนี่ยหากดูรูปร่างภายนอกเพียงอย่างเดียว ใครก็ต้องคิดว่ามันขับขี่คล่องตัวใช่ไหมเอ่ย… ซึ่งความจริงการขับในเมืองนี่ขอบอกว่าปราดเปรียวสุดๆ เนื่องด้วยพวงหมุนเบามือ แถมด้วยฐานล้อหน้าที่อยู่ใกล้กับผู้ขับ (รถหน้าสั้น) ยิ่งเสริมประสิทธิภาพยามใช้ในเมืองได้เป็นอย่างดี

ส่วนใครที่ถามว่ารถมันเหมือนจะยาวๆ นะ มุดเวลารถติดได้ไหม ต้องบอกว่าได้ครับ เพียงเรียนรู้จังหวะเกียร์กับกำลังเครื่องให้เข้าใจ คุณจะสามารถขับ Xpander ซ่อกแซ่กได้ไม่แพ้รถเก๋งขนาด B-Segment หรือรถอีโคคาร์ที่มีจำนวนมากบนท้องถนนได้ แต่จะด้อยกว่าตอนหาที่จอดรถเนี่ยแหละ ทำไงได้ล่ะก็ลำตัวพี่เขายาวนี่หว่า

Xpander กับ Ertiga การขับขี่กับความสบายต่างกันอย่างไร

Suzuki Ertiga ขับในเมือง – แอบเสียดายอยู่นิดหน่อยที่ไม่ได้เทส Ertiga ในโหมดเมืองกรุงฯ แบบจริงจัง แต่ก็พออุปมาอุปมัยการจราจรของถนนที่เชียงรายช่วงรถติดๆ ได้อยู่ โดยสัมผัสแรกนี่ขอบอกว่าพวงมาลัยเบาแต่ไม่โหวงเหวง อารมณ์คล้ายกับพวงมาลัยในสวิฟใหม่ แต่จะออกแนวหนืดหน่วงมากว่า หมายความว่าการขับมุดลัดเลาะเปลี่ยนเลนนี่ ขอบอกว่าประทับใจไม่แพ้ Xpander เลย

เรื่องการจอดรถดูเหมือน Ertiga จะใกล้เคียง Xpander ก็เพราะมีลำตัวสั้นกว่าแค่ 80 มม. เท่านั้น ส่วนประเด็นความกว้างห่างกันไม่เท่าไหร่ แต่สิ่งที่มันด้อยกว่าก็คือมีแค่เซ็นเซอร์ถอยหลังให้มา ไม่เหมือน Xpander ที่มีกล้องมองหลังติดตั้งบนรถ

Mitsubishi Xpander ขับนอกเมือง – มีอยู่วันนึงได้เอา Xpander ออกไปขับต่างจังหวัด โดยรู้แล้วล่ะว่ารถครอบครัว 7 ที่นั่ง แนวๆ นี้ มีหน้าที่รับใช้นายในการเดินทางไกลอยู่แล้ว ซึ่งการตอบสนองของพวงมาลัย รู้สึกว่ามั่นคงดี ไม่ส่ายไหวอะไรทั้งนั้น แต่มันไม่ได้มอบความมีชีวิตชีวาให้แกผู้ขับขี่เท่าไหร่ ประมาณว่าถือตรงมันก็ตรง หักเลี้ยวองศาเท่าไหร่ก็ไป ทว่าการตอบสนองจากพื้นฐานสู่พวงมาลัยแทบไม่มี

สำหรับการขับขี่ที่ความเร็วสูง (เกิน 120 กม./ชม.) Xpander ก็ยังควบคุมได้ง่ายไม่ออกอาการโยนยวบ หรือท้ายออกมากเวลาเข้าโค้งแรงแต่อย่างใด ช่วงล่างออกแนวแน่นหนึบ ติดกระด้างนิดๆ แต่ไม่ถึงกับสั่นสะเทือนอะไร กลับกันมันสามารถซับแรงกระแทกได้อย่างอัศจรรย์

รีวิว Suzuki Ertiga 2019

Suzuki Ertiga ขับนอกเมือง – อาการเวลาขับขี่ Ertiga นั้นต่างไปจาก Xpander อยู่ตรงความรู้สึกที่มั่นใจเหมือนกัน แต่ไม่ได้ออกไปทางแข็งแน่นเท่า น้ำหนักพวงมาลัยที่ความเร็วเดินทางถึงสูง เรียกว่าหนักหนืดหน่วงมือดีมาก แถมให้ให้ความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับรถมากกว่าคู่แข่งค่ายทรีไดมอนด์

อย่างไรก็ดี จังหวะเวลาเปลี่ยนเลนกระทันหันบน Ertiga จะรู้สึกว่าไม่มั่นใจเท่า Xpander อยู่นิดนึง แต่กรณีที่ขับเข้าโค้ง ตัวรถสามารถยึดเกาะไปกับถนนได้มั่นคง ซึ่งถ้ามีคนนั่งโดยสารเต็มคัน มันอาจนิ่มย้วยขึ้นบ้างตามน้ำหนักบรรทุก ข้อนี้ไม่ว่าจะรถคันไหนก็ต้องเข้าใจและรับสภาพให้ได้

Mitsubishi Xpander ช่วงล่าง – ต่อมาที่เรื่องช่วงล่างกันบ้าง งานนี้ Xpander เขาทำการบ้านมาดี เพราะพี่แกเล่นซับแรงสะเทือนตั้งแต่ช่วงความเร็วต่ำ กลาง และสูง ได้เยี่ยมยุทธ์ไม่เหมือนรถมินิเอ็มพีวีหน้าไหนในตลาดมาก่อน เวลาเจอทางขรุขระหรือฝาท่อระบายน้ำ ก็รูดผ่านเหมือนลอยข้ามไปซะอย่างนั้น ขณะเดียวกัน ความนุ่มก็ไม่ได้ว่าจะย้วยยวบยาบแต่ประการใด

Suzuki Errtiga ช่วงล่าง – นิยามช่วงล่างของ Ertiga สั้นๆ “นุ่ม มั่นคง เบา” สาเหตุเพราะตอนขับขี่สัมผัสได้ว่ามันเบากว่า Xpander ช่วงล่างเก็บอาการสะเทือนของผิวถนนสุดแย่ได้ดีพอกัน แต่มันจะมอบความนุ่มนวลมากกว่า ทุกๆ สภาพการขับขี่ต่างกันแต่ละช่วงความเร็ว แต่ถ้าขนสัมภาระหรือมีคนนั่งเต็มคัน คาดว่าฟีลลิงของ Ertiga อาจออกไปทางนุ่มยวบมากกว่าคู่แข่ง

Suzuki Ertiga กับ Mitsubishi Xpander
Suzuki Ertiga กับ Mitsubishi Xpander

Mitsubishi Xpander ระบบเบรก – ระบบเบรกของ Xpander เป็นแบบหน้าดิสก์ หลังดรัม มีหน้าที่สำคัญเพื่อรองรับการชะลอรถในสภาวะที่มีน้ำหนักบรรทุกสูงๆ ตอนที่เริ่มกดเบรกจะออกแนวต้านเท้าเล็กน้อย แต่ก็ยังชะลอความเร็วได้มั่นใจ กรณีที่อยากเลียเบรกให้รถหยุดอย่างนิ่มนวล จะรู้สึกว่าต้องพยายามซักนิด เพราะรถจะเหมือนเบรกไม่สุดช่วงใกล้จะหยุด

Suzuki Ertiga ระบบเบรก – เหมือนเลยทั้งเบรกหน้าเบรกหลัง แต่อาการเบรกของ Ertiga จะต่างกันตรงที่แป้นเบรกมีความนุ่มนวลมากกว่า กดลงไปเท่าไหร่ชะลอความเร็วเท่านั้น คนที่ขับรถเก๋งมาก่อนปรับตัวได้ไม่ยาก การเบรกที่ความเร็วสูงทำได้มั่นใจ ด้านเบรกเราให้รถคันนี้นำ Xpander อยู่หนึ่งคะแนน

ความสบายในการโดยสาร กับเสียงรบกวน

Mitsubishi Xpander – เรื่องพื้นที่ใช้สอยภายในของ Xpander มีเบาะ 7 ที่นั่ง หุ้มด้วยหนังสีดำในรุ่นสูงสุด ตัวเบาะหน้าโอบกระชับสรีระได้เหมาะสม เบาะแถว 2 สามารถปรับเลื่อนขึ้นลงเพื่อแปรผันพื้นที่วางขา ทั้งในบริเวณเบาะแถว 2 ไปจนถึงแถว 3 ให้เพียงพอต่อคนทุกคน นอกจากนี้ ด้านบนก็มีช่องแอร์เพดานที่สามารถปรับความแรงลมได้ 4 ระดับ

พูดถึงเรื่องการเข้าไปนั่งเบาะแถว 3 กันบ้าง บอกได้ว่าการเข้าไปนั่งทำได้ไม่ยาก และก็ไม่ง่าย เมื่อไปนั่งแล้วจะรู้สึกเหมือนนั่งชันขาขึ้น พื้นที่เหนือศีรษะกับที่วางขามีให้พอประมาณไม่ถึงกับเหลือเฟือ โดยรวมถือว่าสอบผ่านตามมาตรฐานรถครอบครัว 7 ที่นั่ง

สำหรับเสียงรบกวนที่เข้ามาภายในของ Xpander เรียกว่าเก็บเสียงได้เงียบตั้งแต่ช่วงออกตัวไปจนถึงความเร็วเดินทาง ทั้งเสียงลมเสียงถนนถูกจัดการให้น้อยลง เพิ่มความสุนทรีย์ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ยิ่งไปกว่านั้น เสียงกระแทกของช่วงล่างก็ไม่มีให้ได้ยินอีกต่างหาก

รีวิว Suzuki Ertiga 2019
รีวิว Suzuki Ertiga 2019

Suzuki Ertiga – ความสะดวกสบายในห้องโดยสารของ Ertiga จัดเต็มได้ไม่แพ้คู่แข่ง หากแต่วัสดุภายในอาจด้อยกว่าบ้าง โดยรุ่นท็อปสุดหุ้มเบาะด้วยผ้าที่มีความนุ่มนิ่มเอาใจคนขี้เมื่อยสุดๆ แต่ในความนุ่มก็มีข้อเสียบ้าง เพราะเบาะคู่หน้ามีปีกเบาะที่นุ่มเกินไป เวลาเข้าโค้งแรงมันไม่สามารถรั้งร่างของผู้ขับขี่หรือคนนั่งข้างได้ ตัวจะไหลไปมาจนเกิดอาการมึนหัวเมารถได้ในบางคน

การเปิดประตูสู่เบาะแถว 2 ทำได้กว้างมาก ตัวเบาะปรับเลื่อนหน้าหลังได้เหมือนคู่แข่ง แต่ทีเด็ดอยู่ตรงพนักพิงที่ปรับให้เอนจนเกือบนอนราบได้ บนหัวมีช่องแอร์พร้อมปุ่มปรับแรงลม 4 ระดับ ที่ฝังคอยล์เย็นแยกต่างหากมาให้

ทั้งนี้ เมื่อก้าวไปนั่งที่เบาะแถว 3 ก็พบว่าพื้นที่วางขามีให้เพียงพอ เช่นเดียวกับที่ว่างเหนือศีรษะ ที่เพื่อนของผู้เขียนซึ่งสูง 175 ซม. นั่งแล้วยังมีที่ว่างเหลือทั้งหัวและขา ขณะเดียวกัน ก็ยังปรับเบาะให้เอาลงไปนิดหน่อยได้ด้วย

ท้ายที่สุดเรื่องความเงียบ ขออธิบายว่า Ertiga เก็บเสียงได้ดีมากเกินราคารถ เพราะตั้งแต่ออกตัวจนถึงช่วงความเร็ว 120 กม./ชม. ทั้งเสียงลมและเสียงถนน แทบไม่ได้เล็ดลอดเข้ามาในห้องโดยสาร ข้อนี้นำคู่แข่งอย่าง Xpander อยู่หนึ่งช่วง

Suzuki Ertiga กับ Mitsubishi Xpander

เครื่องยนต์ เกียร์ ความประหยัดน้ำมัน

Mitsubishi Xpander – เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร รหัส 4A91 105 แรงม้า แรงบิด 141 นิวตันเมตร เติมน้ำมัน E20 ได้ จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ช่วงจังหวะการขับขี่ในเมืองมีกำลังดีตอน 0-80 กม./ชม. แต่ถ้ากดคันเร่งออกตอน 40-80 กม./ชม. จะรู้สึกว่าเกียร์หน่วงบ้าง แล้วกำลังถึงจะพรวดออกไป ส่วนภาพรวมของเกียร์นั้นทำงานได้ลื่นไหลไม่กระตุก และคาดว่ามีความทนทานดูแลรักษาง่าย

ในตอนที่ขับด้วยความเร็วเดินทาง การกดคันเร่งส่ง 80-120 กม./ชม ตัวรถก็เร่งขึ้นไปแบบไม่อืดอาด ให้กำลังพอเพียงสำหรับอุปนิสัยการขับรถของคนไทยทั่วไป แต่ท่านเป็นประเภทบ้าความเร็วก็อาจไม่ค่อยถูกใจ Xpander เท่าไหร่ เพราะอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม จะอยู่ราว 14-15 วินาที

คำถามว่ารถครอบครัว 7 ที่นั่ง เช่น Xpander จะประหยัดน้ำมันหรือไม่ เราได้อิงจากบทความทดสอบที่เคยปล่อยไปก่อนหน้านี้ โดยทำได้ที่ 12.54 กม./ลิตร ซึ่งอาจดูย่ำแย่ในสายตาคนที่แคร์เรื่องค่าน้ำมัน แต่ถ้าคุณมองเทียบกับประโยชน์ใช้สอยที่ได้มา ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ไม่น่าเกลียดแต่อย่างใด

Suzuki Ertiga – ขุมพลังเบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 รหัส K15B ถูกอัพขนาดจากบล็อก 1.4 ลิตร ในตัวเก่า โดยเครื่องใหม่มีกำลัง 105 แรงม้า แรงบิด 138 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด เหมือนกับ Xpander ทุกประการ แต่การขับขี่ช่างต่างกัน…

ทันทีที่กดคันเร่งออกตัว ก็รู้เลยว่า Ertiga แรงกว่าคู่แข่ง ด้วยคันเร่งที่ไวติดเท่า กับเกียร์ที่ทำงานกระฉับกระเฉง เวลาที่กดคันเร่งมิดรถจะลากรอบไปเกือบ 6 พันรอบต่อนาที เพื่อรีดกำลังให้มากที่สุด ผลคือรอบยิ้มโผล่ขึ้นที่ใบหน้าของเราผู้ขับขี่ โดยจากที่จับตัวเลบคร่าวๆ พบว่า 0-100 กม./ชม. อยู่ในช่วง 12 วินาที ซึ่งจัดว่าเร็วเมื่อเทียบกับคู่แข่ง

ต้องบอก Ertiga ใหม่มีน้ำหนักเบากว่า Xpander ถึง 105 กก. จึงส่งผลมากมายถึงอัตราเร่ง เรารู้สึกว่าอยากขับรถคันนี้เดินทางไกล เพราะมันมอบความสนุกยามขับขี่ให้ได้แบบเต็มอรรถรส แต่ก็ยังมีห้องโดยสารกว้างขวาง ช่วงล่างนุ่มแต่มั่นใจ และการเก็บเสียงอันเงียบเชียบ

เรื่องสุดท้ายเราอาจไม่ได้ฟันธงมากนัก แต่จากที่ดูบนหน้าจอพบว่า Ertiga กินน้ำมันราว 12.2 กม./ลิตร ในสภาวะการขับขี่แบบโหดโหมดทดสอบอัตราเร่ง ซึ่งหากเป็นการใช้งานปกติทั่วไป เราคาดว่าตัวเลข 14-15 กม.ลิตร จะมีโผล่ขึ้นมาให้เห็นแน่ๆ

ก็จบกันไปสำหรับบทความเปรียบเทียบด้านการขับขี่ และความสะดวกสบาย ระหว่าง Mitsubishi Xpander กับ Suzuki Ertiga สองรถครอบครัว 7 ที่นั่ง ซึ่งหลายคนกำลังลังเลว่าจะซื้อคันไหนอยู่ หวังว่าเราจะช่วยให้ท่านเลือกรถได้ตรงใจยิ่งขึ้น

ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่