BMW อาจย้ายสายการผลิตรถ MINI รุ่นใหม่ในอนาคตไปอยู่ที่จีนทั้งหมด โดยหากเป็นเช่นนั้นโรงงานที่อังกฤษรวมถึงเนเธอร์แลนด์อาจต้องปิดตัวลง เนื่องจากตลาดแดนมังกรมีความต้องการรถไฟฟ้าสูงมากกว่าฝั่งยุโรปรวมกัน อีกทั้งคุณภาพในการประกอบ ค่าวัสดุ และค่าแรงที่นั่นหาง่ายแถมถูกกว่ามาก 

 

 

ย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีก่อนบีเอ็มดับเบิลยูได้กอบกู้แบรนด์รถยนต์เมืองผู้ดีอย่าง MINI ให้กลับมารุ่งเรืองภายใต้ร่มเงาของขุนศึกเยอรมันอีกครั้ง แต่อนาคตแบรนด์รถคันเล็กขับเคลื่อนล้อหน้าคงไม่ได้มีหนทางที่ง่ายเหมือนปัจจุบัน เพราะด้วยความท้าทายเรื่องการเงินที่ใช้พัฒนารถยนต์รุ่นใหม่เริ่มพุ่งสูงขึ้น พวกเขาจึงต้องหาพันธมิตรมาร่วมกับสร้างสรรค์รถขับหน้ารุ่นใหม่ออกสู่ตลาด โดยก่อนหน้าบีเอ็มดับเบิลยูเคยมีกรณีที่ได้จับมือร่วมกันกับโตโยต้าเพื่อผลิตรถสปอร์ตรุ่นใหม่ในชื่อ Z4 กับ Supra ที่กำลังจะออกมาเร็วๆ นี้

 

 

เพื่อทำลายปัญหาเรื่องเงินทุนในการผลิตรถมินิให้สามารถลุยต่อสู่อยู่ในตลาดต่อไปได้ ทางบีเอ็มดับเบิลยูจึงเริ่มมองหาคู่หูทางธุรกิจในการพัฒนารถยนต์รุ่นถัดไปจนหวยออกมาที่ China’s Great Wall บริษัทรถยนต์เลือดมังกร ซึ่งถ้าเป็นไปตามแผนที่ตั้งเอาไว้ ภายในปี 2023 รถมินิสายพันธุ์ใหม่จะเริ่มออกสู่ตลาดอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้สาเหตุที่พวกเขาเปิดตัวรถรุ่นใหม่ที่ร่วมกันพัฒนากับจีนในปีนั้นก็เพราะ… บีเอ็มต้องการยืดอายุการทำตลาดของมินิที่พัฒนาด้วยตนเองยาวออกไปอีก 2 ไป ขณะเดียวกันมินิรุ่นใหม่ทางบีเอ็มฯ จะเป็นผู้ออกแบบทุกสัดส่วนของรถ ส่วนคู่หูจากจีนจะทำหน้าที่เพียงเรื่องการผลิตรถเท่านั้น

 

 

อย่างไรก็ตาม หากบีเอ็มฯ ดำเนินแผนการที่จะร่วมมือกับจีนได้เป็นไปตามเป้าหมาย โรงงานประกอบรถมินิที่มีอยู่ในสหราชอาณาจักรกับเนเธอร์แลนด์ก็อาจจะต้องปิดตัวลง เพราะการโยกฐานการผลิตมินิไปยังจีนแผ่นดินใหญ่ นอกจากจะใช้โรงงานประกอบที่นั่นแล้วบีเอ็มฯ ยังสามารถลุยตลาดรถไฟฟ้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในได้แบบเต็มที่ ตามแผนการที่เคยออกมาแถลงก่อนหน้านี้ว่าพวกเขาจะสร้างรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ออกสู่ตลาดอีกเป็นจำนวนมาก

 

 

ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com

 

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่