เรียกว่า ระอุขึ้นมาทันที เมื่อทาง BYD เปิดตลาดในประเทศไทย อย่างเป็นทางการ ด้วยรถยนต์อเนกประสงค์ไฟฟ้า BYD Atto 3 เข้ามาทำตลาดในราคา 1,199,000 บาท
เมื่อมองรถจากผู้ผลิตประเทศจีน ในราคาใกล้เคียงกัน เห็นทีจะมีแต่ MG ZS EV รุ่นใหม่ อัพเดทโฉมที่เปิดตัวไปเมื่อปีที่ผ่านมา และปีนี้เราจะมาลองเปรียบเทียบกันดูซิว่า เมื่อเปรียบเทียบกับ BYD Atto 3 ซึ่งถือเป็นน้องใหม่แล้ว คันไหนน่าใช้กว่ากัน
ภายนอก
จะว่าไป MG ZS EV ถือเป็นรถยนต์ที่สร้างให้คนไทยซึ่งสนใจรถยนต์ไฟฟ้าจำนวนมาก ด้วยราคาที่เอื้อมถึงง่าย ในราคาราวๆ 1.2 ล้านบาท และนั่นคือก่อนที่ภาครัฐ จะเล็งเห็นว่ารถยนต์ไฟฟ้า ควรจะเป็นอนาคตของประเทศไทย
การมาของ MG ZS นำเสนอเรือนร่างที่คุ้นหน้าตาจากรุ่นเดิม ที่นำเสนอในเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร พร้อมเกียร์ 4 สปีด ด้วยความแตกต่างในงานดีไซน์ให้ความทันสมัยมากขึ้น
รุ่นใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวอแอกมาเมื่อปีกลาย นำเสนอตัวรถในโครงสร้างเดิม เพิ่มเติมด้วยหน้าตา ที่มีความสปอร์ตปราดเปรียวมากขึ้น ได้กระจังหน้าที่มีการปิดทึบ มาพร้อม ล้ออัลลอย 17 นิ้ว พร้อมฝาครอบล้อ รวมถึงไฟหน้าไฟท้าย LED
ทางด้าน BYD Atto3 เด็กใหม่ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ตอบการออกแบบด้วยหน้าตาทันสมัย ซิกเนเจอร์ Dragon Face 3.0 ตัวรถเน้นความทันสมัยในการออกแบบ ตั้งแต่หน้าจรดท้าย ให้ความลงตัวในแบบ รถอเนกประสงค์คนเมือง
ให้ล้อ 17 นิ้ว ด้วยความเป็นรถยนต์อเนกประสงค์รุ่นแรก และออกแบบมาเฉพาะ จึงแตกต่างอย่างมีสไตล์ เช่น การให้กระจังโครเมียม เสา C ที่มีแพทเทิร์น ส่วนด้านท้ายรถ มาพร้อมประตูท้ายไฟฟ้า
สปอร์ต หรือ อินดี้ … แล้ว แต่จะเลือก
ทางด้านในห้องโดยสาร MG ZS EV รุ่นใหม่ เปลี่ยนตัวตน เพิ่มความสปอร์ตมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากการแทนเรือนไมล์รุ่นก่อนหน้า ด้วยจอดิจิตอล เต็มระบบ ทันสมัย รวมถึง การตบแต่งโทนสีดำสลับเดินด้ายแดง และพวงมาลัย ตัดตูด
ตลอดจน ยังเพื่มที่เท้าแขนหลัง, ช่องแอร์ทางด้านหลัง รวมถึงยังเพิ่มที่ชาร์จไร้สาย
ในภาพรวม มันจึงเหมือน รถที่ได้รับการปรุงแต่งงานออกแบบภายในเพิ่มความแซบลงตัว ในการใช้งานมากขึ้น
ทางด้าน BYD เรียกว่า เป็นภายในที่ออกแบบ มาให้ไม่รักก็เกลียดไปเลย อย่าแปลกใจที่หลายคนจะไม่ชอบ เพราะรถคันนี้มีความอินดี้ อย่างมาก
อาทิ เรือนไมล์ ที่มีขนาดความกว้างจอวางไว้ที่คอพวงมาลัย เพียง 5 นิ้ว ด้วยกลิ่นอายแบบรถแข่ง ขณะที่ จอกลางขนาด 12.8 นิ้ว กลับสามารถหมุนวนได้ แล้วยังมีคันเกียร์แบบเครื่องบิน ปุ่มสตาร์มาอยู่ตรงกลาง รวมถึง…
ทีเด็ดสุด คือที่กั้นของข้างประตูที่ได้แรงบันดาลใจ จากเครื่องดนตรีประเภทสาย แถมภายในยังเป็น โทนน้ำเงินขาว เพียงโทนเดียว ไม่มีให้ลูกค้าได้เลือก เบาะนั่งพนักพิงหลังดันเป็นชิ้นเดียว ซึ่งบางคนอาจจะไม่ชอบ
ถ้าเปรียบกัน รถทั้ง 2 รุ่น ต้องพูดตามตรงว่า จากที่ได้ลองทดสอบมา ที่นั่งโดยสารตอนหลัง BYD มีพื้นที่ใหญ่กว่าเล็กน้อย ด้วยความยาวฐานล้อที่มากกว่า รวมถึงยังได้พื้นที่นั่งตอนหลังแบบ Flat Floor เพราะรถใช้แชสซีย์ที่ออกแบบมาเพื่อการเป็นรถไฟฟ้าโดยกำเนิด จึงช่วยอำนวยเพิ่มความสบายมากขึ้นด้วย
งานวิศวกรรม
เมื่อมองมาที่การวิศวกรรมตัวรถ เราจะพบความแตกต่างอย่างชัดเจน
MG ZS EV เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้พื้นฐานจากรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปเดิม ทำให้ มันมีความครบเครื่องเท่าที่จะทำได้ แต่ไม่ได้ออกแบบมาเฉพาะ
แม้ต้องยอมรับว่าเรายังไม่มีโอกาส ขับรุ่นใหม่เลย แม้ว่าจะเปิดตัวมาสักระยะใหญ่ หากก็พอจะมีข้อมูลว่า รถรุ่นนี้มีการปรับพละกำลังให้ตรงใจลูกค้า มอเตอร์งวดนี้มีการปรับกำลังขับ เป็น 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร
แบตเตอร์รี่ขยับขนาด เป็น 50.3 KW สามารถวิ่งได้ไกล ตามการเคลมของ NEDC ที่ 403 ก.ม./ การชาร์จ
ระบบพวงมาลัยไฟฟ้าสามารถปรับได้ 3 ระดับ ตามความต้องการขับขี่ เช่นเคย Kers ยังมี 3 ระดับด้วย เพื่อความมั่นใจในการใช้งาน
ทางด้าน BYD แตกต่างในเรื่องวิศวกรรม เริ่มจากโครงสร้างตัวถัง E -Platform 3.0 หรือ ออกแบบรถ ให้มาเป็นรถยนต์ไฟฟ้ามาตั้งแต่แรก มีศูนย์ถ่วงต่ำ การสร้างสมดุลน้ำหนัก ออกแบบมาเหมาะสม หาใช่ รถยนต์เครื่องสันดาปภายในที่ถูกนำมาดัดแปลง
เมื่อมาดูที่มอเตอร์ไฟฟ้า ก็มีกำลังขับสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร
แบตเตอร์รี่เป็นแบตแบบใหม่ ที่เรียกว่า Blade Battery ความจุ 60.48 KW สามารถวิ่งได้ตามการเคลม NEDC ที่ 480 ก.ม.
ส่วนตัวรถมี โหมดการดึงพลังงานกลับเพียง โหมดเดียวเท่านั้น, ลูกเล่น สำคัญของ BYD คือ ฟังชั่น สามารถปรับค่าน้ำหนักพวงมาลัยได้ 2 ระดับ และยังปรับการตอบสนองเบรกได้ 2 ระดับด้วย
นอกจากนี้ รถยังให้การตอบสนองในการขับขี่ ด้วยระบบช่วงล่างหลังแบบ มัลติลิงค์ ช่วยให้มันขับได้ง่าย นั่งสบาย และเกาะถนนมากกว่า
สรุป BYD Atto 3 กับ MG ZS EV หนึ่งตัวเก๋า หนึ่งหน้าใหม่ ที่รอวันพิสูจน์
เมื่อเปรียบเทียบ พอมามอง สเป็ค รถทั้ง 2 คันจริงๆ จะพบว่า BYD ในภาพความจริง จัดเป็นรถในคลาสที่สูงกว่า รถพัฒนามาเป็นรถยนต์โดยตรง ช่วงล่างดีกว่า มอเตอร์แรงกว่า แบตใหญ่กว่าพอสมควร
ด้าน MG ZS EV อาจจะต้องบอกว่า จุดดี คือการพิสูจน์แล้วว่า ตัวรถมีความทนทานในระดับหนึ่ง ประกอบกับ มีจุดชาร์จเป็นของตัวเอง ความมั่นใจในแบรนด์
ในส่วนตัวรถ กำลังขับน้อยกว่า หมายความว่า มันน่าจะประหยัดพลังงานมากกว่าในความจริง และงวดนี้ เราเดาว่า ช่วงล่าง MG ถูกปรับมาตอบโจทยืในการใช้งานมากขึ้น นับเป็นจุดเด่น ที่สำคัญของรถรุ่นนี้
ทั้งสองรุ่น จะพูดว่า มีดีแตกต่างกัน ตัวรถดี ก็ต้องวัดดวง กับบริษัทใหม่ ที่เพิ่งมาจริงจังรถยนต์ไฟฟ้า กลับกันอีกด้านแบรนด์อยู่มานาน จนน่าจะยากที่จากไปไหน ก็อาจจะต้องเข้าใจในตัวรถสักนิด
ไม่ว่ายังไง ต้องยอมรับว่ารถทั้ง 2 รุ่น อาจไม่ใช่คู่แข่งกันในทางตรง แต่ถ้า คุณจะเอารถยนต์ไฟฟ้าทรงอเนกประสงค์ ในราคาพอรับได้ ในวันนี้ ทั้ง 2 รุ่น ที่กล่าวมา ก็เรียกว่า เป็นคำตอบ ที่ควรมอง
แต่คนที่ตัดสินใจ คือ คุณ นั่นเอง
