นับจากปี 2012 ที่ Mazda CX-5 เครื่องดีเซล Skyactiv-D เปิดตัวครั้งแรกที่บ้านเกิด บัดนี้รถที่ใช้ขุมพลังดังกล่าวสามารถขายได้เกินห้าแสนคันแล้วที่ญี่ปุ่น

ตลาดรถยนต์ส่วนบุคคลที่ญี่ปุ่นก่อนช่วงยุคปี 2010 ล้วนแล้วแต่มีรถขุมพลังเบนซินออกขายเป็นจำนวนมาก ไม่มีบริษัทรถยนต์รายใดที่นำเสนอเครื่องดีเซลสู่ชาวแดนอาทิตย์อุทัย เนื่องจากค่ากฏหมายมลพิษที่เข้มงวดของรัฐฯ ส่งผลให้การนำเครื่องดังกล่าวมาใส่ขายในรถต้องลงทุนสูงกว่าเครื่องเบนซิน

อย่างไรก็ตาม ในปี 2012 ค่ายรถจากเมืองฮิโรชิม่าอย่างมาสด้าได้เผยโฉมเอสยูวีคันแรกในกลุ่ม Skyactiv นั่นก็คือ Mazda CX-5 ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.2 ลิตร Skyactiv-D ขึ้นชื่อว่าเป็นรถ Clean Diesel คันแรกที่พัฒนาและขายในญี่ปุ่น

หลังจากนั้นเรื่อยมามาสด้าก็ได้ทยอยเปิดตัว Mazda 2, Mazda 3, Mazda 6, Mazda CX-3, Mazda CX-8 และ Mazda CX-30 ที่มีตัวเลือกขุมพลัง Skyactiv-D หลากหลายพิกัดไล่จากเล็กสุดบล็อก 1.5, 1.8 และ 2.2 ลิตร เพื่อตอบสนองความประหยัด สมรรถนะ และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

นับจากวันแรกที่เปิดตัวจวบจนถึงปัจจุบัน รถที่ใส่เครื่องดีเซล Skyactiv-D สามารถขายในญี่ปุ่นได้มากถึง 500,000 คัน โดยในปี 2015 ขุมพลังดีเซลสะอาดดังกล่าวขายได้เป็นจำนวน 100,000 คัน หรือกินส่วนแบ่งรถส่วนบุคคลเครื่องดีเซลกว่า 70%

หลังจากนั้นเป็นต้นมายอดขายเครื่องดีเซลของมาสด้าก็มีแนวโน้มตกลง ทว่าในช่วงเดือนมกราคม-กันยายนปี 2019 ก็ยังทำยอดขายได้ 50,000 คัน แต่หลังจากนี้ทิศทางขุมพลังดีเซลสะอาดจากมาสด้าจะเป็นเช่นไรต้องติดตามกันต่อ

ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเราทีมงาน Ridebuster.com

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่