ความสะดวกสบายยามนั่งโดยสารคือหนึ่งเรื่องที่รถสมัยใหม่ตอบโจทย์ได้ดี ว่าแต่กว่าจะเป็นถึงทุกวันนี้มีอะไรเกี่ยวข้องบ้าง? มาดูกันว่าประเด็นไหนแปรผันตรงกับหัวใจแห่ความสบาย

ทุกครั้งเวลามีรถยนต์เปิดตัวใหม่ออกสู่ตลาด คำถามมากมายนอกเหนือจากเครื่องแรงแค่ไหน ประหยัดน้ำมันเท่าไหร่ หรือให้อุปกรณ์อย่างนู้นอย่างนี้มาหรือไม่ อีกหนึ่งความสงสัยของบรรดาผู้บริโภคก็คงหนีไม่พ้น รถคันนี้นั่งสบายหรือเปล่า? ซึ่งหากว่ากันตามจริงรถสมัยใหม่นั่งสบายขึ้นกว่ารถในยุคก่อนชัดเจน ด้วยเหตุผลมากมายที่เราจะพาทุกท่านไปทำความเข้าใจกันในวันนี้

ทุกคงทราบดีแล้วว่าปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ผู้โดยสารนั่งแล้วรู้สึกสบายตลอดการเดินทาง มีทั้งทัศนวิสัยอันโปร่งโล่ง ช่วงล่างที่นุ่มสบาย เหล่านี้ล้วนคือพื้นฐานของความสบายที่มีอยู่บนรถยนต์ตั้งแต่ยุคอดีต ทว่ากับรถสมัยใหม่นั้นทางวิศวกรผู้พัฒนาต้องใช้ศาสตร์ต่างๆ มาผสมผสานกัน ในการมอบสุนทรียภาพอันสูงสุดให้แก่ผู้โดยสารทุกช่วงขณะที่อยู่บนรถ

1.เบาะนั่ง มีมากกว่าคำว่าเบาะนุ่มนั่งสบาย

เริ่มต้นกันด้วยสิ่งสำคัญที่ทุกคนจะนึกถึงเมื่อพูดกันในประเด็นความสบายขณะนั่งโดยสาร ที่จริงแล้วเบาะนั่งที่ดีมีมากกว่าคำว่านุ่มสบาย หากแต่รวมถึงการรองรับซัพพอร์ตสรีระคนนั่งได้พอเหมาะพอดี ทั้งคนไซส์ปกติไปจนถึงคนมีขนาดร่างกายใหญ่โต และยังมีอื่นๆ ที่เราจะกล่าวถึงอีกยิบย่อยแตกต่อได้หลายหัวข้อ

ตัวเบาะนั่งทำหน้าที่รองรับร่างกายของคนโดยสาร แถมยังต้องซับแรงสะเทือนส่วนหนึ่งที่ส่งมาจากช่วงล่าง ขณะเดียวกัน มันยังมีความสามารถในการคงตัวคอยโอบรับสรีระไม่ให้มีการโยนไหลไปมาซ้ายขวา หากคุณเคยนั่งรถที่เบาะไม่โอบรับสรีระ เวลาที่รถแล่นผ่านทางโค้งตัวคุณจะเอนไหลจนรู้สึกมึนหัวเกิดรู้สึกไม่สบายตัว และอาจกล่าวได้ว่าเบาะนั่งที่มอบความสบายสูงสุดไม่ใช่เบาะนั่งนุ่มยวบก็ไม่ผิดแต่อย่างใด เพราะเบาะที่นิ่มย้วยเกินไปสร้างผลลัพธ์ตรงกันข้ามทำให้คนนั่งมึนหัวแทนที่

ต่อมารถบางคันที่มีราคาเกินหลักล้านบาทขึ้นไป คุณจะพบว่ามีตัวปรับดันหลังทั้งด้วยมือหรือปุ่มไฟฟ้า ที่ภาษาฝรั่งเขาเรียกว่าปรับ Lumbar Support เพราะสรีระของผู้โดยสารแต่ละคนมีโครงแนวกระดูกสันหลังแตกต่างกัน ดังนั้น ถ้าคุณปรับตัวซัพพอร์ตแผ่นหลังให้กระดูกสันหลังเรียงตัวในแนวถูกต้อง แน่นอนว่าผลลัพธ์คือความสบายที่ดีเหมาะสมกับตัวคุณเอง

พนักพิงศีรษะเองจุดนี้หลายคนหลงลืมว่ามันเกี่ยวข้องกับความสบายไปด้วยซ้ำ ทั้งที่จริงแล้วเจ้าสิ่งนี้เกี่ยวข้องโดยตรงกับเบาะนั่ง เพราะรถที่นั่งได้สบายควรมีพนักพิงศีรษะที่ปรับองศาเอียง หรือปรับยืดเข้าออกเพื่อให้ผู้โดยสารควานหาตำแหน่งอันเหมาะสมตามแต่ละบุคคลได้สะดวก

ท้ายที่สุดคือเรื่องวัสดุห่อหุ้มเบาะนั่ง โดยมีหลายคนบอกว่าเบาะกำมะหยี่มีความนุ่มสบาย ไม่อมความร้อน นั่งแล้วตัวไม่ไถลเวลารถโยนตัว ซึ่งที่ระบุมานั้นคือความจริงที่เราปฏิเสธไม่ได้ ส่วนเบาะนั่งหุ้มด้วยหนังก็มีหลายประเภท ทั้งหนังเทียม PVC หรือหนังเทียมผสมหนังแท้ (ชนิดนี้เยอะสุดในยุคปัจจุบัน) และเบาะนั่งหนังแท้ล้วนที่มักอยู่บนรถหรูราคาหลายล้านบาท

โดยข้อดีของเบาะหนังที่ทำให้บรรดาผู้ผลิตนิยมใส่มาบนรถรุ่นบนๆ นอกจากความทนทานสูงกว่าเบาะผ้า หรือเรื่องของการบำรุงรักษาที่ใช้น้ำยาต่างๆ มาเช็ดคราบเลอะเทอะออกได้ง่ายดายแล้ว ยังมีประเด็นกลิ่นของเบาะหนังที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งช่วยให้บรรยากาศภายในห้องโดยสารรู้สึกผ่อนคลาย และมีระดับหรูหราเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อีกประเด็นคือการเลือกใช้เบาะผ้ากำมะหยี่บนรถราคาแพง ทำให้ภายในดูด้อยราคาลงทันทีไม่ว่าการตกแต่งภายในจะหรูหรามากขนาดไหนก็ตาม ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจ ว่าทำไมพวกค่ายรถจึงสรรหาเบาะหนังคุณภาพดีมาประเคนไว้ให้เต็มไปหมด

รถสมัยใหม่นั่งสบาย

รถสมัยใหม่นั่งสบาย

2.การตกแต่งภายใน มีผลกับความสบายเหมือนกันนะ

สงสัยใช่ไหมหว่าการตกแต่งภายในเกี่ยวข้องอะไรกับความสบายเวลาโดยสาร คำตอบคือเกี่ยวครับ เพราะตั้งแต่อดีตคุณจะพบว่ารถเก๋งทั้งขนาดคอมแพ็คไปจนถึงขนาดกลาง ประมาณพวก Toyota Camry, Honda Accord หรือ Nissan Teana รถเหล่านี้ในยุคแรกๆ ล้วนมีห้องโดยสารสีเบสหรือสีทูโทนดำสลับเบส เหตุผลเพราะสีมีผลโดยตรงกับความรู้สึกของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร คิดง่ายๆ ว่าถ้าคุณไปนั่งในห้องที่ทาด้วยสีขาวหรือสีสว่างจะรู้สึกว่าโปร่งโล่ง กลับกันถ้าเป็นสีโทนมืดจะรู้สึกอึดอัดไม่สบายตัว

ต่อมาบรรดาผู้ผลิตรถเจอปัญหาลูกค้าบ่นว่าเบื่อสีเบสแล้ว เพราะส่วนใหญ่สีโทนสว่างเปรอะเปื้อนคราบได้ง่ายมาก อยากให้ค่ายรถทำภายในสีดำมาเลยดูแลรักษาง่ายกว่า เมื่อเป็นเช่นนั้น ผู้ผลิตจึงต้องหาหนทางชดเชยเพิ่มความสบายด้วยกลเม็ดกลวิธีใหม่ อาทิ การใช้ทริมวัสดุตกแต่งสีเงิน การเพิ่มฟีเจอร์ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารที่บางยี่ห้อมากกว่า 60 เฉดสี รวมถึงการเลือกใช้วัสดุภายในที่ร่างกายของคนนั่งสัมผัสบ่อยๆ ให้มีความนุ่มเนียนเวลาถูกตัวมากที่สุด

3.ทัศนวิสัย โปร่งตา ตำแหน่งเบาะดี ช่วยได้เยอะ…

มาถึงหัวข้อที่สามพูดถึงเรื่องทัศนวิสัยยามนั่งภายในรถ ข้อนี้ทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่ารถที่คนขับสามารถมองเห็นได้ไกล ไม่มีอะไรมาบดบังการมองเห็น ช่วยให้ประสิทธิภาพการขับขี่เพิ่มสูงขึ้นควบคู่ไปกับความปลอดภัย นอกเหนือจากนั้น ยังเกี่ยวข้องโดยตรงกับความสบายที่ผู้โดยสารทั้งเบาะหน้า เบาะแถวสอง และเบาะแถวสามจะได้รับอีกด้วย

ตำแหน่งเบาะแถวที่สองนั้น หากอยู่บนรถยนต์เก๋งไปจนถึงรถอเนกประสงค์ หลักที่ช่วยให้คนนั่งรู้สึกสบายสูงสุดนับว่ามีหลายข้อ เริ่มด้วยเบาะที่ดีจะต้องมีลักษณะนั่งแล้วคล้ายกับการเอกเขนกบนโซฟา ฐานเบาะต้องรองรับช่วงต้นขาได้พอดีไม่สั้นหรือยาวเกินไป แล้งเรื่องพื้นที่วางขาควรมีเหลือเฟือให้เหยียดแข้งขาได้อิสระ ยิ่งนั่งไขว่ห้างปล่อยตัวเองได้เต็มที่ยิ่งดีงาม ส่วนพื้นที่ว่างเหนือศีรษะก็ต้องมีมากพอหรือวัดแล้วเหลือเกินกว่าหนึ่งฝ่ามือ (ความสูงแต่ละคนไม่เท่ากัน ให้ไปลองดูรถที่ใช่กันเอง)

Review Ford Everest 2018

 

กรณีเป็นรถพีพีวีหรือรถมินิเอ็มพีวี 7 ที่นั่ง ย่อมมาพร้อมกับเบาะนั่งแถวสาม ซึ่งหลายคันทำให้ตำแหน่งเบาะแถวสามอยู่สูงกว่าเบาะแถวสอง เหตุเพื่อช่วยให้คนนั่งหลังสุดสามารถมองเห็นทัศนวิสัยด้านหน้าได้เหมือนกับคนนั่งในตำแหน่งอื่น โดยประเด็นการมองเห็นนี้เกี่ยวข้องกับความสบายชัดเจน เพราะถ้าคุณสังเกตดีๆ จะพบว่าบรรดารถพีพีวี รถมินิเอ็มพีวี และรถเอ็มพีวีราคาแพง ส่วนใหญ่จะมีหลังคาสูงโปร่ง กระจกหน้าต่างบานใหญ่ เพื่อรับแสงและทำให้คนนั่งโดยสารมองเห็นได้รอบด้านไม่อึดอัด ทั้งยังลดอาการเมารถขณะนั่งเดินทางไกลของผู้โดยสารได้อีกด้วย

รถสมัยใหม่นั่งสบาย

ส่วนเรื่องการปรับเอนเบาะแถวที่ 2 หรือ 3 ได้มากองศานั้น ก็นับเป็นหนึ่งข้อดีที่รถนั่งสบายพึ่งมีเช่นเดียวกัน เนื่องด้วยบางครั้งคนนั่งต้องการปรับเบาะเอนนอนเวลานั่งในรถหลายชั่วโมง รถซึ่งมีความสามารถในข้อนี้จะช่วยสร้างความสบายได้มากกว่า

รถสมัยใหม่นั่งสบาย

4.การสั่นสะเทือนและเสียงรบกวน

หัวข้อท้ายสุดที่เราจะพูดถึงในวันนี้หนีไม่พ้นประเด็นเสียงรบกวนกับแรงสั่นสะเทือน ซึ่งรถยุคใหม่มีพัฒนาการดีขึ้นอย่างมากเมื่อนำไปเทียบกับรถยุคเก่า เนื่องจากถ้าเป็นช่วงย้อนไปหลายสิบปี การที่รถมีช่วงล่างซับแรงสะเทือนจากถนนได้ดีนั้น รถคันดังกล่าวมอบความรู้สึกนุ่มโยนไปจนถึงขั้นย้วยกันเลยทีเดียว แต่ถ้าเป็นรถสปอร์ตก็จะแข็งตึงตังแต่ได้มาซึ่งความมั่นใจยามขับความเร็วสูงหรือตอนเข้าโค้ง

ทว่าด้วยเทคโนโลยีต่างๆ ที่พัฒนามายาวนาน ทำให้รถสมัยสามารถผสานความสบายเข้ากับความมั่นคงได้พอดี เราจะพบว่ารถใหม่หลายคันสามารถซับแรงสะเทือนเวลาวิ่งด้วยความเร็วต่ำผ่านถนนขรุขระ ฝาท่อระบายน้ำ หลุมบ่อถนนพังได้สบายก้นไม่กระแทกให้ไส้สะเทือน ครั้นเมื่อวิ่งเร็วเดินทางก็มั่นคงทั้งทางตรงและในโค้ง แถมเก็บแรงสะเทือนจากถนนที่ส่งมาสู่ห้องโดยสารได้เกือบหมด เหล่านี้ล้วนทำให้คนที่ซื้อรถใหม่ๆ มาใช้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างรถเก่ากับรถปัจจุบันได้ชัดเจน

รถสมัยใหม่นั่งสบาย

ต่อมาในประเด็นเสียงรบกวนที่เข้ามาจากภายนอกเข้าสู่ห้องโดยสาร เรื่องนี้รถที่มอบความสบายได้สูงสุดจะต้องมีการบุวัสดุซับเสียง ทั้งบริเวณที่ติดกับห้องเครื่องยนต์ แผงประตู หลังคารถ ใต้ท้องรถ และซุ้มล้อด้านหลัง รวมถึงการติดยางกันเสียงลมเข้ารถตามขอบประตูขอบหน้าต่าง ให้สามารถป้องกันเสียงลมไหลผ่านกับเสียงยางบดกับถนน

นอกจากนี้ เสียงกระแทกของช่วงล่างเวลารถวิ่งผ่านหลุมบ่อ หรือเสียงเครื่องยนต์เวลาลากรอบหนัก จะต้องมีเล็ดลอดเข้ามาภายในน้อยที่สุด ในรถบางคันถึงขั้นมีระบบสร้างเสียงมาตัดความถี่เสียงรบกวนที่เข้ามาจากภายนอกกันเลยทีเดียว

ทุกหัวข้อที่เราอธิบายมาในวันนี้ คงทำให้ผู้อ่านได้เข้าใจว่าเหตุผลที่รถยนต์ยุคใหม่มอบความสบายได้มากขึ้น ชนิดที่ว่าใครที่ขับรถเก่ามาเกินสิบปีแล้วถึงเวลาเปลี่ยนรถใหม่ อาจรู้สึกแปลกใจว่ารถสมัยใหม่มันมาไกลถึงขั้นนี้แล้วหรือ แต่ถ้าอ่านจนครบถ้วนทั้งหมดมุมมองของคุณผ่านจะชัดเจนแจ่มแจ้งกว่าเดิมแน่นอน

ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่