รถติดในเมือง ทำร้ายรถที่เราใช้อย่างไร

ทุกวันนี้ผมเชื่อว่าหลายคนบ่นเรื่องปัญหารถติดในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานคร เมืองฟ้าอมรบ่อยครั้ง รถติด ทำให้เราเสียอารมณ์ เสียเวลา แล้วกับรถที่เราใช้ เคยสงสัยไหมว่ามันจะส่งผลอย่างไรบ้างกัน

การขยับๆ เบรกๆ ทางฝรั่งเรียกการจราขรแบบที่เราพบกันในวันนี้ Stop and Go ซึ่งส่งผลมากมายกับรถที่เราใช้ ว่าแต่ รถติดกำลังทำร้อยอะไรรถที่คุณบ้า งแล้วควรดูแลรถที่เราช้ในเมืองเป็นพิเศษอย่างไร

1.เปลืองน้ำมันกว่า

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเมื่อขับในเมือง คุณเหมือนจะเคลื่อนตัวช้า ไม่ได้ทำความเร็วมาก หากน้ำมันในถังกลับลดฮวบๆ ราวกับโดนปล้น

สาเหตุที่การขับในเมืองสิ้นเปลืองน้ำมันมากกว่ าโดยเฉพาะในเวลารถติด เนื่องจากชุดเกียร์ไม่ได้ทำงานเต็มประสิทธิภาพ การออกตัวจะทำโดยเกียร์ 1 และ เวลารถวิ่งไหลที่ความเร็วไม่เกิน 30 ก.ม./ช.ม. จะใช้ตำแหน่งเกียร์ไม่เกินเกียร์ 2 ทั้งที่รถคุณอาจจะมีชุดเกียร์ถึง 6 ตำแหน่งหรือมากกว่านั้น

นอกจากนี้การหยุดนิ่งเมื่อต้องออกตัว จะต้องใช้กำลังเครื่องยนต์มากเป็นพิเศษ เพื่อทำให้รถเคลื่อนตัวไปด้านหน้า ส่งผลให้คุณเร่งลึกบ่อยครั้ง โดยเฉพาะทุกครั้งที่รถจอดหยุดนิ่งแล้วออกตัว

2.ทำร้ายเครื่องยนต์

การเร่งรอบเครื่องในรอบสูงเป็นที่ตระหนักกับผู้ใช้ว่ามันทำให้เครื่องยนต์สึกหรอ แต่การใช้เครื่องยนต์ในรอบต่ำนานๆ ต่อเนื่องกลับถูกผู้ใช้คิดวย่าไม่มีผลอะไรต่อการสึกหรอนัก

เวลาเรารถติด เครื่องยนต์อาจจะทำงานในรอบต่ำก็จริง และเหมือนไม่มีปัญหาใดๆ แต่ด้วยการหยุดนิ่ง อากาศไม่ได้ไหลเวียนผ่านหม้อน้ำ แผงแอร์เหมือนในระหว่างรถวิ่ง ประกอบกับการมีรถหลายๆ คันติดเครื่องปล่อยทั้งไอเสียและความร้อนออกจากปลายท่อพร้อมๆ กัน หลายคัน ทำให้ อากาศโดยรวมจะร้อนขึ้น และในมุมหนึงมันทำให้การระบายความร้อนจากหม้อน้ำยากขึ้น

เครื่องยนต์เองก็ต้องอาศัยความเย็นของน้ำในหม้อน้ำในการระบายความร้อน และการไม่มีอากาศไหลเวียน ทำให้พวกมันสะสมความร้อนในน้ำที่ไประบายความร้อนเครื่องยนต์ แล้วคุรคิดว่าเครื่องยนต์จะระบายความร้อนได้อย่างไร

นี่เป็นสาเหตุสำคัญข้อหนึ่งที่ทำให้รถที่มีปัญหาเรื่องระบบระบายความร้อน เช่นพัดลมไฟฟ้ามีปัญหา หรือ หม้อน้ำตัน มักจะพบว่า รถฮีท เมื่อเจอภาวะรถติดนานๆ

นอกจากนี้ ด้วยการทำงานรอบต่ำต่อเนื่องนานๆ ทำให้ อาจมีคราบสะสม เขม่าที่ชุดวาล์ว รวมถึงหัวฉีด เนื่องจากรถไม่มีโอกาสทำงานรอบสูง คราบเหล่านี้จะสะสมต่อเนื่องและเริ่มส่งผลในระยะยาว เช่น หัวฉีดจ่ายน้ำมันด้อยลง มีเสียงกระทบของการทำงานในชุดวาล์วเป็นต้น

ทางเดียวที่จะแก้ปัญหานี้ได้ คือพยายามลดการขับขี่ในช่วงรถติด หากิจกรรมทำก่อนกลับบ้าน ทำอย่างไรก็ได้ที่คุณไปเจอรถติดน้อยที่สุดน่าจะดีกว่า

3.เบรกสึกเร็วกว่าปกติ

ถ้าคุณใช้รถในเมืองเป็นประจำ อย่าแปลกใจถ้าจะพบว่า เบรกรถของเราจะต้องเปลี่ยนบ่อยในระยะ 2-3 หมื่นกิโลเมตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งชุดเบรกหน้า

หลายคนเคยเจอเรื่องนี้แล้ว อาจคิดว่าเบรกจากโรงงานไม่ทนทาน หรือมีปัญหา แต่ความจริง คือเราใช้เบรกบ่อยมากกว่าที่เราคิด อาจจะจริงที่การเบรกจากความเร็วสูง ทำให้เบรกสึกหรอง่าย แต่การเบรกในความเร็วต่ำบ่อยๆ ก็ทำให้สึกหรอเช่นกัน

โดยเฉพาะเวลารถติด คุณจะต้องเร่งๆ เบรกๆ บ่อยครั้ง บางครั้งก็มีการใช้เบรกกระทันหัน บ้าง และนั่นตอบได้อย่างชัดเจนว่า ทำไมขับรถในเมืองเปลืองผ้าเบรกมากกว่า

แต่ตุณลดปัญหาดังกล่าวได้ ถ้าไม่รีบจี้ติดคันหน้า ขับรถไหลๆ ไปบ้าง ไม่ต้องเร่ง แล้วไปเบรก เพื่อหวังว่าจะได้ไปก่อนเร็วๆ

การขับรถในภาวะรถติดมีแต่สิ่งแฝงคอยทำร้ายรถยนต์ที่เรารัก โดยที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน แม้ว่าในวันนี้เราอาจจะไม่มีทางเลี่ยงการเดินทางไปทำงาน หรือใช้รถในเมืองได้ แต่คุณพอจะพาทางเลี่ยง หรือเปลี่ยนมาใช้การเดินทางสาธารณะ ร่วมด้วยการขับรถ แทนการขับรถจากบ้านไปที่ทำงาน ก้น่าจะพอช่วยยืดอายุรถให้ทนทานได้บ้าง