ข่าวคราวจำนวนมากของรถไฟฟ้าหรือ EV มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกวัน เมื่อเป็นดังนั้นผู้ผลิตชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องจึงจำเป็นต้องพัฒนาสินค้าที่สามารถตอบโจทย์รถรักษ์โลกเหล่านี้ ซึ่งผู้ผลิตยางรถยนต์ชั้นนำของโลกอย่าง Goodyear เองได้เผยโฉมยางต้นแบบที่ถูกสร้างสรรค์มาเพื่อรถไฟฟ้า และมันจะพร้อมผลิตจริงในปี 2019

 

Goodyear EV Tire
ยางรุ่นนี้ถูกออกแบบพิเศษเพื่อช่วยให้รถไฟฟ้าวิ่งได้ไกลกว่า รองรับน้ำหนักได้ดีกว่า และยังคงยึดเกาะถนนพร้อมส่งแรงบิดมหาศาลสู่ถนนได้ดังเดิม

 

การปรับตัวให้ตามทันกระแสโลกเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องทำตาม เนื่องจากหากพลาดขบวนตกรถไฟแล้วการจะย้อนกลับขึ้นมาก็คงยาก เหมือนเช่นดังที่ผู้ผลิตยางรถยนต์ชั้นนำนามว่า Goodyear ได้เล็งเห็นว่าอนาคตอันใกล้ จำนวนรถไฟฟ้า (EV) จะเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ แบบไม่หยุดยั้ง ดังนั้นการผลิตยางชนิดพิเศษที่เหมาะสมกับรถชนิดนี้จึงเหมือนกับการเตรียมตัวกอบโกยเม็ดเงินมหาศาล แน่นอนว่าผู้ที่เริ่มก่อนก็มีสิทธิ์ที่จะเข้าครองตลาดได้มากกว่า

 

ไม่กี่วันที่ผ่านมาในงานเจนีวา มอเตอร์โชว์ 2018 ทางผู้ผลิตยางชั้นนำได้เผยโฉมยาง Goodyear รุ่น EfficientGrip Performance ที่ผู้ผลิตกล่าวว่ายางรุ่นนี้พิเศษเพื่อช่วยให้รถไฟฟ้าวิ่งได้ระยะทางมากขึ้น หรือหากคิดเป็นตัวเลขยางก็สามารถหมุนได้เร็วกว่า 30% เมื่อเทียบกับยางที่มีอยู่ในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามปัญหาที่เกิดขึ้นตามมาคือจะรับมือกับแรงบิดมหาศาลกับน้ำหนักแบตเตอรีที่มากได้ยังไง?

 

Goodyear EV Tire
มีความเป็นไปได้สูงว่ารถไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่เปิดตัวช่วงปี 2019 จะติดตั้งยางรุ่นนี้มาให้

 

เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวยางรุ่น EfficientGrip Performance จะมีช่องขนาดเล็กแทนช่องลายยางเฉียงแบบกว้างเหมือนยางทั่วไป ในการทำให้ยางสามารถยึดเกาะถนนได้ดีไม่แพ้กับยางปกติ โดยทางผู้ผลิตยืนยันว่ายางชนิดใหม่นี้รองรับแรงบิดมหาศาลจากมอเตอร์ไฟฟ้าได้ดี แม้ว่าจะวิ่งบนทางที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำ ยิ่งไปกว่านั้นการเก็บเสียงรบกวนจากถนนก็ส่งเสียงน้อยอีกต่างหาก

 

นอกเหนือจากนี้โครงสร้างภายในของยางยังถูกออกแบบใหม่หมดเพื่อรองรับน้ำหนักที่มากจากแบตเตอรี ขณะเดียวกันหน้ายางก็มีการผสมสารต้านแรงเสียดทาน จนทำให้รถที่ติดตั้งยางรุ่นนี้สามารถวิ่งได้ระยะทางมากกว่าปกติ

 

สำหรับการออกจำหน่ายจริงยังไม่มีการยืนยันแน่ชัด แต่จากการคาดเดาแล้วน่าจะเริ่มเห็นได้ครั้งแรกบนรถไฟฟ้าที่เปิดตัวช่วงปี 2019 ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่ายางจาก Goodyear จะเป็นบรรทัดฐานใหม่ให้แก่วงการยางรถยนต์ในอนาคต

 

ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com

 

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่