ในวันนี้ เราอาจจะพูดถึงนวัตกรรมยานยนต์พลังงานทางเลือก อย่างรถยนต์ไฟฟ้า กันอย่างมาก และคนจำนวนมาก มองว่า นี่คืออนาคตยานยนต์ แต่นี่ไม่ใช่ ครั้งแรกที่มีคนบอกว่า โลกต้องการความล้ำหน้ามากกว่านั้น มาก

โอลิเวอร์ ไซฟ์ บอสใหญ่ของ BMW อาจจะเพิ่งเรียกร้อง ไม่ให้ ค่ายรถยนต์ทั่วโลก ลดการจำหน่ายรถยนต์สันดาปเร็วเกินไป และควร มองว่ามันอาจจะมีวันที่รุ่งโรจน์อีกครั้ง ในยุคไฮโดรเจนวันหน้า

เขากล่าว ในระหว่างการประชุม Innovational Days ว่า

“เราอาจคิดผิด ที่จะเลิกขายเครื่องยนต์สันดาปในยุโรป อุตสาหกรรม ควรมองในภาพรวม ในแง่ความมหภาค และโครงสร้าง เราไม่ควรใช้เทคโนโลยีเดียว”

โอลิเวอร์ ไซฟ์ บอสใหญ่ของ BMW

ไซฟ์ กล่าวต่อไปว่า ถ้าโลก ต้องการให้การปล่อยไอเสีย ลดลงปีละ 5% นั่นคุณจะต้องพึ่งระบบพลังงานไฮโดรเจน เป็นคำตอบสุดท้าย

ท่าที่ ของ BMW ค่อนข้างชัดเจน และค้ลายโตโยต้า ในขณะที่บริษัทคู่แข่ง เริ่มหันหา รถยนต์ไฟฟ้า ทว่า บริษัท ยังมีนโยบายหลายเทคโนโลยี ทั้งพัฒนาเครื่องยนต์สันดาป , ไฮบริด และ ค่อนข้างหลากหลาย

ไซฟ์ กล่าวถึง นโยบาย นี้ ว่าต้นเรื่องจากการขยายจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในหลายประเทศ ยังไม่ครอบคลุม เท่าที่ควร และใช้เวลานาน จนไม่อาจจะบรรลุ การลดโลกร้อนตามเป้าหมายได้

“ไฮโดรเจน เป็น พลังงานที่สามารถจัดเก็บและผลิตได้ อย่างยั่งยืน”

ที่สำคัญ การขยายจุดเติมไฮโดรเจน ที่จริง สามารถเปลี่ยนปั้มน้ำมันเดิมที่เรารู้จักในวันนี้ ให้เป็นปั้มไฮโดรเจน ภายในเวลาเพียง 2 วันเท่านั้น มันแทบไม่ต้องการโครงสร้างใหม่ เหมือนรถยนต์ไฟฟ้า ในการขยายจุดชาร์จ

“ถ้ากล่าวสั้นๆ รถยนต์ไฟฟ้าต้องการการเข้าชาร์จไฟในกริด และคุณต้องการ ที่ชาร์จสำหรับรถทุกคัน ,นั่นเป็นงานที่ค่อนข้างหนักเอาการ ,​และ เป็นงานที่จะต้องทำ แต่ มันไม่ใช่หนทางเดียวในเรื่องนี้ เราถึงเชื่อในหลังงานไฮโดรเจน และใช่ มันกำลังมาในเร็วๆ นี้ ที่ BMW”

ทั้งนี้ BMW ไม่ใช่ค่ายรถยนต์ใหญ่ รายเดียว ที่ออกมาให้ความสำคัญกับ พลังงานไฮโดรเจน โดยก่อนหน้านี้ โตโยต้า ก็ให้ความสำคัญในการทำเครื่องยนต์สันดาป ไฮโดรเจน , เช่นเดียวกับมาสด้า และ ฮอนด้า ซึ่ง ทางฝั่งญี่ปุ่น ค่อนข้างจะให้ความสำคัญกับพลังงาน ตัวนี้ค่อนข้างมากกว่า การพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า เหมือน ทางค่าย จีน และ ยุโรป ​

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่