นอกจากเทรนด์รถอเนกประสงค์ ฝั่งรถยนต์แนวแฮทช์แบ็คเองก็มีกระแสตอบรับจากผู้ใช้รถทั่วโลกที่ดีเช่นกัน และหนึ่งในนั้นที่เรามองข้ามไม่ได้ก็คือ Audi RS3 Performance Edition น้องเล็กสุดแรงรุ่นใหม่ ที่สามารถทำความเร็วได้มากถึง 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง คันนี้

Audi RS3 Performance Edition แท้จริงแล้ว ก็คือตัวรถ RS3 ที่ถูกนำมาปรับแต่งใหม่เล็กน้อย เพื่อให้มันมีสมรรถนะที่ดียิ่งขึ้น และพิเศษยิ่งขึ้น เพราะมันจะถูกผลิตขึ้นมาเพียง 300 คัน บนโลกเท่านั้น

โดยความพิเศษของมัน หากมองแค่เพียงจากภายนอก เราก็จะพบความต่างแค่ชุดล้ออัลลอยด์ขนาด 19 นิ้ว ลายใหม่ กับเฉดสีเฉพาะรุ่น Nogoroblue Pearleffect, Daytona Gray, Arrow Gray, Sebring Black, Sebring Black Crystal, และ Glacier White กับคาลิปเปอร์เบรกสีน้ำเงิน ทำงานร่วมกับจานเบรกคาร์บอนเซรามิค ตั้งแต่ออกโรงงานมา เพียงเท่านี้

ส่วนงานตกแต่งภายในเอง ก็ไม่ได้มีความแตกต่างไปจาก RS3 รุ่นปกติเท่าไหร่นัก ไม่ว่าจะเป็นงานออกแบบคอนโซล ดีไซน์พวงมาลัย หรือแม้กระทั่งชุดเบาะนั่ง

แต่ในเชิงรายละเอียดแล้ว การเย็บงานหุ้มหนังต่างๆ จะใช้ตะเข็บด้ายสีน้ำเงิน เช่นเดียวกับโทนของแสงไฟแวดล้อมภายในห้องโดยสาร และที่ขาดไม่ได้คือ การเปลี่ยนเพลทโลโก้ “Quattro” บนคอนโซลฝั่งผู้โดยสารฝใหม่ ให้กลายเป็นเพลทลำดับการผลิต “XXX/300” แทน แล้วยังมีการเพิ่มไฟส่องพื้นตอนเปิดประตู ที่เปลี่ยนกราฟฟิกเป็นคำว่า “RS Permance” รวมถึงการเปลี่ยนพื้นหลังของจอแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์ขนาด 10.1 นิ้ว ให้เป็นลายคาร์บอนอีกด้วย

ด้านการเปลี่ยนแปลงในเชิงเทคนิค อันที่จริงมันก็ยังคงมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 5 สูบเรียง ความจุ 2.8 ลิตร พ่วงระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จเจอร์ เช่นเดิม แต่ด้วยการปรับแรดงันเทอร์โบเพิ่มอีก 0.1 บาร์ จึงทำให้ตัวเลขพละกำลังสูงสุดของมัน เพิ่มขึ้นอีกนิด จาก 400 PS เป็น 407 PS โดยที่แรงบิดสูงสุดยังคงเท่าเดิมคือ 500 นิวตันเมตร แต่มาในย่านรอบเครื่องยนต์ที่กว้างขึ้นอีก 100 รอบ/นาที เป็น 2,250 – 5,700 รอบ/นาที

ฝั่งระบบส่งกำลังของมัน ก็ยังคงเป็นแบบชุดเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 สปีด โดยมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Quarttro พร้อมระบบ Torque Splitter เป็นหัวใจสำคัญอีกเช่นเคย แต่นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้มันสามารถเรียกอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายในเวลา 3.8 วินาที และความเร็วสูงสุดอีก 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทว่าลูกค้าจะต้องซื้อรถพร้อมกับแพ็คเกจปลดล็อค RS Plus Dynamic ก่อนเท่านั้น

ในส่วนระบบกันสะเทือน นอกจากระบบเบรก ที่จะได้รับการอัพเกรดให้ใช้จานคาร์บอนเซรามิคตั้งแต่ออกโรงงาน กับชุดล้อลายใหม่ ซึ่งรัดด้วยยาง Pirelli P Zero Trofeo R ระบบช่วงล่างเอง แม้จะไม่ได้ถูกปรับจูนใหม่มากเท่าไหร่นัก แต่อย่างน้อยทางค่ายก็ให้ระบบปรับ และแปรผันความหนืดด้วยไฟฟ้ามาให้แล้ว

โดยราคาสำหรับการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Audi RS3 Performance Edition ก็ได้ถูกเปิดตัวเลขเอาไว้ที่ 87,000 ยูโร หรือราวๆ 3.25 ล้านบาท แต่มันจะถูกตัดโควต้ามาวางจำหน่ายในไทยด้วยหรือไม่ ? และมีราคาขายจริงเท่าไหร่ ? ก็ยังต้องรอติดตามกันต่อไป

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่
Tags: