การเปิดตัวรถยนต์ มาสด้า 3 ใหม่ เมื่อวานนี้ ทันทีที่ทางมาสด้า ประเทศไทย ประกาศ ราคาขายออกมาอย่างเป็นทางการ พาเอาทุกคนถึงกับอึ้งราคาขาย เจ้าคอมแพ็คคาร์รุ่นใหม่ในทันที

ราคาเริ่มต้นที่ 969,000 บาท พาเอาสังคมออนไลน์ และคนจำนวนไม่น้อย มองเปรียบเทียบราคาขายกับคู่แข่งในทันที พร้อมฟังธงว่า ราคาขายเข้ารถซีดานงานออกแบบสุดหรูนี้แพงเกินไป ทุกคนมีสิทธิวิพากษ์วิจารณ์ได้ตามความคิดเห็นของตน แต่สำหรับเราอยากจะมองต่างมุม ในเรื่องนี้ แต่ก่อนอื่น ขอทบทวน ราคาจำหน่ายรถยนต์  Mazda 3   ใหม่ มี 3 รุ่นย่อย โดยมีราคาจำหน่าย ดังนี้

Mazda 3 2.0 C ราคา 969,000 บาท

Mazda 3 2.0 S ราคา 1,069,000 บาท

Mazda 3 2.0 SP ราคา 1,198,000 บาท

หลายคนมองรถแล้วคิดว่า มันไม่น่าแพงอย่างที่คิด แม้นว่าจะออกแบบมาเลิศหรู ภายใต้แนวคิด  Car AS Art   ที่ถือเป็นหลักแนวคิดในการสร้างสร้างรายละเอียดตัวรถรุ่นนี้ แต่จะว่าไปรถรุ่นนี้มีการปรับปรุงหลายสิ่งหลายอย่างมาก แม้ว่าจะเป็นเก๋งเครื่อง 2000 ซีซี เหมือนเคย

มันแพงอะไร ???   เป็นคำถามที่ผมเชื่อว่าหลายคนอาจจะอยากได้คำตอบ

แน่นอนว่าประการแรก งานออกแบบตัวรถรุ่นใหม่ สามารถพูดได้เต็มปากเลยว่า ยกระดับล้ำหน้าชาวบ้านชาวช่องในกลุ่มเพื่อร่วมก๊วนแก๊งเก๋ง ญี่ปุ่นไปอีกขั้น ถึงเส้นสายจะยังใช้ชื่อว่า   Kodo Design  แต่ทีมออกแบบก็เข้าถึงจิตวิญญาณ ของความเป็นงานศิลป์วิ่งด้ไปอีก ด้วยการออกแบบภายใต้แนวคิด   Less is More

จะเห็นได้ทันทีว่า มาสด้า 3 ใหม่ สวยงามเอาเรื่อง จนกล้าพูดว่า เป็นรถที่เด่นสะดุดตา ถ้า มันวิ่งไปตามท้องถนน งานออกแบบครั้งนี้ไม่เพียงสะดุดตาเท่านั้น ในรุ่น 5 ประตู   Fastback   แทบจะพูดได้เต็มปากว่า ถอดมาจากต้นแบบ   Mazda KAI Concept   ต้นแบบรถรุ่นนี้ที่ออกมาในปี 2017

Mazda 3 2020

Mazda KAI Concept

Mazda Kai Concept

Mazda Kai Concept

Mazda Kai Concept

Mazda Kai Concept

เปลี่ยนความคิดใครหลายคนที่ชอบคิดว่างานออกแบบในอุดมคติไม่สามารถเป็นจริงได้ มาสด้า พิสูจน์ข้อนี้ว่าสามารถทำได้ ถ้าตั้งใจจริง ข้อนี้ต้องคาราวะ

ประการต่อมา เป็นเรื่องงานวิศวกรรม  ตัวรถที่มีการพัฒนาหลักๆ รายการ เริ่มตั้งแต่การพัฒนาโครงสร้างตัวรถใหม่  Mazda Vehicle  Architecture แนะนำในรถยนต์มาสด้า 3 เป็นรุ่นแรก

โครงสร้างใหม่นี้ก็ไม่ใช่ไก่กา พี่ท่านเล่นเลือกใช้เหล็กโครงสร้างบางส่วนที่ต้องรับแรงบิด หรือ แรงกระแทกจากการชนแบบแข็งพิเศษ ใช้เหล็ก 1,310  Mpa   ผมเองก็เพิ่งเคยได้ยินว่าเหล็กที่มีความแข็งขนาดนี้ถูกนำมาใช้กับการทำโครงสร้างรถยนต์ แถมใช้ในหลายส่วนสำคัญด้วย

นอกจากโครงสร้างหลักที่มีการพัฒนาแล้ว เครื่องยนต์   Mazda Sky Activ -G 2.0 Upgrade  อาจฟังดูเหมือนๆ เดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง ทว่าความจริงเครื่องยนต์บล็อกเดิมนี้มีการปรับปรุงขนานใหญ่หลายจุด เริ่มจาก การเปลี่ยนลูกสูบใหม่ , หัวฉีดใหม่  ที่มีความละเอียดขึ้น และยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆ อาทิการหล่อเย็นตัวเครื่องยนต์

จนพูดได้เต็มปากว่า เครื่องยนต์เดิมแรงม้าเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยก็จริง หากเจาะลึกเข้าไปดูกันถึงกึ๋นขุมพลังมาสด้าใหม่มกลับมีการเปลี่ยนแปลงในหลายส่วนเช่นกัน

ท้ายสุดในส่วนของภายในห้องโดยสาร มีการอัพเกรดวัสดุให้ตอบโจทย์มากขึ้นสำหรับลูกค้า  จากที่สัมผัสภายในงานเปิดตัว คุณภาพวัสดุในรถยนต์มาสด้า 3 เรียกว่า ก้าวไปอีกขั้น วัสดุบางอย่างใช้คำพูดได้เลยว่า ใกล้เคียงรถยนต์ยุโรปมากที่สุด เท่าที่สัมผัสมาในกลุ่มคอมแพ็คคาร์จากญี่ปุ่น

การเลือกใช้วัสดุเนื้อนิ่มบุหนัง สะท้อนความเป็นปัจเจกในด้านงานออกแบบ ดูดีกว่าเพื่อพ้องร่วมประเทศ ยิ่งกว่านั้น ถ้าเจาะรายละเอียดตัวรถลงไปอีก จะพบว่า เบาะนั่งมาสด้า 3 ใหม่ มีการปรับรายละเอียดงานออกแบบให้ตรงตามหลักสรีระศาสตร์ยิ่งขึ้น

ทางมาสด้า ศึกษาการพยายามทำให้ผู้ขับขี่อยู่ในท่าที่สบาที่สุดในการเดินทาง แถมตอนไปทดลองขับ   Sneak Preview   ทางทีมงานวิศวกรรมรถคันนี้ ชี้แจงว่า หัวใจหลักของมาสด้า 3 อีกข้อที่สำคัญในแง่การโดยสาร คือการสร้างประสิทธิภาพการเก็บเสียงในห้องโดยสารดีที่สุด เท่าที่จะสามารถทำได้

มาสด้าปรับปรุง แนวคิดเรื่องการเก็บเสียง มาตั้งแต่โครงสร้าง เช่นการเจาะรูที่ตัวถังเท่าที่จำเป็นต้องใช้ ไม่เจาะเผื่อ การวางแผนทางไหลเวียนอากาศของห้องโดยสาร  และแน่นอน การวาง วัสดุซับเสียงภายในตัวรถ รวมถึง การใช้วัสดุสนับสนุนในโครงสร้างตัวถัง เพื่อลดการเกิดเสียงในห้องโดยสารจากโครงสร้างหลัก

ตลอดจน ถ้าเจาะลึกเรื่องในห้องโดยสารไปอีก จะพบว่าทางมาสด้าใส่ใจในเรื่องของเล่นในห้องโดยสารพอสมควร เริ่มจากเบาะนั่งปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง และบันทึกท่านั่งได้ 2 ตำแหน่ง ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น  ,พวงมาลัยและเกียร์หุ้มหนัง, หน้าจอเรือนไมล์แสดงผลด้วยจอ   TFT LCD   พร้อมกับหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่สะท้อนขึ้นกระจกบังลมหน้า,  เรื่องเครื่องเสียงระบบ   Mazda Connect   ใช้จอขนาดใหญ่ที่สุดในกลุ่ม 8.8 นิ้ว  รุ่นปกติ ขับด้วยลำโพง 8 ตัว และรุ่นท๊อป มาพร้อมเครื่องเสียง  Bose  ให้ลำโพง และซับวูฟเฟอร์ 12 จุดในห้องโดยสาร

 

จุดสำคัญที่ทำให้รถรุ่นนี้มีราคาแพงกว่าคู่แข่ง ข้อหนึ่งคือ เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ปัจจุบันเก๋งเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เหลือเพียงมาสด้าเพียงเจ้า เดียว หลังคู่แข่งเปลี่ยนไปสู่เครื่องยนต์เทอร์โบ อีกเจ้าก็ไปเล่นไฮบริดให้รู้แล้วรู้รอด

การแนะนำเทคโนโลยีใหม่เข้าสู่ตลาดส่วนหนึ่งมาจากการปรับรูปแบบจัดเก็บภาษีสรรพสามิต เป็นตามค่าการปล่อยไอเสียของเครื่องยนต์ ซึ่งรถยนต์ไฮบริดของโตโยต้าจะมีค่าการปล่อยไอเสียต่ำเพียง 95 กรัม/กิโลเมตร จึงได้อัตราภาษีต่ำ กลับกันอีกฟากเครื่องบล็อกเล็กเทอร์โบ ก็ปล่อยไอเสียต่ำกว่าเนื่องจากขนาดความจุเครื่องยนต์เล็ก ทำให้ในมุมมาสด้าเอง แม้นว่าจะปรับปรุงเครืองยนต์ให้ปล่อยไอเสียต่ำลง ก็ยังอาจโดนอัตราภาษีตอกย้ำด้วยเครืองยนต์ขนาดใหญ่ที่สุดในกลุ่ม

อย่างไรก็ดี มาสด้า 3 ใหม่  เมื่อเทียบกับราคาขายรุ่นเดิม ถือว่าไม่ได้แพงขึ้นมากมายนัก ถ้ามองกับการพัฒนาตัวรถ และรายละเอียดต่างๆ ที่ให้มาเพิ่มเติม

รุ่นย่อย ราคารุ่นเดิม  (บาท) ราคารุ่นใหม่ (บาท) ราคาปรับเพิ่มขึ้น (บาท)
2.0  C 928,000 969,000 41,000
2.0 S 988,000 1,069,000 81,000
2.0 SP 1,119,000 1,198,000 79,000

 

จากการนำข้อมูลมาบวกลบดู พบว่า รถมีการปรับรายละเอียดเพิ่มเติมจากเดิมมากพอสมควร  และ ได้ฟังชั่นต่างๆ ตลอดจนการวิศวกรรมเพิ่มขึ้นด้วยหลายรายการ หากนำไปเปรียบเทียบรุ่นต่อรุ่นกับคู่แข่งที่ไม่ใช่ไฮบริดจะพบว่า ราคาขายไม่ได้หนีกันนัก

มุมมองการมองเรื่องราคารถ ตรงนี้ก็คงสุดแท้แล้วแต่คนจะมอง ถ้าเทียบกับรถรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ในอดีต การตั้งราคามาสด้า 3 ใหม่ ก็อยุ่ในจุดที่ถูกต้อง มันดูดี๋กับซีวิค โดยเฉพาะรุ่นท๊อปออพชั่น ถือว่า ถูกกว่าอยู่ราวๆ 20,000 บาท แต่แน่นอนว่าด้วยโครงสร้างภาษีใหม่ ทำให้มันไม่ถูกว่าค่ายโตโยต้า

อ่านรีวิวเบื้องต้นจากการ   Sneak Preview Mazda 3   ใหม่ได้ที่นี่ 



แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่