สัมผัสแรก  All New Mazda 3   เปลี่ยนไปสู่ภาพหรู

ท่ามกลางความตกต่ำของตลาดรถเก๋งทั่วโลก อันสืบเนื่องมาตากความต้องการรถยนต์อเนกประสงค์เพิ่มสูงขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รถคอมแพ็คคาร์ถือเป็นรถที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก บริษัทรถยนต์ต้องสร้างคุณค่าใหม่ ให้กับรถกลุ่มนี้ตรงใจลูกค้า แนวทางของมาสด้าจา  Mazda 3   ก็มีแนวคิดเช่นเดียวกันนี้ ไม่ต่างนัก

รถยนต์   Mazda 3   ใหม่ เปิดตัวขายไปแล้วในหลายประเทศ และบ้านเรากำลังจะถึงคิวขายรถรุ่นนี้ภายในไตรมาส 3 ปีนี้ อย่างไม่ต้องสงสัย รถรุ่นใหม่มีกำหนดการเปิดตัวในเดือนกันยายนนี้อย่างเป็นทางการ แต่ก่อนจะถึงวาระสำคัญ มาสด้าอยากให้เรามาลองขับรถคันนี้ ว่ามันไม่ได้มีเพียงแค่ภาพอันสวยงามจากการออกแบบ Kodo Design  ใหม่ เท่านั้น

ตัวรถมาสด้า 3 ใหม่ แนะนำตัวเองด้วยการจับเอางานวิศวกรรมเดิมมาพัฒนาต่อยอดให้ตรงใจลูกค้ามากขึ้น ถึงแม้นว่ามันจะไม่ได้เป็นการพลิกโฉมแบบรถรุ่นก่อน ที่ประโคมความแตกต่างจากรุ่นก่อนหน้าด้วยงานวิศวกรรมชั้นนำ ชนิดได้ฟังแล้วต้องร้องว้าว!! ไปตามๆ กัน

งวดนี้ทางทีมวิศวกรรมมาสด้า เริ่มต้นด้วยการเข้าถึงความจริงของความเป็นมนุษย์ ในแง่การเคลื่อนไหว แนวทางนี้ล้ำลึกกว่าเดิมที่เพียงสังเกตการณ์เคลื่อนไหวของสัตว์ต่างๆ พวกเขาเรียนรู้ว่า ถ้าสามารถลดการโคลงตัวของรถในภาพรวมได้ มันจะทำให้ผู้ขับขี่ ขับรถอย่างมั่นใจมากขึ้น และรู้สึกสนุกกับการขับขี่มากขึ้น

นี่เองเป็นที่มาของจุดเปลี่ยนหลักในคอมแพ็คคาร์ใหม่คันนี้ ทางมาสด้า เรียกว่า   Mazda Vehicle Architecture  เป็นโครงสร้างวิศวกรรมตัวรถใหม่ ที่จะเริ่มแนะนำตั้งแต่รถยนต์รุ่นนี้เป็นต้นไป ผมขอเรียกสั้นๆ ว่า  MVA   มันแตกต่างจากงานวิศวกรรมโครงสร้างอื่นๆ เนื่องจากไม่ได้ปรับแค่การใช้เหล็กเท่านั้น หากทีมงานยังลงลึกไปจนถึงก้นบึงในการทำให้ผู้ขับขี่ขับรถดีขึ้น จนแม้นว่างานวิศวกรรมหลายประการจะไม่ต่างจากเดิม ทว่ารถกลับขับดีขึ้น ตรงใจมากขึ้น และวันนี้เราได้ลองสั้นๆ ก่อนการเปิดตัว

เจอหน้าค่าตา   Mazda 3   ใหม่ โฉมไทย ต้องเรียกว่าไม่ต่างจากโฉมอื่นที่เราเห็นภาพผ่านอินเตอร์เน็ตกันมายาวนาน รถรุ่นใหม่ได้การออกแบบ   Kodo Design เวอร์ชั่น 2 ปรับแนวทางการออกแบบให้เรียบง่ายดูดี สะอาดตา มากขึ้น

ทางทีมงานออกแบบมาสด้า ตั้งใจให้ความสำคัญการออกแบบรถรุ่นซีดานมากขึ้น มันมีความตกต่างกันในสไตล์ ระหว่างรุ่น 4 ประตูและ 5 ประตู

ในรุ่น 4 ประตู  รถสไตล์ยอดนิยมคนไทย งวดนี้มองแล้วคล้ายการเอาสไตล์มาสด้า 3 เจนเนอร์เรชั่นแรก มันมีช่วงท้ายค่อนข้างสั้น ให้ภาพลักษณ์ความเป็นสปอร์ต ฝาท้ายรถออกแบบมองไปมองมา นึกถึงรถยนต์ชั้นหรูจากอิตาลี ที่บ้านเราห่างหายไปสักพักใหญ่ไม่น้อย ตัวรถมาพร้อมไฟท้ายทรงกลมโดนัท 4 ดวง พกความสปอร์ตเต็มพิกัด

ทางด้านรุ่น 5 ประตูงานออกแบบทั้งพุ่งเป้าความสปอร์ตเต็มพิกัด ที่น่าสนใจที่สุด คือการออกแบบท้ายรถเป็นทรงกลมมล ผิดกับแฮทช์แบ็ครุ่นอื่น ที่ยังมีทรงเหลี่ยมในงานออกแบบอยู่บ้าง ที่ผมและหลายคนดูจะติติงไปพร้อม ๆ กัน คือการออกแบบเสา   C   ให้มีขนาดค่อนข้างใหญ่ และหนา เป็นพิเศษ

เรื่องหน้าตาทั้งคู่เหมือกันด้วยการออกแบบเสน้สายที่มีความปราดเปรียว ไฟหน้าตาตี่ลงคล้ายใน   CX-5   กระจังหน้ามีขนาดใหญ่ขึ้น เส้นสาบด้านข้างไม่เน้นการมีเส้นเอวหรือคมสันอะไร เป็นเพียงการโค้งของชิ้นส่วนที่ดูเรียบง่าย มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว  ทางมาสด้าตั้งทำแบบนี้ให้มันเล่นแสงและเงา เวลาเราขับไปบนถนน

เปิดเข้าไปในห้องโดยสาร ตัวรถยังคงแนวทางความสปอร์ต ด้วยภายในห้องโดยสารสีดำ ถูกใจคนชอบภาพลักษณ์ความสปอร์ต รุ่นใหม่มีการปรับการออกแบบภายในใหม่ยกเซท เน้นความ   Minimal  เรียบง่ายมากขึ้น จะสังเกตได้ว่า คอนโซลหน้า พวกชุดลำโพง ต่างๆ ถูกปรับเปลี่ยนใหม่ หายไป หน้าจอเครื่องเสียงความบันเทิงปรับขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 8.8 นิ้ว  หน้าคนขับระบบ   Head Up Display   เปลี่ยนใหม่ เป็นการสะท้อนขึ้นกระจกหน้า และจัดวางให้ไกลสายตา เพื่อสะดวกในการสำรวจข้อมูลดีขึ้น

ส่วนการออกแบบคอนโซลกลางปรับตำแหน่งที่วางแก้วมาทางด้านหน้าเพื่อความสะดวกยิ่งขึ้น ที่เก็บของคอนโซลกลางจึงใหญ่ขึ้น และกลายเป็นที่เท้าแขนขนาดใหญ่ตอบเรื่องความสะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วย

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปชัดเจนในครั้งนี้ คงต้องยอมรับว่า เป็นเรื่องการใช้วัสดุตัวรถดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะวัสดุหุ้มเบาะให้สัมผัสใกล้เคียงรถยุโรปเข้าไปอีก

ด้วยการศึกษาการเคลื่อนไหวของมนุษย์ตลอดหลายปีในรั่วบริษัท ทางมาสด้าได้แนวคิดในการพัฒนารถว่าจะต้องทำให้หัวมุนษย์ส่ายน้อยที่สุด และ ที่นั่งที่ดีที่สุด คือ การนั่งแล้วกระดูกสันหลังของเราโค้งเป็นตัว  S   เบาะนั่งมาสด้า 3  ใหม่ จึงถูกปรับปรุงใหห้มี  Lumbar Support  ตลอดจนจุดวางสะโพกละหัวไหล่ ถูกปรับแต่งใหม่ เพื่อลดความเมื่อยล้าในการขับขี่

เหลียวมองเบาะหลัง มองแล้วก็ยังแคบ ตามสไตล์มาสด้า น่าแปลกงวดนี้จากที่ลองนั่งคร่าวๆ   Mazda3   4 ประตู มีพื้นที่การโดยสารดีกว่า  รุ่น 5 ประตูอย่างชัดเจน ถึงจะแคบแต่มาสด้ายืนยันว่า   Mazda 3   ทุกรุ่นไม่ว่า 4 /5 ประตู สามารถให้คนตัวสูง 180 ซ.ม. นั่งหลังได้สบายมาก เพียงแต่ด้วยคุณลักษณะการออกแบบของมาสด้า  อาจทำให้ดูคับแคบเท่านั้น

สำรวจรถกันมามาก ได้เวลาลองขับสักที  ข่าวร้ายสำหรับชาวไทย คือ มาสด้า ประเทศไทย ยังไม่มีแผนการนำเครื่องยนต์เจ้าตำนาน  Mazda Sky Activ X   ใหม่ เข้ามาวางขาย ดังนั้นในเบื้องต้น มาสด้า 3 เวอร์ชั่นไทยทุกรุ่น จะเป็นเครื่องยนต์  Mazda Sky Activ G 2.0   ลิตร  ทั้งสิ้น วันนี้ทางมาสด้าไม่ได้เผยสเป็ค แต่เท่าที่ดูจากมาสด้าประเทศญี่ปุ่น ชี้ว่า เครื่องยนต์ตัวนี้ให้กำลัง 156  PS   สูงสุด ที่  6,000 รอบต่อนาที และ ทำแรงบิดสูงสุด 199 นิวตันเมตร สูงสุด ที่ 4,000 รอบต่อนาที

เครื่องยนต์ตัวนี้คือเครื่องยนต์รุ่นเดิมที่มีการปรับปรุงใหม่หลายประการ ตั้งแต่ เปลี่ยนหัวลูกสูบใหม่ ปาดด้านข้างออกเล็กน้อย (ไม่เหลี่ยม) ปรับแหวนลูกสูบใหม่ ชุดหัวฉีดใหม่ที่มีความละเอียดมากขึ้น และ ระบบจัดการหล่อเย็นในเครืองยนต์ใหม่หมด เพื่อให้ทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วนระบบส่งกำลังยังคงด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ไม่มีรายงาน การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงใดๆ

บอกก่อนว่า วันนี้เป็นการ  Sneak Preview   ผมมีเวลาจับรถเพียงไม่กี่นาที ขับเพียง สถานีละ 1 รอบสนาม ดังนั้นจะมาถามอะไรมาก คงยังจะตอบไม่ได้มากนัก

ด่านแรกเป็นการขับในสนามตั้งกรวย มีการจัดวางเป็นสถานีต่างๆ มุ่งเน้นการดูอาการตอบสนองของรถ ได้แก่ การทดสอบอัตราเร่ง , การสลาลอม การเข้าโค้ง และ การเบรกหยุด

สถานีนี้ ทางมาสด้าให้เราขับ   Mazda3   Hatchback  ตามอัธยาศัยให้ขยีคนละ 1 รอบเท่านั้น ก่อนหน้าจะขับผมเป็นผู้โดยสารกับ พี่วิทิต จากสื่อ Auto-Thailand สัมผัสแรกในฐานะผู้โดยสาร เทียบกับ มาสด้า 3 รุ่นปัจจุบัน ที่แอบดอยมาขับก่อนหน้านี้ รถรุ่นใหม่ ดูนิ่งขึ้น เงียบขึ้น และที่สำคัญเลยครับ นั่งสบายกว่าเดิม แม้ว่าจะนั่งในการขับทดสอบที่ต้องมีการเหวี่ยงไปมาๆ  ก็ตาม

สลับผลัดกันขับ ถึงตาผมขยี้มาสด้า 3 ใหม่ดูบ้าง ปรับท่านั่งต่างๆ เรียบร้อย ยอมรับว่าบาะนั่งใหม่ มาสด้า 3 สบายกว่ารุ่นเดิมมา แม้ว่าทรวดทรงจะไม่ได้ดูสปอร์ตหากสัมผัสแผ่นหลังให้ความรู้สึกถึงความกระชับ นั่งสบาย และอาจจะดีกว่านี้ถ้ามีโอกาสปรับที่ดันหลัง

ด้านหน้าเรือนไมล์เปลี่ยนใหม่  ยังคงให้ความเรียบง่ายดูดี มีคามสปอร์ตอย่างลงตัว ด้วย ยังคง ทรงวงแหวน 3 อันไว้อย่างเหนียวแน่น วงพวงมาลัยมีความปราดเปรียวขึ้น ก้านถูกปรับให้มีขนาดเล็กลง คงความเป็นมัลติฟังชั่นในการใช้งานไว้อย่างเหนียวแน่น

มีเวลาเล็กน้อยสำรวจคอนโซลหน้า ไม่มีปุ่มต่างๆ รกหูรกตา มีเพียง แอร์ออโต้ ใช้ปรับปุณหภูมิ แยกอิสระซ้ายๆ ขวา เรื่องเครื่องเสียงยังไม่ได้ลองอะไรอย่างเป็นทางการ ที่แน่ๆ มันใช้ลำโพงจาก Bose Sound system ในการขับกล่อม

เริ่มด่านแรกออกตัว ธงเขียวสะบัดผมกระทืบคันเร่งเต็มบาทา ในรถเรามีผู้โดยสาร 3 คน (รวมเจ้าหน้าที่จากทางมาสด้า) รถออกตัวอย่างรวดเร็ว การตอบสนองคันเร่งถือว่าทำได้ค่อนข้างไว ไม่มีอาการเอ๋อเชื่องช้าให้เห็น เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร พุ่งทะยานออกตัวทำงานขมีขมัน สังเกตรุ่นนี้เสียงเครื่องยนต์ดังน้อยลงกว่าเดิมเยอะ ไม่แน่ใจว่า มาจากการบุเก็บเสียงดีขึ้น หรือ การพัฒนาเครื่องยนต์ใหม่ลดเสียงที่เกิดขึ้นในระหว่างการทำงานไปด้วย

ที่แน่ๆ พื้นถนนสนามทดสอบเราเป็นลาดยางเสียงล้อและยางจากถนนแทบไม่มีได้ยินในห้องโดยสาร ถ้าปิดตาขึ้นมาขับอาจคิดว่ามันเป็นรถยุโรปด้วยซ้ำ ผมแอบลองจับเวลาอัตราเร่ง 0-100 ก.ม./ช.ม. ตั้งแต่รอบก่อนหน้านี้ วัดจาก  GPS   ได้อัตราเร่ง 10.0 วินาที ช่วงทางตรงนี้ยาวเหลือเฟือ จนมีโอกาสจับ 80-120 ก.ม./ช.ม.ด้วย ได้เวลา 8.0 วินาที

ระหว่างเลี้ยวโค้งผมสังเกตว่า มาสด้า 3 ใหม่ มีความเป็นธรรมชาติมาก การเลี้ยวโค้งด้วยความเร็ว 50 ก.ม./ช.ม. ไม่มีที่ราจะต้องมานั่งแต่งพวงมาลัยชักๆ เย่อๆ การคัดพวงมาลัยเจ้าน้องใหม่นี้ง่ายได้ น้ำหนักก็เป็นมิตรดีกับผู้ใช้ทั้งเพศชายและเพศหญิง ตำแหน่งการบังคับทิศทาง ถือว่าคมในระดับหนึ่ง ไม่มากไปจนเกินงาม  

ไม่นานเราเร่งเข้าสู่สถานีสลาลอม มาสด้าให้ใช้ความเร็ว 50 ก.ม./ช.ม. ผมขับเข้าไป หักพวงมาลัยไปมา ดูการตอบสนองของทั้งพวงมาลัยและตัวรถ ผมรู้สึกว่าพวงมาลัยมาสด้า 3 ใหม่เป็นไปตามใจคิดจนรวมกับขับรถสปอร์ตบางรุ่นด้วยซ้ำไป มันดูมีชีวิตชีวา เมื่อเคลื่อนไหวเปลี่ยนทิศทางไปมา

ขณะที่ตัวรถเองก็มีการโคลงตัวค่อนข้างน้อยมาก แม้จะสัมผัสได้ถึงทิศทางรถที่เปลี่ยนไป และแรงเหวี่ยงในการเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็ว หากรถกลับตอบสนองดี และผู้โดยสารเหลียวมองแล้วยังคงนั่งสบายไม่ได้ดูหวาดเสียวอะไร ผมเดินคันเร่งเพิ่มความเร็วในระหว่างสลาลอมไปเรื่อยๆ  

พบว่า การตอบสนองของช่วงล่างหลังก็ดีงามไม่แพ้กัน อย่างที่เราหลายคนกังขาว่าช่วงล่างหลังว่าที่มาสด้า 3 ใหม่ เป็นระบบทอร์ชั่นบีม แทน มัลติลิงค์เดิม แต่ตอนขับในสถานีนี้มันกลับตอบโจทย์ดีจนน่าแปลกใจ ระบบช่วงล่างหลังกึ่งอิสระกลับให้การควบคุมง่ายดาย ถ้าหน้าพ้นหลังก็พ้นอะไรเทือกนั้น ส่วนหนึ่งอาจจะต้องยอมรับว่า มาจากการพัฒนาระบบ   GVC-Plus   เข้ามาช่วยตอบโจทย์ รวมถึงโครงสร้างตัวรถเองก็มีการพัฒนาหลายส่วน เช่น การออกแบบโครงสร้างวงแหวนเพิ่มความแข็งแรง , หรือจะเป็นการใช้เหล็กที่มีความแข้งแรงเพิ่มขึ้น

ผมเร่งความเร็วสูงสุดในสถานีนี้ถึง 68 ก.ม./ช.ม. หรือมากกว่าที่มาสด้า กำหนด 18 ก.ม./ช.ม. ก็ดูยังควบคุมได้ดีไม่มีปัญหาใดๆ เราเร่งพุ่งเข้าสู่จุดสุดท้าย เป็นสถานีทดลองเบรก การสั่งหยุดรถคันนี้มั่นใจ รถหยุดอย่างมั่นคง แถมแป้นเบรกยังค่อนข้างไว และละเอียด จนสามารถควบคุมได้ง่ายขึ้น

จากสถานีแรกเราไปยังสถานีที่ 2 เป็นการทดสอบทางโค้ง การขับเป็นสภาพสนามที่ทางโค้งต่อเนื่องระยะทาง 2.5 ก.ม. ขับตามความเร็วที่ทางมาสด้ากำหนด โดยรถที่ขับขี่เป็นรุ่น 4 ประตู

ออกตัว เราใช้ความเร็ว 40 ก.ม./ช.ม. เข้าโค้งเบาๆ เรื่อยๆ และเพิ่มความเร็วไปตามป้ายกำหนดอย่างเคร่งครัด สิ่งที่เห็นคือว่า มาสด้า 3 ใหม่ให้การควบคุมที่ง่ายขึ้น โดยจำเป็นต้องซอยพวงมาลัยเวลาเข้าโค้งแม้แต่น้อย

ในทางกลับกันระหว่างที่ขับสังเกตว่า การตอบสนองของทั้งแป้นคันเร่งและแป้นเบรก ค่อนข้างมีความละเอียดอ่อนมากกว่ารุ่นเดิม คุณสามารถควบคุมให้เป็นไปได้ดั่งใจมากขึ้น เช่นเดียวกับพวงมาลัยที่มีความคมกว่าเดิม ตอบสนองดีขึ้น จนรู้สึกผ่อนคลายได้ แม้กับการขับบนถนนทางโค้งต่อเนื่องก็ตาม

สรุป   All New Mazda 3   ใหม่ ปรับให้ลงตัวมากกว่าเดิม

จบ 2 สถานี เป็นเพียงการขับว่าที่คอมแพ็คคาร์   All New Mazda 3   ใหม่ สั้นๆ และเพียงไม่กี่นาทีทีจับขับนั่งพวงมาลัยรถรุ่นนี้  

ตอนนี้อย่าเพิ่งถามว่าอัตราประหยัดเป็นอย่างไร เพราะทั้งหมดนี้ เป็นการทดสอบสมรรถนะล้วน ๆ ภายใต้ภาวะปัจจัยจากทางมาสด้า ประเทศไทย ในเบื้องต้นผมสรุปได้เลยว่า รถมาสด้า 3 ใหม่ เปลี่ยนแปลงทางด้านความพรีเมี่ยมมากขึ้น  

มันออกแบบดีขึ้น ใช้วัสดุคุณภาพสูงขึ้น และให้ความสำคัญกับเรื่องการตอบสนองต่อผู้ขับขี่มากขึ้น โดยเฉพาะความสบายในการใช้งานและการขับขี่ แม้นว่าอาจจะไม่ใช่กับโจทย์ผู้โดยสารตอนหลังก็ตามที

มาสด้า 3 ใหม่ มีการปรับปรุงเรื่องคุณภาพในการขับขี่อย่างชัดเจน การตอบสนองของเครื่องยนต์อาจไม่ใช่สาระสำคัญในรุ่นนี้ เนื่องจากไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก แต่การปรับเชิงโครงสร้างหลายรายการ อาทิ เหล็กใหม่ การประกอบชุดโครงสร้างใหม่ และระบบช่วงล่างหลังใหม่ แบบ ทอร์ชั่นบีม  ทำให้รถคันนี้ดูมีชีวิตชีวาในการขับขี่มากขึ้น มันตอบสนองดีขึ้น โคลงตัวน้อยลง เข้าโค้งสนุกขึ้น ผู้ขับขี่ไม่เครียดกับการบังคับควบคุมรถ ส่วนผู้โดยสารก็นั่งสบาย

กลายเป็นรถที่สามารถเข้าถึงความต้องการได้ทั้งผู้ขับขี่ที่ต้องการความสนุกสาน และมั่นใจ เช่นเดียวกับยังตอบในเรื่องของภาพลักษณ์จากงานออกแบบอย่างครบครัน 

มาสด้า 3 ใหม่ เตรียมเปิดตัวขายในเดือนกันยายนนี้ เป็นต้นไป ซึ่งตอนนี้ได้ทราบมาว่าบางโชว์รูมเปิดรับจองรถยนต์มาสด้า 3 ใหม่ แล้วด้วย  ใครที่สนใจก็เตรียมติดตามข่าวสารกันอย่างใกล้ชิด

[ngg src=”galleries” ids=”1222″ display=”basic_thumbnail”]