ตั้งแต่ฮอนด้า กันมาเอาดีทางด้านเครื่องยนต์เทอร์โบ ต้องยอมรับว่า พวกเขาสร้างให้แบรนด์แข็งแกร่งทางด้านสมรรถนะในการขับขี่มากขึ้น เคียงข้างการลดมลภาวะปล่อยไอเสีย ถึงช่วงปีที่ผ่านมา จะมีการลั่นระฆังเรื่องการหันมาเอาดีทางด้านรถยนต์ไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้า หากกระแสดังกล่าวอาจจะต้องใช้เวลาอีกหน่อยกว่าจะถึงไทย

แล้วเทรนด์อะไรที่ฮอนด้าจะนำเสนอต่อไปในอนาคต ไม่ต้องสงสัยเลยว่า มันจะเป็นยุคเครื่องยนต์เทอร์โบ จ่อคิวดาหน้ากรีฑาทัพให้ลูกค้าเลือกตามต้องการ ในรถยนต์หลายรุ่น แม้นว่าวันนี้เราอาจจะเห็นเพียงใน   Honda  Civic   และ Honda  Accord  เพียงจากวันนี้ไปอีก 2-3 ปี เราอาจจะเห็นเครื่องยนต์แบบนี้ครบในรถยนต์ทุกรุ่นในอนาคต

เรื่องราวฮอนด้ากับเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จไม่ใช่เรื่องใหม่ พวกเขาวางแผนมาหลายปี ในการผลิตเครื่องยนต์ออกมาตอบโจทย์ลูกค้า ผู้ต้องการสมรรถนะในการขับขี่ความประหยัด ส่วนบริษัทเองก็โดนเข้มงวดเรื่องการปล่อยไอเสียในภาวะโลกร้อน

ย้อนไป 3-4 ปีที่แล้ว ฮอนด้าเผยเครื่องยนต์เทอร์โบ 3 รุ่น มี 1.0 ลิตร เทอร์โบ , 1.5 ลิตร เทอร์โบ และ 2.0 ลิตร เทอร์โบ ในชุด   Erath Dream  ก่อนเริ่มวางขายเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบเป็นรุ่นแรกในรถยนต์หลายรุ่น แล้วปรับขยับมาเรื่อยๆ จน ปัจจุบันในต่างประเทศ มีรถยนต์ใช้เครื่องยนต์นี้มากมาย ทั้ง  ฮอนด้า ซีวิค ,ฮอนด้า แอคคอร์ด , ฮอนด้า เอชอาร์วี และล่าสุด  ฮอนด้า ซีอาร์วี

กระแสดังกล่าวจะมาถึงไทยในอีกไม่ช้า ด้วยประเด็นสำคัญ คือ เครื่องยนต์ที่ฮอนด้าในใช้รถยนต์ปัจจุบันหลายรุ่น สมควรแก่เวลาปลดระวางแล้ว ขุมพลังบางตัวลากยาวรหัสเดิม พัฒนาแล้วพัฒนาอีก จนสุดทางถึงคราวจะต้องปลดประจำการ และฮอนด้าไม่มีเครื่องยนต์สันดาปแบบเดิมในมืออีกต่อไป

เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร 1.8 ลิตร และ 2.4 ลิตร เป็นกลุ่มสำคัญที่จะต้องมีการปรับเปลี่ยนแน่ในอนาคต ตลอดจนภาครัฐบาลไทยยังหันมาเอาจริงเอาจังเรื่องการปล่อยไอเสีย ปรับระบบภาษีเป็นแนวทางจัดเก็บการปล่อยไอเสียในรถใหม่ ทำให้เครื่องยนต์เดิมไม่ถูกชะตา

ฮอนด้ามีทางออกสำคัญ 2 ด้าน หนึ่งหันไปใช้เครื่องยนต์ไฮบริด ซึ่งปัจจุบัน ระบบที่โดดเด่นที่สุดของบริษัท คือระบบ  i-MMD   ครอบคลุมในรถยนต์ที่เรารู้จักเพียง 2 รุ่นเท่านั้น ได้แก่  Honda  Accord  Hybrid   ที่เพิ่งเริ่มวางจำหน่ายไปหมาดๆ และ สอง  Honda  CR-V   ใหม่ เพิ่งเริ่มแนะนำวางขายในต่างประเทศ

แต่แน่นอนว่าระบบไฮบริด ย่อมจะมาพร้อมราคาจำหน่ายสูงขึ้น ตอบโจทย์ลูกค้าด้วยสมรรถนะการขับขี่และความประหยัดที่เหนือกว่ามาก มันอาจไม่ใช่คำตอบสำหรับคนทั่วไป ดังนั้นหนทางต่อมาก็คงไม่อาจปิดความคิดว่า ต้องเป็นการส่งเครื่องยนต์เทอร์โบเข้าตลาดในไม่ช้านี้

การเปลี่ยนแปลงในอเมริกาจากเครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ลิตร ไปสู่ เบนซิน 1.5 เทอร์โบ ใน   Honda  CR-V   ใหม่ รุ่นปรับโฉมปี 2020 แสดงความชัดเจนถึงเจตนาแบรนด์ว่า ต่อจากนี้จะทะยานสู่เครื่องยนต์เทอร์โบแน่ 

แม้ในทางหนึ่งลูกค้ากลุ่มวัยกลางคนอาจจะไม่ชอบแนวทางนี้ จากการปลูกฝังเรื่องขนาดเครื่องยนต์มีผลต่อสมรรถนะของรถและการขับขี่ ในดลกยุคใหม่เรื่องนี้ถูกตีตกไปด้วยความสามารถของระบบเทอร์โบชาร์จ ให้การตอบสนองในการขับขี่ดีกว่า และยังให้ความประหยัดมากกว่าด้วย

ด้วยแนวทางของ   Honda  CR-V  ในอเมริกา ย้อนข้ามทะเลกลับมาบ้านเรา จะเห็นได้ว่า เครื่องยนต์ 2.4 ลิตร น่าจะแทนที่ด้วย เครื่อง 1.5 ลิตร เทอร์โบ สเป็คเดียวกับ   Honda  Accord   ในปัจจุบัน ก็ยังเหลือเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร และ 1.8 ลิตร ทั้งสองต่างมาถึงทางตันเช่นกัน

2020 Honda CR-V

มีความเป็นไปได้สูง ที่ขุมพลังทั้ง 2  จะถูกแทนที่ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.0 ลิตร เทอร์โบ ในอนาคต ปัจจุบัน ฮอนด้าแนะนำเครื่องยนต์รุ่นนี้ วางขายใน  Honda  Civic   ใหม่ในประเทศอังกฤษ และทางยุโรป ที่มีความเข้มงวดด้านการปล่อยไอเสียสูงมาก

เครื่องยนต์ดังกล่าวปัจจุบันมีเพียงสเป็คเดียว มันทำกำลังสูงสุด 126 PS ที่ 5,500 รอบต่อนาที และทำแรงบิดสูงสุด 180 นิวตันเมตร ระหว่าง 1,700-4,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์   CVT 7  สปีด ให้อัตราเร่ง 0-96 ก.ม./ช.ม. ในเวลา 10.9 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 198 ก.ม./ช.ม.

เปรียบเทียบกับ เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร เดิม จะพบว่ากำลังเครื่องยนต์ลดต่ำลงเล็กน้อย จาก 140 ลงมาเหลือ 126 PS   กลับกัน มันให้แรงบิดสูงกว่า คึกคักตั้งแต่กดคันเร่ง ประมาณ 6 นิวตันเมตร หมายความว่าลูกค้าไม่จำเป็นต้องตะบันคันเร่งลากรอบ รีดกำลังเครื่องยนต์สูงสุด อีกต่อไป

ทางด้านเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร คาดว่าจะใช้เครื่องยนต์เดียวกัน เพียงปรับกำลังให้น้อยกว่า แรงบิดจะได้ไม่สูงมหาศาล เกินไป อย่างไรก็ดี แนวทางของเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร เทอร์โบ ในรถยนต์ขนาดเล็กยังเป็นความลับ เนื่องจากบริษัทเตรียมจะปล่อยออกมาใน  Honda Jazz   รุ่นต่อไป ที่มีกำหนดการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคมนี้

ดังนั้น ถ้าสรุปโดยรวม การเปลี่ยนแปลงของ ฮอนด้าทั้งปัจจุบัน และในอนาคต จะเป็นไปดังนี้

 Honda  Accord 20 / 2.4 >>> Honda  Accord 1.5 T (190 ps)
Honda  Civic  2.0            >>> Honda  Civic  1.5 T (173Ps)
Honda  CR-V  2.4           >>>  Honda  CR-V 1.5 T (190 ps)
Honda Civic  1.8             >>> Honda  Civic  1.0 T  (126 PS)
Honda  Jazz / City          >>> Honda Jazz/City  1.0 T (N/A)

อย่างไรก็ดี การนำเสนอในบทความนี้เป็นการคาดการณ์และรวบรวมข้อมูล ตลอดจนปรากฎการณ์ ในต่างประเทศ อาจจะมีความแตกต่างไปบ้าง จากการตัดสินใจทำตลาดภายในประเทศไทย

นอกจากการเปลี่ยนแปลงสู่เครื่องยนต์เทอร์โบ ในหมู่รถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในแล้ว เชื่อว่าเราอาจจะได้เห็นการแนะนำรุ่นไฮบริดมากขึ้นด้วย อันเป็นไปตามแนวทางนโยบายใหม่ของบริษัท ที่จะพยายามขายรถยนต์ใช้ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้ามากขึ้นในอนาคต 

*หมายเหตุ เรื่องในบทความนี้เป็นการรวบรวมข้อมูล และวิเคราะห์โดยทีมงาน  Ridebuster.com   อาจมีการเปลี่ยนแปลงอันขึ้นอยู่กับการพิจารณาความเหมาะสม จาก  ฮอนด้า ประเทศไทย

เรื่อง โดย ณัฐยศ  ชูบรรจง ติดตามการทำงาน และพูดคุยได้ทาง   Facebook.com



แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่