ในวาระที่คุณต้องการความประหยัดจากการเดินทาง เชื่อเลยว่า จะต้องมีใครสักคนแนะนำให้คุณไป “ติดแก๊ส” ด้วยความเชื่อว่ามันประหยัดกว่า  เนื่องจากจ่ายค่าแก๊สราคาถูกกว่า จนหลายคนหลงเชื่อ และเข้าใจว่าการติดแก๊ส จะเป็นตอบของพวกเขาในเรื่องประหยัดค่าเดินทางได้ แต่เรามีหลายอย่าง อยากจะบอกคุณว่า การติดแก๊สไม่ได้ทำให้คุณประหยัดอย่างที่คิดเสียเท่าไรหรอก

 

1.มีคาใช้จ่ายในการติดตั้ง

ก่อนที่คุณจะใช้แก๊สได้ไม่ว่า จะแก๊สแบบ   NGV / LPG   การติดตั้งตัวระบบแก๊สไม่ว่าแบบใด ล้วนมีค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น ปัจจุบันราคาค่าติดตั้งแก๊ส ซึ่งนิยมใช้แบบหัวฉีดแล้วอ่านข้อมูลการทำงานจากเครื่องยนต์ของรถร่วมในการสั่งจ่ายแก๊ส เฉลี่ยค่าใช้จ่ายที่ 30,000 บาท โดยประมาณ ซึ่งคุณต้องมีเงินก้อนนำมาจ่ายค่าติดตั้งในส่วนนี้ก่อน จะค้นพบความประหยัด

ซึ่งหากคุณนำเงินที่เท่ากันมาเป็นค่าใช้จ่ายในการเติมน้ำมัน รถที่มีความจุถังน้ำมัน 42 ลิตร (พวกอีโค่คาร์) จะสามารถเติมได้ประมาณ 30 ถัง เลยทีเดียว ถ้าเฉลี่ยหนึ่งถังวิ่งได้ 500 กิโลเมตร คุณจะสามารถขับได้ถึง 15,000 กิโลเมตร  

ดังนั้นหากจะใช้รถที่ติดแก๊สให้คุ้มทุน คุณต้องวิ่งรถเป็นระยะทางมากจริงๆ อย่างน้อยต้องมากกว่าปีละ 15,000 กิโลเมตร

 

2.ได้ระยะทางน้อยกว่า 

ถึงการเติมแก๊สจะมีราคาถูกกว่า แต่ที่คนใช้แก๊สไม่เคยบอกคุณมาก่อน คือพวกมันมีระยะทางในการใช้งานน้อยกว่า การใช้น้ำมันขับขี่พอสมควร สาเหตุที่แก๊สมีระยะทางน้อยกว่า แม้ว่าจะมีขนาดถังเท่ากันเนื่องจากแก๊สมีค่าความร้อนในแง่ประสิทธิภาพการเผาไหม้ น้อยกว่า

อาจจะจริงที่เรารู้สึกว่า แก๊สดูจะระเบิดรุนแรงกว่า โดยเฉพาะจากความเชื่อแก๊สเป็นอากาศน่าจะติดไฟดีกว่า แต่ที่หลายคนไม่ทราบมาก่อน คือแก๊ส LPG   ที่ใช้ในรถยนต์ มีส่วนผสมโพรเพน 60%   และ  บิวเทน 40%   ค่าพลังงานต่อหน่วย (ลิตร) สูงสุดเพียง 25.5-28.7 เมกะจูลต่อลิตรเท่านั้น

เปรียบเทียบกับ น้ำมันเบนซิน 100%   ที่มีค่าพลังาน 34.8 เมกะจูลต่อลิตรและ แก๊สโซฮอล E20   ที่มีพลังงานอยู่ต่อหน่วยที่ 32.54 เมกะจูลต่อลิตร  คุณคงจะเห็นว่าพลังงานที่ให้น้อยกว่าพอสมควร  แถมก็ไม่ใช่ว่าแก๊สจะให้พลังงานเท่ากันเสมอด้วย เหมือนจับโชค ตาดีได้ ตาร้ายเสีย แล้วแต่แหล่งที่มา

พลังงานเดียวที่  LPG   ดูจะชนะได้ คือ แก๊สโซฮอล  E85  ที่มีค่าพลังงานต่อหน่วยเพียง  25.195 เมกะจูลต่อลิตร ซึ่งให้พลังงานเท่ากัน แต่มีราคาขายต่อลิตรมากกว่า แต่ถ้าคิดว่าต้องมาติดระบบเพิ่ม มันดูจะไม่คุ้มค่านัก 

 

3.ต้องจูนแก๊สต่อเนื่อง

คุณไม่แปลกใจหรือว่ารถยนต์ที่ติดตั้งพลังงานทางเลือกต่างๆ ล้วนมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงมาก เมื่อเทียบกับรถติดแก๊ส ที่ดูเหมือนจะง่ายและถูกเกินไป เมื่อเทียบว่าคุณกำลังเล่นกับไฟและพลังงานทางเลือกราคาถูกที่ดูเหมือนจะตอบโจทย์

ความจริงแล้ว บริษัทรถยนต์หรือชิ้นส่วนอะไหล่ ใช้เวลาและเงินไปมากกับการวิจัยรถพลังงานทางเลือก กับแก๊สเอง แม้ว่าจะมีระบบที่ไว้ใจได้ บางร้านอ้างโดยอาศัยความเข้าใจและมั่นใจมาตรฐานสากลของคนไทย  มาเล่นแง่ โดยเฉพาะจากแบรนด์อิตาลี่ เป็นต้น

จริงอยู่ที่อุปกรณ์และระบบติดตั้งแก๊สถูกออกแบบมาให้ทันสมัยมากขึ้นในการจ่ายแก๊สให้มีความแม่นยำมากขึ้น แต่ไม่มีใครเคยบอกคุณว่าอุปกรณ์เซนเซอร์ต่างๆ เขาออกแบบมาสำหรับระบบติดตั้งแก๊สโดยตรง เซนเซอร์เหล่านี้ พวกมันถูกออกแบบมาอ่านค่าอากาศสำหรับรถใช้น้ำมัน

เพียงแต่พวกมันถูกนำมาผูกกับระบบแก๊ส  LPG   เพื่อตรวจสอบและสั่งจ่ายได้แม่นขึ้น มีเพียง หม้อต้มแก๊ส ,ถัง , สายแก๊ส  และอุปกรณ์แรงดัน เท่านั้นที่เป็นของจริง

พวกเซนเซอร์ หรือหัวฉีด ส่วนใหญ่ดัดแปลงมาจากรถใช้น้ำมัน ทำให้คุณรู้สึกวางใจว่ารถจะทำงานถูกต้องเมื่อใช้งาน มันอาจจะทำงานได้ดี แต่ก็เพียงเดี๋ยวเดียวเท่านั้น เพราะคุณจะถูกผู้เชี่ยวชาญประจำอู่ให้เข้ามาเช็ตระบบแก๊สอย่างต่อเนื่องเป็นประจำ อย่างน้อยปีละครั้ง หากคุณไม่ทำตามจะพบอาการกินแก๊ส , หรือรถมีอาการผิดปกติระหว่างขับขี่ เช่นอาจเหม็นแก๊ส เว้นแต่ติดตั้งระบบที่ควบคุมโดยคอมพิวเตอร์ ซึ่งก็มีราคาแพงขึ้นไปอีก

 

4.เครื่องพังในระยะยาว

ถ้าคุณไปพูดกับคนใช้แก๊สเป็นประจำ เขาจะพูดว่า เป็นไปไม่ได้หรอก และเครื่องพังมันก็พังของมันอยู่แล้ว แต่ปล่อยพวกเขาไปตามความเข้าใจของพวกเขา

รถใช้แก๊สมีแนวโน้มเครื่องยนต์พังง่ายกว่ารถใช้น้ำมันพอสมควร เนื่องจากรถใช้แก๊สมีค่าความร้อนสูงกว่าในการจุดวาบไฟ แม้ว่าแก๊สจะมีค่าป้องกันการน๊อกเครื่องยนต์หรือ ออกเทนสูงกว่า (ระหว่าง 90-100 แล้วแต่แหล่งที่มา) หากค่าความร้อนจากการเผาไหม้ในระหว่างจุดระเบิดทำให้เครื่องยนต์มีประสิทธิภาพถ่ายเทความร้อนผิดเพี้ยน เนื่องจากเครื่องยนต์ใช้น้ำมันส่วนใหญ่ไม่ได้ออกแบบมารองรับการใช้แก๊ส ที่มีความร้อนสูงกว่าระหว่างการทำงาน

เมื่อคุณใช้แก๊สอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ แก๊สจะทำร้ายเครื่องยนต์คุณ โดยเฉพาะชิ้นส่วนที่ต้องรับความร้อนโดยตรง อาทิ วาล์ว และลูกสูบอาจได้รับความเสียหาย ถ้าคุณใช้แก๊สอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ถ้าคุณใช้แก๊สตลอดศก มีโอกาสที่ระบบเชื้อเพลิงหลัก ระบบจ่ายน้ำมันจะทำงานบกพร่อง เนื่องจากไม่ได้ถูกใช้เป็นเวลานานเกินไป พวกปั้ม-ลูกลอยอาจเสีย , หัวฉีดอาจจ่ายน้ำมันไม่ถูกต้อง เนื่องจากไม่ได้ใช้งานนาน 

การเสื่อมสภาพของเครื่องยนต์ อาจไม่เกิดขึ้น ตั้งแต่วันแรกที่คุณติดตั้งแก๊ส แต่มันจะเห็นผลในระยะเวลา 2-3 ปี หรือ อาจจะเร็วกว่านั้น ถ้าคุณใช้รถเยอะมาก และจะยิ่งออกอาการมากขึ้น จนสุดท้ายส่วนใหญ่แล้ว อาจจะต้องเปลี่ยนเครื่องทั้งตัว โดยเฉพาะรถที่ไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างดี

***ดังนั้น เมื่อมองระบบแก๊สกับค่าซ่อมบำรุงที่อาจจะเกิดขึ้นในระยะยาว มันไม่ได้ให้ความประหยัดเท่าที่ควร เนื่องจากต้องซ่อมบำรุงเครื่องยนต์เยอะกว่า รถใช้น้ำมัน (บางรายการอาจมีค่าใช้จ่ายหลักหลายหมื่นบาทเลยทีเดียว)

 

5.ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด

ถ้าให้คุณมองรถใช้แก๊ส อยากให้คุณนึกถึงคนดูดบุหรี่ ส่วนใหญ่แล้วคนเหล่านี้จะมีปัญหาสุขภาพในระยะยาวใช่ไหม

รถยนต์ติดแก๊สก็เช่นกัน อาการเสื่อมสภาพของเครื่องยนต์รถติดแก๊สจะเริ่มขึ้นหลังจากคุณใช้ไปสักระยะหนึ่ง อาทิการเสื่อสภาพของหม้อต้มแก๊ส ,หัวฉีดแก๊ส , ก่อนตามมาด้วยอาการเครื่องยนต์ต่างๆ เช่นเครื่องสั่นผิดปกติ , วาล์วดัน , และอีกต่างๆ มากมาย ที่จะค่อยๆ มารังควานคุณเรื่อยๆ ในระยะยาว

คนส่วนใหญ่ที่ใช้รถติดแก๊สจึงต้องหมั่นดูแลรถดีกว่าคนอื่น เพื่อให้ห่างไกลอาการเหล่านี้ เช่น เปลี่ยนน้ำมันเครื่องเร็วกว่าปกติ, ใช้น้ำมันเครื่องทนความร้อนสูง (สูตรเฉพาะ), หมั่นตรวจสอบระบบแก๊สเป็นประจำทุกปี , ตรวจสอบสภาพเครื่องด้วยตัวเองบ่อยครั้ง และที่ดีที่สุด หมั่นสังเกตอาการผิดปกติของรถที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างการขับขี่

ถ้าคุณขยันมากพอจะดูแลรถ ก็พอจะห่างไกลจากปัญหาต่างๆ ได้ในระดับหนึ่ง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีปัญหาเลย

 

6.แก๊สทำให้รถอายุสั้น

ในกรณีที่คุณตั้งใจจะใช้รถยาวนาน มากกว่า 10 ปี การติดตั้งระบบแก๊สไม่เคยส่งผลดีเลย เนื่องจากระบบแก๊สส่วนใหญ่ทำให้รถมีปัญหาเมื่อใช้งานในระยะยาว รวมถึงตามข้อกฎหมายระบบแก๊สไม่เพียงต้องหมั่นตรวจสอบ แต่ต้องมีการเปลี่ยนอุปกรณ์สำคัญ เมื่อครบอายุ 10ปีด้วย

การใช้แก๊สเป็นระยะเวลานานๆ โดยส่วนใหญ่แล้ว หากรถไม่ได้รับการดูแลจากผู้ที่มีความรู้หรือหมั่นสังเกตอาการผิดปกติ เกือบร้อยละ 80 จะอยู่ในสภาพเครื่องโทรม จนอาจจะจำเป็นต้องเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ในท้ายที่สุด เนื่องจากแก๊สจุดระเบิดไม่เหมือนน้ำมัน และมีค่าความร้อนพลังงานสูงกว่าน้ำมัน ทำให้ชิ้นส่วนต่างๆ สึกหรอมากกว่า การใช้น้ำมันในการขับขี่ และส่วนใหญ่จะเป็นชิ้นส่วนในเครื่องยนต์ ซึ่งมีค่าแรงและค่าอะไหล่ค่อนข้างแพง

ตลอดจนระบบแก๊สเองมีอายุการใช้งานประมาณ 10 ปี เท่านั้น โดยเฉพาะชุดถังแก๊สกฎหมายระบุให้ต้องตรวจสอบ สภาพถังเมื่อใช้มานาน 5 ปี และตั้งแต่ปีที่ 6 เป็นต้นไป ต้องมีใบรับรองวิศวกรทุกครั้งที่ต่อภาษีประจำปีแนบมาด้วย และบังคับให้ผู้ใช้ต้องเปลี่ยนถังแก๊สทุก 10 ปี  เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน ซึ่งการเปลี่ยนถังแก๊สมีค่าใช้จ่ายใกล้เคียงกับการติดตั้งระบบแก๊สใหม่ทั้งระบบเลยครับ

ดังนั้นถ้าคุณมีแผนจะใช้รถคันดังกล่าวยาวนาน แนะนำว่า เลี่ยงการติดตั้งแก๊ส แล้วหาวิธีประหยัดอื่นๆ น่าจะดีกว่า

 

7.รถเสื่อมราคาขาย จนอาจไม่มีค่า

หลายคนไม่เคยทราบเรื่องนี้มาก่อน แต่รถทีติดตั้งแก๊สส่วนใหญ่แล้วจะเสื่อมราคาขายต่อพอสมควร ยิ่งรถเก่าติดแก๊ส แทบจะพูดว่า แจกฟรีไปเลยน่าจะดีกว่า

สาเหตุที่รถติดแก๊สราคาขายต่อไม่ดีนัก เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีในหมู่พ่อค้าคนขายรถว่า รถติดแก๊สมักจะมีสภาพเครื่องยนต์โทรม และกว่าร้อยละ 90 ของรถติดแก๊ส เป็นรถที่ผ่านใช้งานหนัก อาจจะวิ่งเยอะกว่ารถธรรมดาทั่วไป เจ้าของจึงตัดสินใจติดแก๊สเพื่อความประหยัด จนแทบจะพูดได้ว่าสภาพผ่านการปู้ยี้ปู้ยำมาเยอะ ตามความคิดของผู้ที่จะรับซื้อรถต่อจากคุณ

ในกรณีที่ไปขายเต็นท์ รถติดแก๊สจะโดนกดราคามาก เนื่องจากการแจ้งลงเล่มจะเป็นประวัติสำคัญที่ระบุว่ารถคันนั้นผ่านการใช้แก๊สมาแล้วหรือไม่ เหมือนเป็นตราบาปที่จะอยู่กับรถไปอีกนาน ถึงแม้ภายหลังจะไม่ใช้แก๊สและมีการถอดระบบออกแล้ว แต่การลบประวัติ จะทำได้อย่างเดียวคือการล้างเล่มทะเบียน (ขึ้นเล่มใหม่) จึงจะลบประวัติดังกล่าวได้

ในกรณีไม่ลงในเล่มทะเบียนก็ใช่ว่าจะรอด การติดตั้งแก๊สส่วนใหญ่ จำเป็นต้องมีการเจาะตัวถังเพื่อการติดตั้งถังหรือสายท่อแก๊สจากทางด้านหลังมายังห้องเครื่อง ซึ่งแม้ว่าคุณจะเอาชุดระบบแก๊สออก ร่องรอยผิดปกติเหล่านี้ก็ยังคงอยู่ เป็นตราบาปต่อไปกับรถ ถ้าคนดูรถเป็นจะรู้ทันที ว่ารถผ่านการติดแก๊สมาก่อน

แต่ถ้าคิดว่า ซื้อมากะใช้จริงจัง จะติดแก๊ส ก็ทำไปเถอะครับ แล้วก็ทำใจเวลาขายแล้วกัน

 

เป็นอย่างไรบ้างครับ รู้แบบนี้แล้ว คงต้องกลับไปตัดสินใจกันอีกทีเรื่องติดแก๊สใช่ไหมครับ ความจริงการใช้รถให้ประหยัดมันมีหลากวิธี การติดแก๊สก็เป็นทางออกที่ดี ถ้าคุณรับมือได้กับปัญหาที่ตามมาในภายหลัง ดังนั้นหากคุณคิดว่า ตัวเองยังไม่พร้อมรับมือกับปัญหาที่เกิดจากการติดแก๊ส เราควรจะเริ่มต้นกับการหารถที่เหมาะสมในการใช้งาน และขับด้วยวิธีต่างที่สามารถเพิ่มพูนความประหยัดน้ำมันได้อย่างไม่น่าเชื่อ

 

ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com



 

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่