หลังจากที่มีการปล่อยทั้งทีเซอร์ และภาพหลุดออกมาให้ชาวโลกได้เห็นกันอยู่เป็นพักๆ ในที่สุด 2024 Volvo EX90 เอสยูวีพลังงานไฟฟ้า 100% คันใหม่ล่าสุดจากค่ายดังสัญชาติสวีเดนก็ได้ถูกเผยโฉมอย่างเป็นทางการสักที พร้อมกับการระบุให้มันกลายเป็นรถยนต์ระดับเรือธงรุ่นใหม่ของค่าย แทน Volvo XC90 ไปในตัว

2024 Volvo EX90 มาพร้อมกับงานดีไซน์ที่ยังคงเอกลักษณ์ความเป็น Volvo ไว้ได้เป็นอย่างดี แม้ในคราวนี้มันจะถูกเพิ่มรายละเอียดเส้นสายแบบของรถยนต์สมัยใหม่เข้าไปมากขึ้น แต่ในภาพรวมมันก็ยังคงมีงานออกแบบที่ดูสะอาดตาตั้งแต่หัวจรดท้าย จนทำให้เราอาจไม่รู้สึกถึงความแปลกหูแปลกตาไปมากเท่าไหร่นัก

และในทางกลับกันมันกลับทำให้เราดูขึ้นเคยกับตัวรถรุ่นนี้ได้ง่ายกว่า โดยที่ไม่ต้องแปลกใจเลยว่านี่คือตัวตายตัวแทนใหม่ของ Volvo XC90 แน่นอน ทั้งในส่วนของมิติตัวรถ และเส้นสายของชิ้นงานโป่งข้างซุ้มล้อ หรือแม้กระทั่งกรอบกระจกหน้าต่างทางด้านข้าง ตั้งแต่บานประตูหน้าจนถึงบานท้ายสุด

ขณะเดียวกันแม้กรอบไฟหน้าจะเปลี่ยนไป แต่เส้นแถบ DRL ตรงกลางดวงยังคงมีหน้าตาที่ไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมมากนัก เช่นเดียวกับชุดไฟท้าย ที่แม้จะไม่ได้เป็นแบบแถบ LED ลากยาวจากขอบด้านข้างกระจกที่ฝาท้ายลงมาเป็นเส้นเดียว แต่เเมื่อมองในภาพรวม ทั้งงานออกแบบไฟท้ายแบบตัว C และการติดตั้งแถบไฟ LED ขนาบข้างแนวกระจกฝาท้ายก็ยังคงมีกลิ่นอายที่ไม่หนีไปจากรุ่นพี่เช่นกัน

นอกจากนี้ หากคุณลองสังเกตที่หลังคาของตัวรถให้ดี ก็จะพบว่ามันมีส่วนหนึ่งของหลังคาทางด้านหน้าที่นูนขึ้นมาอย่างโดดเด่น ซึ่งแท้จริงแล้ว มันคือที่ตั้งของ LiDar เซนเซอร์ที่ถูกติดตั้งเพิ่มเข้ามา เพื่อเพิ่มความสามารถในการตรวจจับวัตถุต่างๆของระบบความปลอดภัย ซึ่งทาง Volvo ระบุว่ามันจะสามารถตรวจจับวัตถุในรัศมีทางด้านหน้าไกลสุดได้มากถึง 250 เมตร และยังช่วยให้รถสามารถวิ่งด้วยระบบ Autonomous Driving Level 3

ด้านชิ้นส่วนภายในของตัวรถเอง ก็ถือว่าน่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะหากไม่นับงานดีไซน์ที่ดูเรียบง่าย แต่ก็ลงตัวอย่างสวยงามแล้ว ทาง Volvo ยังระบุอีกว่า พวกเขาใช้วัสดุยั่งยืนในการสร้างพวกมันมากถึง 48 กิโลกรัม ซึ่งจะประกอบไปด้วย พลาสติกจากขวดใช้แล้ว, ผ้าจากเส้นไยขนสัตว์, หรือแผ่นไม้

ส่วนงานออกออกแบบคอนโซลเอง ก็เน้นความเรียบง่ายเช่นกัน โดยเราจะเห็นได้ว่ามันแทบไม่มีปุ่มสังการใดๆเลยทั้งสิ้นในจุดนี้ เนื่องจากการสั่งการทำงานระบบต่างๆของตัวรถแทบทั้งหมด ได้ถูกรวมเอาไว้ในหน้าจอสัมผัสแนวตั้งขนาด 14.5 นิ้ว ตรงกลาง ซึ่งทาง Volvo ระบุว่ามันจะทำให้ผู้ขับมีความปลอดภัยในการใช้งานมากกว่า (แม้ว่ามันจะขัดกับงานทดลองที่เคยถูกนำเสนอไปบนโลกออนไลน์เมื่อไม่นานมานี้ก็ตาม)

ฝั่งขีดความสามารถในการใช้งานของตัวรถเอง ก็จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ระดับหลักๆด้วยกัน นั่นคือรุ่นที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว สำหรับขับเคลื่อนชุดล้อทั้ง 4 แล้วให้พละกำลังรวมกันสูงสุด 414 PS กับ แรงบิดสูงสุด 770 นิวตันเมตร ขณะที่รุ่น Performance ซึ่งเป็นตัวแรง ก็จะได้มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ชุด สำหรับขับเคลื่อนชุดล้อทั้ง 4 เช่นกัน แต่ด้วยการปรับจูนใหม่ จึงทำให้พละกำลังสูงสุดของมันรวมกันเพิ่มขึ้นเป็น 517 PS กับแรงบิดสูงสุด 910 นิวตันเมตร ซึ่งทำให้รถสามารถเรียกอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 4.9 วินาทีได้สบายๆ แม้ว่ามันจะมีน้ำหนักตัวที่มากถึง 2,818 กิโลกรัมก็ตาม

ส่วนแบตเตอรี่ที่ให้มา ก็จะมีขนาดอยู่ที่ 107 kWh พร้อมเคลมรองรับระยะทางในการใช้งานสูงสุด 600 กิโลเมตร ซึ่งส่วนหนึ่งก็ต้องขอบคุณงานออกแบบตัวรถ ที่ทำให้มันมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศเพียง (Cd) 0.29 เท่านั้น

ขณะที่ระบบการชาร์จไฟกลับก็สามารถรองรับการชาร์จไฟแบบ DC ได้แรงสุด 250 kW ซึ่งช่วยให้รถสามารถชาร์จไฟจาก 10-80% ได้ภายในระยะเวลาเพียง 30 นาที

แน่นอนว่าข้อมูลที่ไล่เรียงมา ยังไม่ใช่รายละเอียดทั้งหมดของตัวรถที่ยังคงถูกซุกซ่อนเอาไว้ ซึ่งเรากก็มีแต่จะต้องมารออัพเดทกันต่อไป เมื่อถึงเวลาของการเปิดตัวรถสำหรับการวางจำหน่ายจริงกันอีกครั้งในเร็วๆนี้

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่