หลังการเปิดตัว Mercedes-EQB ไปเพียงไม่นาน ล่าสุด 2024 Mercedes-EQE SUV ก็ได้ถูกนำมาเปิดตัวในประเทศไทยของเราเองด้วยเช่นกัน

2024 Mercedes-EQE SUV ถือเป็นรถอเนกประสงค์ไฟฟ้าระดับรุ่นที่สองของทาง Mercedes-EQ ที่ต้องมาพร้อมกับรหัสห้อยท้ายว่า SUV ต่อจากพี่ใหญ่ Mercedes-EQS SUV เนื่องจากพวกมันต่างมี EQS และ EQE ร่างซีดานออกมาทำตลาดก่อนเหมือนกันทั้งคู่ ต่างจากรุ่นน้องทั้ง EQA, EQB, และ EQC ที่มีแต่โฉมรถอเนกประสงค์เท่านั้น ถูกทำออกมาวางจำหน่ายในตอนนี้

และถึงแม้ EQE SUV จะได้ชื่อว่าเป็นรถอเนกประสงค์พลังไฟฟ้าตัวเกือบใหญ่สุด ซึ่งหลายคนย่อมเข้าใจว่ามันควรจะต้องมาพร้อมกับขนาดตัวถังที่ไม่หนีไปจาก GLE ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน(หรือปลั๊กอินไฮบริด) ที่อยู่ในระดับเดียวกันเท่าไหร่นัก แต่ในความเป็นจริงแล้วมันกลับมีขนาดตัวที่เล็กกว่าพอสมควร

นั่นคือ ด้วยเลขมิติตัวรถของ EQE SUV ที่มีด้านยาว 4,863 มิลลิเมตร, ด้านกว้าง 1,940 มิลลิเมตร และด้านสูง 1,685 มิลลิเมตร จึงทำให้หากเทียบกับ GLE SUV แล้ว มันจะมีด้านยาวที่น้อยกว่า 61 มิลลิเมตร, ด้านกว้างน้อยกว่า 7 มิลลิเมตร, และด้านสูง ที่น้อยกว่าถึง 87 มิลลิเมตร

ไม่เพียงเท่านั้น ในส่วนพื้นที่ความจุสัมภาระในห้องโดยสารเอง ก็ยังน้อยกว่าด้วย เพราะในขณะที่ EQE SUV มีความสามารถในการจุสัมภาระภายในห้องโดยสารตั้งแต่ 580 – 1,675 ลิตร ฝั่ง GLE SUV จะสามารถใส่สัมภาระภายในห้องโดยสารได้ที่ 630 – 2,055 ลิตรเลยทีเดียว

อย่างไรก็ดี แม้ตัวเลขระยะฐานล้อของ EQE SUV จะอยู่ที่ 3,030 มิลลิเมตร ซึ่งยาวกว่า GLE SUV อยู่ 35 มิลลิเมตร แต่ด้วยความที่เจ้าอเนกประสงค์ไฟฟ้าคันนี้ มีระบบ Rear Wheel Steering หรือระบบล้อหลังหักเลี้ยวได้สูงสุด 10 องศา จึงทำให้รัศมีวงเลี้ยวแคบสุดของมันมีระยะเพียง 10.5 เมตร เท่านั้น (ส่วนรัศมีวงเลี้ยวแคบสุดของ GLE SUV อยู่ที่ 12.0 เมตร)

ด้านงานออกแบบภายนอก ยังคงเปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์และเส้นสายแบบรถจากตระกูล Mercedes-EQ ด้วยไฟหน้า DIGITAL LIGHT ที่ให้ความละเอียดสูงถึง 1.3 ล้านพิกเซลต่อ 1 โคมหลอด แบบ HD system พร้อมเทคโนโลยี ULTRA RANGE Highbeam ส่องสว่างได้ไกลถึง 650 เมตร และสามารถปรับการส่องสว่างระหว่างขับขี่บนท้องถนนได้อย่างต่อเนื่องตามสภาพการจราจรและสภาพอากาศ ด้านหลังดีไซน์ไฟท้าย 3D helix design แบบคาดยาวตลอดช่วงท้ายรถ ติดตั้งล้ออัลลอยด์แบบ AMG Multi-spoke ขนาด 21 นิ้ว

ส่วนงานตกแต่งชิ้นส่วนภายใน ก็แน่นอนว่าจะต้องโดดเด่นด้วยชุดหน้าจอแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์สุดจัดเต็ม Hyperscreen โดยที่โทนสีคอนโซลสุดเรียบหรู ก็เน้นโทนสีขาว-ครีม สะอาดตา ตรงแผงกลางคอนโซลปิดด้วยงานไม้เจาะช่องแสงลายดาว เบาะนั่งหุ้มหนังเจาะรูระบายอากาศไม่สะสมความร้อน แล้วยังเสริมอรรถรสในการใช้งานด้วยระบบเสียงจาก Dolby Atmos และสุขลักษณะของผู้ที่อยู่ในห้องโดยสารด้วยกรองแอร์ HEPA

ระบบลูกเล่นอื่นๆที่ถูกเสริมเข้ามาให้มันแตกต่างจากรถยนต์ทั่วๆไป ก็ยังมีทั้ง ระบบอัพเดทซอฟท์แวร์ตัวรถแบบ OTA, ระบบนำทาง ที่สามารถวางแผนเส้นทางให้ผ่านสถานีชาร์จต่างๆที่ใกล้เคียงได้, ระบบ Intelligent Park Pilot หรือระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ, ระบบ Eco Assist ช่วยประหยัดพลังงาน และเพิ่มปริมาณการชาร์จไฟกลับ เมื่อรถอยู่บนถนนที่มีการจราจรติดขัด, ระบบจำลองเสียงภายในห้องโดยสาร “Serene Breeze” เพื่อบรรยากาศและความผ่อนคลายภายในห้องโดยสาร หรือในทางกลับกัน จะโหลดเสียง “Roaring Pulse” เพื่อเพิ่มความรู้สึกสนุกสนานในการเติมคันเร่งรถขณะใช้งานก็ยังได้

ทั้งนี้ ตัวรถ Mercedes-EQE SUV ที่วางจำหน่ายในประเทศไทย จะมีรุ่นย่อยให้ลูกค้าได้เลือกซื้อ 1 รุ่นย่อย นั่นคือ

  • Mercedes-EQE 350 4Matic SUV AMG Dynamic
    มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัวให้กำลังรวมกันสูงสุด 292 แรงม้า กับแรงบิดสูงสุด 765 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนสี่ล้อ 4Matic พร้อมทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโเลมตร/ชั่วโมง ใน 6.6 วินาที มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุเดียวคือ ขนาด 89 kWh ซึ่งรองรับแรงดันการชาร์จไฟสูงสุด 170 kW สามารถชาร์จไฟจาก 0-80% ใน 32 นาที และมีการเคลมระยะทางในการใช้งานสูงสุด ต่อการชาร์จประจุไฟเต็มหนึ่งครั้งที่ 558 กิโลเมตร

โดยราคาสำหรับการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Mercedes-EQE SUVในประเทศไทย ได้มีการประกาศตัวเลขเริ่มต้นที่ 5,650,000 บาท พร้อมเปิดจองผ่านระบบออนไลน์ภายในวันนี้ เวลา 12.00 น.

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่