เพื่อไม่ให้คู่แข่งที่พากันปรับโฉมใหญ่ทิ้งห่างมากเกินไป Mazda CX-30 รุ่นปี 2023 จึงได้รับการปรับปรุงสเป็คใหม่ แถมยังใส่ฟีเจอร์สำคัญที่ไม่เคยมีมาก่อนในคลาสให้อีกด้วย

2023 Mazda CX-30 มาพร้อมกับงานตกแต่งภายนอกที่เรียบได้ว่าแทบจะเดิมสนิทกับรุ่นปี 2022 แต่สำหรับตัวรถที่ถูกวางจำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกานั้น หากเป็นรุ่นที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ Skyactiv-G แบบเบนซิน 4 สูบเรียง ไร้ระบบอัดอากาศ ขนาดความจุ 2.5 ลิตร ก็จะถูกปรับจูนกำลังเพิ่มขึ้นเป็น 194 แรงม้า PS กับแรงบิดสูงสุดอีก 252 นิวตันเมตร ซึ่งเท่ากับว่ามันมีแรงม้าเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 5 PS ด้วยกัน

และถึงแม้พละกำลังสูงสุดที่ได้จากเครื่องยนต์จะมากขึ้น แต่ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองกลับดีขึ้นเล็กน้อย เริ่มจาก 11.05 กิโลเมตร/ลิตร สำหรับการใช้งานในเมือง, 14.03 กิโลเมตร/ลิตร สำหรับการใช้งานนอกเมือง, และ 12.3 กิโลเมตร/ลิตร สำหรับการใช้งานเฉลี่ยรวม ซึ่งเท่ากับว่าดีขึ้นกว่าเดิมอีกราวๆ 0.8 กิโลเมตร/ลิตร เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน เนื่องจากระบบ Cylinder-Deactivation หรือระบบหยุดการสันดาปเชื้อเพลิงในห้องเผาไหม้เมื่อไม่จำเป็น ได้ถูกอัพเดทใหม่ ให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

อีกส่วนสำคัญของรถที่ได้รับการอัพเกรดเช่นกัน ก็คือการเพิ่มฟีเจอร์เพื่อความปลอดภัยให้กับผู้โดยสารตอนหลัง ตามคำเรียกร้องของหน่วยงาน Insurance Institute for Highway Safety (IIHS) จึงทำให้ในคราวนี้ตัวรถ CX-30 รุ่นใหม่ จะมาพร้อมกับชุดม่านถุงลมสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง, ระบบเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับ, แผ่นเสริมรองรับหน้าแข้งที่แผงประตู, และยังมีการปรับปรุงงานออกแบบโครงสร้างตัวถังบริเวณเสา B กับเสา C เพิ่มอีก

ด้านรายละเอียดอื่นๆของตัวรถ ล้วนยังคงเดิมกับรุ่นปี 2022 (สเป็คประเทศสหรัฐอเมริกา) ไม่ว่าจะเป็น การให้ชุดโคมไฟหน้า LED, เซนเซอร์ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ, ชุดล้ออัลลอยด์ 16 นิ้ว, งานตกแต่งภายในห้องโดยสารเน้นโทนสีดำ, ระบบกุญแจคีย์เลส, ระบบ Push-Start, ชุดหน้าจอแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์ขนาด 8.8 นิ้ว, ระบบเสียงลำโพง 8 จุด, ชุดหน้าจอแสดงผลข้อมูลรถขนาด 7 นิ้ว พร้อมมาตรวัดแบบเข็ม, และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เป็นออพชันพื้นฐานติดรถทุกรุ่นย่อย

ฝั่งระบบความปลอดภัยอื่นๆเพิ่มเติม อย่างระบบ i-Activsense ก็ยังคงมีมาให้เช่นเดิม โดยจะประกอบไปด้วย ระบบ Mazda Radar Cruise Control พร้อมระบบ Stop and Go, Smart Brake Support, High Beam Control, และ Lane Departure Warning พร้อม Lane Keep Assist ให้อย่างครบครันตามเดิม

อย่างไรก็ดี หากประเด็นในเรื่องขุมกำลัง ยังน่าอิจฉาไม่มากพอ เพราะในบ้านเราได้ใช้เพียงเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร อันที่จริงตัวรถ CX-30 ในประเทศสหรัฐอเมริกา ยังมารุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร พ่วงเทอร์โบชาร์จเจอร์ให้ลูกค้าได้เลือกซื้ออีก ซึ่งมันสามารถเบ่งพลังได้มากถึง 230 PS กับแรงบิดสูงสุดอีก 420 นิวตันเมตร หากใช้น้ำมันเบนซินออกเทน 87

และยังสามารถขยับตัวเลขกำลังสูงสุดขึ้นได้อีกนิด เป็น 253 PS กับแรงบิดสูงสุดอีก 433 นิวตันเมตร เมื่อใช้น้ำมันพรีเมียม (ออกเทน 91-93 แล้วแต่แบรนด์)

แน่นอน ในส่วนเครื่องยนต์ ทั้งบล็อค 2.5 ลิตร ไร้ระบบอัดอากาศ และ 2.5 ลิตร พ่วงเทอร์โบชาร์จ นั้น มีความเป็นไปได้น้อยมากๆ ที่มันจะถูกนำมาใส่ในรถ Mazda CX-30 ประเทศไทย แต่ในส่วนการปรับปรุงโครงสร้าง และออพชันระบบถุงลมนั้น มีความเป็นไปได้ว่าจะถูกใส่มาด้วย สำหรับตัวรถที่จะวางจำหน่ายในบ้านเราปีหน้า ก็เป็นได้

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่