เมอร์เซเดส เอเอ็มจี เขย่าวงการรถยนต์อีกครั้ง หลังจากฝากผลงานสปอร์ตไฮบริดที่แรงที่สุดไปแล้ว หนนี้ทางบริษัท แนะนำ เจ้าตำนาน สปอร์ตโรดสเตอร์รุ่นใหญ่ 2022 Mercedes AMG SL ไอคอนแห่งความสปอร์ต ที่สุดของแบรนด์
การแนะนำที่สุดของที่สุด เริ่มต้นด้วยการพัฒนารถใหม่หมด ด้วยโครงสร้างใหม่ Multi Material ใช้วัสดุหลายอย่าง ผสมผสานกันในการทำให้รถมีประสิทธิภาพสูงสุดในการขับขี่ไม่ว่าจะ เหล็ก ,แม็กนีเซียม อลูมิเนียม ซึ่งแน่นอนว่า โครงสร้างนี้จะเป็นพิมพ์เขียวให้กับบรรดา GT รุ่นต่อไป
การพัฒนาโครงสร้างใหม่นี้ ทนการบิดตัวดีขึ้น 18% การบิดแนวขวางดีขึ้น 50% ขณะที่ความแข็งแรงตามแนวยาวดีกว่ามากกว่า 40% ทางทีมวิศวกรยังออกแบบให้รถมีศูนย์ถ่วงต่ำลง ตัวโครงสร้างอย่างเดียวมีน้ำหนัก 270 กก.
ตัวรถรุ่นใหม่ ปรับปรุงขนาดให้ตอบสนองในการใช้งานได้ดีขึ้นมีความยาย 4,705 มม. ยาวกว่าเดิม 74 มม. ฐานล้อปรับปรุงใหม่ให้มีความยาว 2,700 มม. ลงตัวกับการออกแบบเป็นรถโรดสเตอร์ พร้อมกับกระจังหน้าพิเศษเฉพาะรุ่น
หลังคาผ้าใบถูกเลือกมาแทนหลังคาเหล็กดั้งเดิมช่วยลดน้ำหนักลงไปได้ 21 กก. การพับเก็บ แบบ Z Fold ช่วยประหยัดน้ำหนัก และพื้นที่ในการจัดเก็บ การใช้หลังคาผ้า ยังทำให้น้ำหนักถูกทิ้งลงที่ตัวรถ ช่วยทำให้น้ำหนักมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำลง การพับเก็บทำได้ระหว่างขับขี่ ที่ความเร็วไม่เกิน 60 ก.ม./ช.ม.โดยใช้เวลาพับเก็บเพียง 15 วินาทีเท่านั้น
ความพิเศษ ของ Mercedes AMG SL ยังไม่หมดเพียงแค่นี้ รถคันนี้ออกแบบให้มีความปราดเปรียว เพรียวลมสูงสุด ด้วยค่าสัมประสิทธิเสียดทานอากาศ เพียง 0.31 เท่านั้น เป็นตัวเลขที่ค่อนข้าดีทีเดียว สำหรับรถสปอร์ตเปิดหลังคา
การเล่นกับลมเวลาขับขี่ ไม่หมดเพียงเท่านี้ มันยังมาพร้อมกับ ระบบ Air Panel 2 ชิ้นครั้งแรก คอยควบคุมอากาศ ให้เป็นไปตามต้องการ ชิ้นแรกจะซ่อมอยู่ ช่องรับอากาศทางด้านล่าง ปกติ มันจะปิดอยู่
ระบบในรถจะทำการประมวลความสามารถในการระบายความร้อนว่าเพียงพอหรือไม่ ถ้าเพียงพอจะเปิดให้อากาศ ออกไปใต้รถ เพื่อลดอาการหน้าลอยในการหว่างการขับขี่ ชิ้นที่สองก็ทำหน้าที่แบบเดียวกันเพียงแต่ใช้ในความเร็วสูง เมื่อขับด้วยความเร็วมากกว่า 180 ก.ม./ช.ม.ระบบจะทั้งลดอาการหน้าลอยไปพร้อมกับ ระบายความร้อนระบบขับเคลื่อนในตัว
ระบบสปอร์ยเลอร์ปรับได้ เป็นอีกอย่งที่ถูกติดตั้งเข้ามาเพิ่มเติม มันสามารถปรับการทำงานตามที่ซอฟท์แวร์ ประมวลปัจจัยต่างๆ เช่นความเร็ว ,การตอบสนองคันเร่ง , การตอบสนองพวงมาลัย เจ้าสปอยเลอร์นี้สามารถปรับได้ มากถึง 5 โหมด
ลูกค้ายังสามารถเลือกออพชั่น Active Aerodynamic element ชิ้นส่วนนี้จะติดตั้งพร้อมกับบังใต้ท้อง มันจะทำงานร่วมกับโหมดการขับขี่ เพื่อสร้างแรงยึดเกาะกับถนนสูงสุด ลดการเคลื่อนตัวของ ช่วงล่างเวลาใช้ความเร็ว
ทางด้านการขับขี่ยังเป็นหน้าที่ของเครื่องยนต์ V8 ขนาด 4.0 ลิตร ภายใต้แนวคิดเดิม One man One Engine ขุมพลังเร้าใจสูงสุดด้วยกำลัง 586 แรงม้า ทำแรงบิดสูงสุด 800 นิวตันเมตร กว้างมากตั้งแต่ 2,500-4,500 รอบต่อนาที สามารถเร่ง 0-100 ในเวลา 3.6 วินาที ความเร็วปลายสูงสุด 315 ก.ม./ช.ม. ในรุ่นท๊อปสุด SL 63 4 Matic +
ทางด้านรุ่นรองลงมา SL 55 4 Matic + เครื่องยนต์ถูกทอนกำลังลงมาเหลือ 476 แรงมา้ ทำแรงบิดสูงสุด เพียง 700 นิวตันเมตร ถึงกำลังจะหายไปเยอะเรื่องการขับขี่ก็ยังเป็นเอก ด้วยอัตราเร่ง 0-100 ก.ม./ช.ม. ในเวลา 3.9 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 295 ก.ม./ช.ม.
ทั้งคู่พกระบบเกียร์ AMG SpeedShift MCT 9 G . ในขณะที่ทาง เอเอ็มจี ยืนยันว่า กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนารุ่นไฮบริดออกมาขายในอนาคตอันใกล้นี้
ทางด้านสมรรถนะการขับขี่ นอกจากเครื่องยนต์แล้ว ยังมีการติดตั้งช่วงล่าง five link ทางด้านหน้า รวมถึง เบรกเซรามิก ระบบช่วงเลี้ยวที่ล้อหลัง ทำงานในช่วงความเร็วต่ำ และล็อคให้อยู่ในตำแหน่งปกติ ในช่วงการขับความเร็วสูง
ในรุ่น 63 มีความลงตัวในการขับขี่เปี่ยมสมรรถนะมากกว่า ด้วย ระบบช่วงล่างถุงลม , ระบบ Active Roll Control ส่วนรุ่น 55 ยังคงเน้นความดิบแบบรถสปอร์ตปกติ
แม้จะเกิดมาเป็นที่สุดของรถสปอร์ต เจ้า SL ก็ยังคงเปี่ยมด้วยความสปอร์ต ผสมผสาานกับความทันสมัย และ ความหรูหรา เริ่มจาก การให้เบาะนั่งชิ้นเดียว ผสานหัวหมอนรองคอเข้าไปในตัวเบาะ และถ้าคุณเลือก AMG Performance Seat เบาะนั่งที่มีความอัจฉริยะในตัวชุดนี้ สามารถเพิ่มความโอบกระชับให้คุรได้ทันทีที่ ปรับเข้าสุ่โหมดการขับขี่อื่นๆ เช่น Sport,Sport+ และ Race เพื่อตอบสนองในการขับขี่
ลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าจะตบแต่งด้วยหนัง Nappa ทูโทน หรือ จะตบแต่งด้วย ผ้า Dinamica Race ที่ไม่เพียงแต่นั่้น ยังเลือกการตัดเย็บได้ระหว่าง สีแดง และสีเหลือง แถมยังมีระบบความร้อนที่ตัวเบาะ และฟังชั่นนวด 3 รูปแบบ
ตรงหน้าคนขับมาพร้อมชุดจอขนาด 12.3 นิ้ว ให้การบอกค่าระหว่างการขับขี่ที่มีความชัดเจน ส่วนคอนโซลหน้า ออกแบบให้มีความน่าสนใจด้วย จอวางตั้งขนาด 11.9 นิ้ว และยังสามารถจัดการปรับจอได้ ตั้งแต่ 12-32 องศา เพื่อลดการสะท้อนเวลาขับขี่
แต่ที่แปลกใจ เป็นเบาะนั่งหลัง ที่แม้ว่ารถคันนี้จะพุดว่า ตัวเองเป็นสปอร์ตแบบ 2+2 ก็พร้อมต้อนรับผู้โดยสารที่สูงเพียง 1.5 เมตร เท่านั้น ซึ่งถ้าเพื่อคุณไม่เป็นสเมิร์ฟ หรือ เด็กเล็ก ก็คงนั่งไปด้วยกันลำบาก
ลูกค้ายังสามารถเลือกออพชั่นอย่าง AMG Track PACE ทางเอเอ็มจี จะใส่โปรแกรมเพิ่มเข้ามาในระบบ MBUX ทำการเก็บข้อมูลในระหว่างการขับขี่ได้ถึง 80 ค่า และยังสามารถเชื่อมต่อไปออนไลน์ไปยังอุปกรณ์ที่ต้องการ
รวมถึงยังมีระบบ Race Navigation ใช้ Head Up Display ในการบอกไลน์ จุดเลี้ยว, จุดเบรก เพื่อให้คุรขับรถคันนี้ดั่งเซียน ได้อย่างง่ายดายมากขึ้น
2022 Mercedes AMG SL แววว่าจะมาขายไทย ก็ยังพอมี หลังจากการแนะนำรถรหัส GT ในตลอดหลายปีที่ผ่านมา เราเชื่อว่า ทางเมอร์เซเดส ประเทศไทย คงจะไม่พลาดที่นำรถรุ่นนี้มาลูกค้าได้จับจอง กันอย่างแน่นอน ในอนาคตอันใกล้นี้