รถยนต์ในยุคใหม่ มีหลายอย่างที่เปลี่ยนไปมากมาย ด้วยความก้าวหน้าทางวิศวกรรม ทำให้ เราได้เห็นหลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนไป หนึ่งในนั้นคงหนีไม่พ้นยางรถสมัยนี้ชอบให้ล้อขอบโต พกยางแก้มเตี้ย (Low Profile Tire) จนเราเริ่มคุ้นตา

ยางแก้มเตี้ย หรือ Low Profile  Tire  ไม่ใช่ของใหม่ในโลกยานยนต์ ยางแบบนี้เดิมทีแนะนำเพียงในรถสปอร์ตราคาแพง ในระยะหลังด้วยความต้องการของลูกค้า ที่ชอบซื้อรถขับออกไปโชว์รูมก็วนเข้าร้านแม็กร้านยางเปลี่ยนล้อกันเป็นว่าเล่น บริษัทรถยนต์เริ่มเห็นประโยชน์ของมัน ในมุมสร้างมูลค่าผลิตภัณฑ์ ตลอดจนยังให้ความสวยงาม เป็นที่ถูกใจนักออกแบบทั้งหลาย รวมถึงลูกค้า จนสบโอกาสแนะนำยางแบบนี้ออกสู่รถยนต์สมัยใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่มรถเก๋ง

ยางแก้มเตี้ย ในเชิงวิศวกรรม มีประโยชน์มากในแง่สมรรถนะในการขับขี่ ผลการศึกษาทุกยุคสมัยชี้ว่ายางที่มาพร้อมอัตราสัดส่วนแก้มยาง (Aspect Ratio)   น้อยลง จะทำให้หน้าสัมผัสยางนาบกับถนนดีขึ้น มันช่วยให้เวลาขับขี่รู้สึกได้ถึงความมั่นใจขึ้น ขอบยางบางยังส่งผลงต่อการโคลงตัวของรถเมื่อมีการหักเลี้ยว อาทิ เวลาเปลี่ยนเลนกะทันหัน หรือ ใช้ความเร็วในโค้ง  ระบบผ่อนแรงใหม่ๆ ช่วยให้ควบคุมง่ายขึ้น ตลอดจนในแง่ความปลอดภัย มันยังให้ระยะเบรกสั้นกว่าเล็กน้อยด้วย

ข้อดีมากมาย ทำให้บริษัทรถยนต์เริ่มใส่ยางแบบนี้มาให้พวกเรามากขึ้น พวกเขากลบข้อเสียด้วยการเซทช่วงล่างใหม่ ตลอดจนจัดการในเชิงวิศวกรรมต่างๆ อีกมาก จนทำให้ยางที่น่าจะนั่งแล้วแข็งประดุจเกวียนกลับนั่งได้อย่างสบายไร้ปัญหากวนใจ

สิ่งเดียวที่ดูจะเป็นปัญหามากที่สุด คือความยังไม่เข้าใจของเจ้าของรถ หรือ ผู้ใช้งาน พวกเขาควรถนอมและขับด้วยความระมัดระวัง บ่อยครั้งเราพบว่า รถที่ใช้ยางแบบนี้มีปัญหายางแก้มฉีก หรือ แก้มยางได้รับความเสียหายอย่างเฉียบพลัน มันทำให้น่าหงุดหงิดใจ ทั้งยังเสียเวลาอีกด้วย
การตกกระแทกหลุมด้วยความรุนแรง , การปีนขอบฟุตบาท หรือเบียดพื้นต่างระดับที่มีความสูง อาจสร้างความเสียหายต่อแก้มยางมากกว่า ยางปกติทั่วไป กลายเป็นปัญหาที่คนใช้รถยางแก้มเตี้ยผ่านประสบการณ์มาแล้วทั้งนั้น แถมยังไม่มีทางอื่นได้จะซ่อมมันได้ นอกจากเปลี่ยนยางอย่างเดียว

ที่สำคัญ ยางแก้มเตี้ย จำเป็นต้องหมั่นดูแลลมยางสม่ำเสมอ เพื่อให้ยางไม่ผิดรูปเวลารับแรงกระแทกที่หน้ายาง คำเตือนข้างรถที่ใช้ยางแก้มเตี้ย จึงมักแสดงความเป็นห่วงต่อผู้ใช้เสมอว่า ควรเติมลมยางเป็นประจำตามสเป็คที่กำหนดเอาไว้ ซึ่งรายละเอียดลมยาง จะเปลี่ยนไปตามสถานการณ์การใช้งานต่างกันด้วย เช่น คุณขับรถคนเดียว จะใช้ลมยางแบบหนึ่ง ถ้านั่ง 4 คน หรือขนของเต็มคัน จะต้องเติมลมเพิ่ม ตามที่กำหนด เพื่อไม่ให้น้ำหนักกดทับเพิ่มส่งผลต่อการการซับแรงจากถนน จนสร้างแรงเครียดต่อแก้มยาง

ในด้านหนึ่งด้วยความห่วงใยจากบริษัทรถยนต์ จึงมักติดตั้งระบบ  Tire Pressure Monitor System  เข้ามาช่วยตรวจสอบลมยางตลอดเวลาที่เราขับขี่ เมื่อยางเกิดรั่ว จะเตือนผู้ขับขี่ทันที ช่วยให้ผู้ใช้ไม่เสี่ยงต่อเหตุการณ์ยางระเบิด แต่หลายครั้งก็กลายเป็นการสัญญาณหลอก เนื่องจากระบบนี้ดูจังหวะหมุนของยาง เมื่อคุณเกิดเบรกแรง หรือ ตกกระแทกอย่างแรง บางครั้งระบบจะเตือนผิดพลาด ทั้งที่ยางรถคุณไม่ได้มีปัญหาใดๆ

ทางด้านผู้ใช้รถที่มียางแก้มเตี้ยเอง สมควรจะต้องตระหนักในการใช้งานมีความระมัดระวังมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม Ultra Low Profile  ที่มี Aspect Ratio น้อยกว่า 35 ลงมา (ล้อขอบ 18-19 ขึ้นไป)  ยางจะมีแก้มบางมากเป็นพิเศษ อาจมีปัญหาถนนบางแบบ เช่น ถนนเป็นลูกคลื่น ไม่เรียบ มีความต่างระดับ จังหวะคอสะพาน ถนนขุรขระกำลังก่อสร้าง มีหินกรวดเล็ก สามารถสร้างปัญหาให้กับยางแบบนี้ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ดังนั้นถ้าขับผ่านทางเหล่านี้ ต้องผ่อนความเร็วเสมอ

ยางแก้มเตี้ย อาจเป็นของดีในโลกวันใหม่ หากก็จำเป็นต่อการดูแลรักษาและใช้งานอย่างถูกต้องด้วย ยางแบบนี้ คุณสมควรศึกษา ข้อมูลการเติมลมยางให้ดี อย่าละเลยพวกมันเด็ดขาด  รวมถึงต้องพึงระลึกเสมอเวลาขับในถนนเมืองไทย ต้องระวังให้ดี จะได้ไม่มีปัญหายางแก้มฉีกมากวนใจ



แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่