ขับรถทุกวันหลายคนนี่ก็สรรพแต่ขับกันอย่างเดียวนะ เพื่อนๆไม่รู้หรือครับว่ารถยนต์ต้องการการดูแลเอาใจใส่ เพราะเพียงเรื่องเล็กน้อยที่คุณไม่คิดก็อาจจะพาคุณถึงจุดจบได้

อันที่จริงมันมีหลายเรื่องที่ต้องดูแลกันมากมายเลยล่ะ แต่เรื่องหนึ่งที่อยากจะพูดถึงเลยวันนี้ เป็นห่วงจริงๆ นะ คือ “ลมยาง” ซึ่งหลายคนอาจจะคิดว่ามันไม่สำคัญ ใช้ไป แบนแล้วค่อยเติใหม่ ทั้งที่ความจริง ที่คิดมานั้นผิดมหันต์

ถ้าคุณจินตนาการไม่ออกให้นึกว่าตอนขับรถ คุณขับรถอย่างเดียวสัมผัสพื้นถนนก็คือยางรถยนต์ทั้งสี่ล้อ … แน่นอนเราควรใส่ใจมันเป็นประจำ เหตุด้วยเราต้องพึ่งพามันตลาดทุกการเดินทาง

ลมยาง คือ ส่วนประกอบหนึ่งของยางรถยนต์ มันช่วยพองตัวยางให้อยู่ในระนาบที่เหมาะสมต่อการใช้งาน การเติมลมยางไม่ได้จำเป็นต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญอย่างที่หลายคนเข้าใจ คุณก็คงรู้ใช่ไหมว่าเด็กปั้มไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องราวเกี่ยวกับรถมากกว่าคุณสักเท่าไร ดังนั้นมันจะยางอะไรถ้าคุณจะลองทำเองบ้าง

แล้วเติมลมเท่าไร???  คุณคงคิด

ถ้ารถคุณไม่ได้เปลี่ยนล้อและยางใหม่ ก็สามารถดูได้ที่ข้างประตูคนขับ มันจะมีสติกเกอร์บอกอยู่ หาตัวเลขที่กำกับด้วยหน่วย   PSI  เท่าไรก็ไปกดเครื่องเติมลมเท่านั้น แล้วจัดการเติมเสีย

ถ้าในกรณีคุณเปลี่ยนยางหรือล้อมาใหม่ อันนี้ก็เติมสุดแท้แล้วแต่ต้องการ แต่ผมเองมักจะมีคำแนะนว่าไม่ควรเติมลมยางน้อยกว่า   33   PSI  สำหรับแม็กขนาดใหญ่ เพราะว่าคุณอาจจะทำแมกดุ้งหรือยางแตกได้ ถ้าเกิดการกระแทกแรงๆ ระหว่างการขับขี่ แต่ถ้าคุณต้องการเติมลมยางเยอะเข้าว่า แนะนำว่าอ่านที่ตัวเลขข้างยางว่า  Max Pressure  ที่ยางเส้นนั้นจะรับได้มีเท่าไร แล้วเติมมันสักประมาณ   80%  ก็พอ เช่น ยางรับได้  50 PSI  คุณเติมสัก   40  PSI  ก็พอ

ลมยาง

อย่างไรก็ดี มันมีทริคในการเติมลมยางอยู่บ้าง ถ้าคุณขับรถใช้งานทุกวัน ก็ไม่ควรเติมยางแข็งมาก เพราะจะทำให้รถสะเทือนเกินไป แต่ถ้าคุณขับรถเร็วบ่อยครั้ง หรือวิ่งต่างจังหวัดนานๆ  ก็เติมลมยางให้แข็งหน่อย เพื่อช่วยกันแม็กดุ้งหรือคด ยามกระแทกหลุมอย่างไม่ตั้งใจ

และท้ายสุด คุณควรตรวจสอบลมยางเป็นประจำทุกเดือน เพื่อให้ยางรถคุณอยู่ในภาวะเหมาะสมเสมอเสมอ โดยมีรายงานว่าทุกครั้งที่ยางรถยนต์มีลมยางอ่อนกว่า  3 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว ( PSI)  มันจะซดน้ำมันมากขึ้นราว 5%

ดังนั้นหมั่นเช็คลมยางเป็นประจำนะครับ

 

เรื่องโดยดินน้ำมัน

 

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่